สรุปสถานการณ์ไวรัส COVID-19 วันที่ 21 พ.ค. 2020 / คนไข้คนสุดท้ายของรัฐ SA

ข่าวออนไลน์สำนักข่าว ABC วันที่ 21 พ.ค. 2020 เสนอข่าวคนไข้ติดเชื้อ COVID-19 คนสุดท้ายของรัฐเซาท์ออสเตรเลียได้ออกจากโรงพยาบาล Royal Adelaide

21 พ.ค. 2020 ยอดผู้ติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือ COVID-19 สะสมในออสเตรเลียวันนี้เพิ่มขึ้นอีก 2 รายเป็น 7,081 คน ส่วนยอดผู้เสียชีวิตยังคงอยู่ที่ 100 คน และผลการทดสอบการตรวจเชื้อทั่วประเทศทำไปแล้ว 1,137,684 คน พบผู้ติดเชื้อที่เฉลี่ย 0.6%

ในวันนี้เหลือผู้ป่วยติดเชื้อทั้งสิ้น 509 คน เป็นผู้เข้ารักษาตัวอยู่ในโรงพยาบาลทั่วประเทศ 41 คน รักษาตัวในห้องไอซียู 9 คน ส่วนที่เหลือเก็บตัวพักฟื้นอยู่ตามศูนย์กักตัวและสถานที่พักส่วนบุคคล

จากภาพข่าวด้านบน รัฐเซาท์ออสเตรเลียได้ปลอดคนไข้ติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 ตามรัฐเวสเทิร์นออสเตรเลียและออสเตรเลียนแคพิทอลเทร์ริทอรี (ACT) หลังจากนาย Paul Faraguna ผู้ป่วยวัย 68 ปีกลายเป็นคนไขคนสุดท้ายของโรงพยาบาล Royal Adelaide (RAH) และของรัฐเซาท์ออสเตรเลียที่ได้รับอนุญาตออกจากโรงพยาบาลในตอนบ่ายของวันพฤหัสที่ 21 พฤษภาคม

นาย Faraguna เข้ารับการรักษาตัวเมื่อ 2 เดือนที่ผ่านมา หลังจากติดเชื้อขณะท่องเรือสำราญ Ruby Princess หกวันหลังจากเข้ารับการรักษาตัว อาการของเขาหนักขึ้นจนต้องส่งเขาห้องไอซียู

นาง Karen Shutz หัวหน้าฝ่ายพยาบาลของโรงพยาบาล RAH กล่าวว่า แรกทีเดียวคณะแพทย์ทำใจไว้แล้วว่านาย Faraguna มีโอกาสรอดชีวิตน้อยมาก หากรอดก็มีโอกาสสูงที่สมองของเขาจะถูกทำลายหรือเป็นอัมพาต แต่เหมือนมีปาฏิหาริย์มาเป็นของขวัญให้เขาหายป่วยด้วยร่างกายสมบูรณ์ใกล้เคียงกับตอนก่อนติดเชื้อ

หลังจากนี้ไปนาย Faraguna ผู้ปลอดเชื้อ COVID-19 แล้วจะเข้ารับการบำบัดและฟื้นตัวต่อที่โรงพยาบาล Modbury เพื่อสามารถกลับมาเดินได้เป็นปกติ

ข่าวออนไลน์นสพ. The SMH วันที่ 21 พ.ค. 2020 เสนอข่าว ชาวออสเตรเลียประมาณ 10,000 คนส่วนใหญ่ในวัย 30 ถึง 34 ปีได้ยกเลิกการประกันสุขภาพเอกชนท่ามกลางการระบาดของไวรัสโคโรนา 2019 อันเนื่องมาจากปัญหาทางรายได้ของพวกเขา

สรุปสถานการณ์ไวรัสโคโรนา 2019 ทั่วโลกล่าสุด

ผู้ติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือ COVID-19 สะสมทั่วโลก 50 ประเทศแรก ณ เวลา 23.00 น. ของวันที่ 21 พฤษภาคม 2020 จากข้อมูลของมหาวิทยาลัยจอห์นฮอปกินส์มีผู้ติดเชื้อทั่วโลกแล้ว 5,034,458 คน แยกเป็นประเทศสหรัฐอเมริกา 1,555,537 คน, รัสเซีย 317,554 คน, บราซิล 291,579 คน, สหราชอาณาจักร 252,234 คน,  สเปน 232,555 คน, อิตาลี 227,364 คน, ฝรั่งเศส 181,700 คน, เยอรมนี 178,748 คน, ตุรกี 152,587 คน, อิหร่าน 129,341 คน, อินเดีย 113,461 คน, เปรู 104,020 คน, จีน 84,063 คน, แคนาดา 81,575 คน, ซาอุดิอาระเบีย 65,077 คน, เม็กซิโก 56,594 คน, เบลเยี่ยม 56,235 คน, ชิลี 53,617 คน, ปากีสถาน 48,091 คน, เนเธอร์แลนด์ 44,900 คน, กาตาร์ 38,651 คน, เอกวาดอร์ 34,854 คน, เบลารูส 33,371 คน, สวีเดน 32,172 คน, สวิตเซอร์แลนด์ 30,694 คน,  โปรตุเกส 29,912 คน, สิงคโปร์ 29,812 คน, บังคลาเทศ 28,511 คน, สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ 26,004 คน, ไอร์แลนด์ 24,315 คน, อินโดนีเซีย 20,162 คน, โปแลนด์ 19,983 คน, ยูเครน 19,706 คน, แอฟริกาใต้ 19,137 คน,  คูเวต 18,609 คน, โคลัมเบีย 17,687 คน, โรมาเนีย 17,585 คน, อิสราเอล 16,670 คน, ออสเตรีย 16,404 คน, ญี่ปุ่น 16,385 คน, อียิปต์ 14,229 คน, สาธารณรัฐโดมินิกัน 13,477 คน,  ฟิลิปปินส์ 13,434 คน, เดนมาร์ก 11,380 คน, เกาหลีใต้ 11,122 คน, เซอร์เบีย 10,919 คน, ปานามา 9,977 คน, อาร์เจนตินา 9,283 คน, สาธารณรัฐเช็ก 8,721 คน,และอัฟกานิสถาน 8,676 คน, / ออสเตรเลีย 7,081 คน,และ / ประเทศไทย 3,037 คน (ไทยอยู่อันดับที่ 72 ของโลก วันนี้มีผู้ป่วยเพิ่ม 3 คน เป็นการติดเชื้อในประเทศที่ค่อนข้างน่าเป็นห่วง) 

และผู้เสียชีวิตจากข้อมูลของมหาวิทยลัยจอห์นฮอปกินส์มีทั้งสิ้น 329,186 คน แยกผู้เสียชีวิตจากมากไปหาน้อยดังนี้ สหรัฐ 93,558 คน, สหราชอาณาจักร 36,124 คน, อิตาลี 32,330 คน, ฝรั่งเศส 28,135 คน, สเปน 27,888 คน, บราซิล 18,859 คน, เบลเยี่ยม 9,186 คน, เยอรมนี 8,195 คน, อิหร่าน 7,249 คน, แคนาดา 6,150 คน, เม็กซิโก 6,090 คน, เนเธอร์แลนด์ 5,794 คน, จีน 4,638 คน, ตุรกี 4,222 คน, สวีเดน 3,871 คน, อินเดีย 3,457 คน, รัสเซีย 3,099 คน, เปรู 3,024 คน, เอกวาดอร์ 2,888 คน, สวิตเซอร์แลนด์ 1,893 คน, ไอร์แลนด์ 1,571 คน, อินโดนีเซีย 1,278 คน, โปรตุเกส 1,277 คน, โรมาเนีย 1,151 คน, ปากีสถาน 1,017 คน, โปแลนด์ 965 คน,  ฟิลิปปินส์ 846 คน,  ญี่ปุ่น 771 คน, อียิปต์ 680 คน, ออสเตรีย 633 คน, โคลัมเบีย 630 คน, ยูเครน 579 คน, อัลจีเรีย 568 คน, เดนมาร์ค 561 คน,และชิลี 544 คน, / ออสเตรเลีย 100 คน (แยกเป็นน.ซ.ว. 47 คน, วิกตอเรีย 18 คน, แทสเมเนีย 13 คน, เวสเทิร์นออสเตรเลีย 9 คน, ควีนสแลนด์ 6 คน, เซาท์ออสเตรเลีย 4 คนและ ACT 3 คน) และประเทศไทย 56 คน

มีผู้ป่วยได้รับการรักษาจนหายแล้วข้อมูลจากสารนุกรมเสรีวิกิพีเดียมีทั้งสิ้น 1,909,701 คน เรียงจากมากไปหาน้อย สหรัฐอเมริกา 301,341 คน, เยอรมนี 156,802 คน, สเปน 150,376 คน, อิตาลี 132,282 คน, ตุรกี 113,987 คน, บราซิล 116,683 คน, อิหร่าน 98,808 คน, รัสเซีย 92,681 คน, จีน 78,249 คน (เหลือผู้ป่วย 84 คน),  ฝรั่งเศส 63,354 คน, อินเดีย 45,300 คน, เปรู 41,968 คน, แคนาดา 41,098 คน, เม็กซิโก 38,876 คน, ซาอุดิอาระเบีย 33,478 คน, สวิตเซอร์แลนด์ 27,800 คน, ชิลี 22,504 คน, เบลเยี่ยม 14,988 คน, ออสเตรีย 14,882 คน (เหลือผู้ป่วย 804 คน), อิสราเอล 13,504 คน, ปากีสถาน 14,155 คน, ญี่ปุ่น 12,286 คน, สิงคโปร์ 12,117 คน, เบลารุส 12,057คน, สหรัฐอาหรับอิมิเรทต์ 11,809 คน, โรมาเนีย 10,356 คน, เกาหลีใต้ 10,135 คน (เหลือผู้ป่วย 728 คน), เดนมาร์ก 9,536 คน (เหลือผู้ป่วย 1,027 คน), โปแลนด์ 8,452 คน, นอร์เวย์ 7,999 คน (เหลือผู้ป่วย 48 คน),และ / ออสเตรเลีย 6,444 คน (เหลือผู้ป่วย 533 คน ยอดแท้จริง 508 คน), ประเทศไทย 2,897 คน (เหลือผู้ป่วย 84 คน ไล่ตามทันจีนแล้ว),  (หมายเหตุ ที่มีวงเล็บต่อท้ายเป็นประเทศที่ประสบความสำเร็จในการรักษาผู้ป่วยจนเหลือต่ำกว่า 2,500 คน และสหราชอาณาจักรเป็นประเทศเดียวที่ไม่มีรายงานผู้หายป่วยมาตั้งแต่แรก)

ภาพกร๊าฟของกระทรวงสาธารณสุขออสเตรเลียแสดงผู้ป่วยติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 ในระหว่างวันที่ 22 มกราคม 2020 ถึง 21 พ.ค. 2020  ในรูปแบบของกร๊าฟแท่งสีฟ้าแสดงยอดผู้ติดเชื้อเพิ่มขึ้นในแต่ละวัน ในช่วงระหว่างวันที่ 12 เม.ย. ถึง 21 พ.ค.ยอดผู้ติดเชื้อรายใหม่อยู่ที่เฉลี่ยเพิ่มขึ้นเป็นวันละ 19.73 คน

ภาพกร๊าฟของกระทรวงสาธารณสุขออสเตรเลียแสดง ผู้ป่วยติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 ในระหว่างวันที่ 22 มกราคม 2020 ถึง 21 พฤษภาคม 2020 ในรูปแบบของกร๊าฟเส้นสีฟ้าแสดงยอดยอดสะสม

รายงานยอดผู้ติดเชื้อ COVID-19 ในออสเตรเลีย

ผู้ติดเชื้อไวรัส COVID-19 จากตัวเลขล่าสุดโดยกระทรวงสาธารณสุขออสเตรเลีย ณ 15.00 น. ของวันที่ 21 พฤษภาคม 2020 มีผู้ติดเชื้อ 7,081 คน  โดยมีผู้ติดเชื้อเพิ่มขึ้น 2 คนนับจากเวลา 15.00 น.ของเมื่อวานนี้สามารถแยกผู้ป่วยเป็น (ม.จอห์นฮอปกินส์ระบุออสเตรเลียมีผู้ติดเชื้อ 7,081 คน ส่วนวิกีพีเดียระบุ 7,077 คน)

รัฐน.ซ.ว. 3,082 คน, รัฐวิกตอเรีย 1,581 คน, รัฐควีนสแลนด์ 1,058 คน, รัฐเวสเทิร์นออสเตรเลีย 557 คน, รัฐเซาท์ออสเตรเลีย 439 คน, รัฐแทสเมเนีย 228 คน, ออสเตรเลียนแคพิทอลเทร์ริทอรี 107 คน,  นอร์เทิร์นเทร์ริทอรี 29 คน 

ในจำนวนนี้เสียชีวิตสะสมที่ 100 คน มีผู้รักษาหาย 6,472 ราย, มีการทดสอบการตรวจเชื้อทั่วประเทศแล้วกว่า 1,137,000 คน โดยพบผู้ติดเชื้อในอัตรา 0.6%   

ในจำนวนผู้ติดเชื้อรวมถึงผู้มาจากเรือสำราญ Diamond Princess จำนวน 10 คน แยกเป็นรัฐวิกตอเรีย 4 คน, ควีนสแลนด์ 3 คน, เวสเทิร์นออสเตรเลีย 2 คน และเซาท์ออสเตรเลีย 1 คน

ข่าวออนไลน์นสพ. The NT News  วันที่ 21 พ.ค. 2020 เสนอข่าวการปลดล็อคเปิดพรมแดนของดินแดน NT ตามความเห็นของบิ๊กบอสทางการท่องเที่ยว(ที่จริงโจ้นิวส์ไม่สามารถเข้าไปอ่านรายละเอียดได้) แต่นสพ. NT News จั่วหัวว่าเป็นเดือนสิงหาคม หรือหลังแผนรัฐบาลกลางปลดล็อคเฟส 3 หนึ่งเดือน

ยอดผู้ติดเชื้อในประเทศนิวซีแลนด์และในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้

ส่วนยอดผู้ติดเชื้อในนิวซีแลนด์ในวันนี้อยู่ที่ 1,503 คน มีผู้เสียชีวิต 21 คน และรักษาหายแล้ว 1,452 คน

ในกลุ่มประเทศเอเชียตะวันออกเฉียงใต้มีผู้ติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 สะสมเรียงจากมากไปหาน้อยดังนี้  สิงคโปร์ 29,812 คน, อินโดนีเซีย 20,162 คน, ฟิลิปปินส์ 13,434 คน, มาเลเซีย 7,059 คน, ไทย 3,037 คน, เวียดนาม 324 คน, พม่า 199 คน, บรูไน 141 คน, กัมพูชา 122 คน, ติมอร์-เลสเต 24 คน,และลาว 19 คน (ลาวมีผู้ติดเชื้อเป็นศูนย์มา 37 วันติดต่อกัน)

ยอดผู้เสียชีวิตในกลุ่มประเทศเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ประกอบด้วยอินโดนีเซีย 1,278 คน, ฟิลิปปินส์ 846 คน, มาเลเซีย 114 คน, ประเทศไทย 56 คน, สิงคโปร์ 23 คน, พม่า 6 คน, บรูไน 1 คน, เวียดนาม 0 คน, กัมพูชา 0 คน, ลาว 0 คนและติมอร์-เลสเต 0 คน

 

jingjonews.com

jingjonews@hotmail.com (งดใช้ชั่วคราว)

Jingjonews เป็นสื่อออนไลน์มีวัตถุประสงค์เพื่อการเผยแพร่ข่าวสาร, บทความและประชาสัมพันธ์เพื่อชุมชน โดยปลอดจากการโฆษณาในเชิงพาณิชย์



Categories: ข่าวออสเตรเลีย

Tags: , , , , , , , ,

Leave a Reply

%d bloggers like this: