
ข่าวออนไลน์สำนักข่าว ABC วันที่ 13 พ.ค. 2020 เสนอข่าวน.ส. Visaya Hoffie นอนรักษาตัวจากอุบัติเหตุถูกรถไฟใต้ดินในนิวยอร์กทับในช่วงที่โรงพยาบาลที่เธอรักษาเปลี่ยนมาเป็นสถานที่รักษาผู้ป่วยติดเชื้อโคโรนา 2019
14 พ.ค. 2020 ข่าวนี้ถูกนำเสนอมาอย่างต่อเนื่องถึงชะตากรรมที่เกิดกับน.ส. Visaya Hoffie ผู้ตกลงไปในรางรถไฟและถูกรถไฟใต้ดินวิ่งทับที่สถานีรถไฟ 14th Street ในแมนฮัตตันนครนิวยอร์กเมืองที่เป็นศูนย์กลางของไวรัสโคโรนา 2019 ในปัจจุบัน
ในชั่วโมงแรก ๆ ของวันที่ 11 มกราคมที่ผ่านมา Visaya วัย 21 ปีได้ตกจากชานชลาของสถานีรถไฟ 14th Street ลงไปบนรางรถไฟ แล้วเธอถูกรถไฟที่กำลังวิ่งมาทับ
เธอนอนหมดสติอยู่บนรางประมาณ 20 นาที ก่อนที่สิ่งไม่คาดคิดจะเกิดขึ้น ก็คือเธอถูกรถไฟอีกขบวนหนึ่งชน เธอซ้ำอีก ก่อนที่จะมีผู้มาพบแล้วรถพยาบาลนำส่งไปรักษาตัวที่โรงพยาบาล Bellevue ริมแม่น้ำ East River ของนิวยอร์ก ทางใต้ของสำนักงานใหญ่องค์กรสหประชาชาติ อันเป็นโรงพยาบาลเก่าแก่ของรัฐบาล
เธอเข้ารับการรักษาตัวอย่างดีที่โรงพยาบาล ก่อนที่สหรัฐจะมีผู้ติดเชื้อไวรัสโคโรนารายแรกเกิดขึ้นในวันที่ 20 มกราคม แล้วแพร่กระจายอย่างรวดเร็ว
เมื่อเวลาผ่านมาถึงเดือนมีนาคมทุกชั้นของโรงพยาบาลได้กลายเป็นสถานดูแลรักษาผู้ป่วย COVID-19 รอบโรงพยาบาลเต็มไปด้วยตู้แช่งเย็นเรียงกันเป็นตับเพื่อบรรจุศพผู้เสียชีวิตจากไวรัสร้าย โรงพยบาลกลายเป็นดินแดนที่ไม่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม
เพื่อความปลอดภัยโรงพยาบาลอนุญาตให้เฉพาะบุคลากรแนวหน้าทางการแพทย์เข้าไปในเขตโรงพยาบาลเท่านั้น บุคคลนอกจากนี้ห้ามเข้าเด็ดขาด
มีอยู่เพียงคนเดียวคือนาง Patricia Hoffie จากนครบริสเบนมารดาของ Visaya ที่ได้รับอนุญาตเป็นกรณีพิเศษให้เข้าไปในโรงพยาบาลได้
ตลอดเวลา 2 เดือนเธออยู่ข้างเตียงนอนบุตรสาวไม่ห่าง และไม่ออกไปไหน เพราะสภาพภายนอกห้องแวดล้อมไปด้วยไวรัส COVID-19 จนเธอกล่าวว่า โควิดคือ “วอลล์เปเปอร์ของฉัน”
นพ. Vishal Thanik หัวหน้าฝ่ายจุลศัลยกรรมของโรงพยาบาล Bellevue กล่าวถึงอาการของ Visaya ได้รับบาดเจ็บกะโหลกร้าว, กระดูกคอร้าว, ขาขวาส่วนล่างและเท้าซ้ายแหลกเหลว
เมื่อเธอถูกนำมาที่โรงพยาบาลไม่มีใครรู้ว่าเธอเป็นใคร ซึื่อที่ทางโรงพยาบาลตั้งให้เธอชั่วคราวก็คือ ‘Trauma Ohio’
จนกระทั่งวันที่ 13 มกราคมนาง Hoffie มารดาและ Tom ลุง (หรือน้า) ของเธอได้บินจากนครบริสเบนมาถึงนครนิวยอร์กโดยผ่านนครลอสแอนเจลิสมาถึงโรงพยาบาล Bellevue ถามหาคนไข้ชื่อน.ส. Visaya Hoffie แต่เจ้าหน้าที่แผนทะเบียนผู้ป่วยไม่พบคนไข้ชื่อนี้
ต่อเมื่อเธอบอกว่าคนไข้ที่ได้รับบาดเจ็บจากถูกรถไฟใต้ดินทับ เจ้าหน้าที่ทราบทันทีว่าเธอคือ Trauma Ohio ทำให้โรงพยาบาลทราบว่าผู้บาดเจ็บนิรนามเป็นใคร
หลังจาก Tom บินกลับนครบริสเบนไปแล้ว ตลอดเวลา 6 สัปดาห์แรกนาง Hoffie แทบจะไม่ได้ห่างเตียงของบุตรสาว เจ้าหน้าที่ได้จัดเตียงนอนชั่วคราวให้เธอนอนในห้องไอซียู ซึ่งในสภาพปกติไม่สามารถทำได้ แต่การที่มีเธออยู่สามารถแบ่งเบาภาระของแพทย์และพยาบาลในช่วงเวลาวิกฤติได้มาก
เนื่องจาก Visaya ต้องถูกตัดขาทั้งสองข้าง เธอไม่สามารถขยับศีรษะ, ไม่สามารถนั่งเองได้โดยไม่มีคนคอยช่วยเหลือ
นาง Hoffie มีความคิดว่า จะนำ Visaya กลับมารักษาตัวที่นครบริสเบน เพราะนครนิวยอร์กอยู่ในสภาพย่ำแย่มากจากการระบาดของเชื้อไวรัส แต่ยังติดปัญหาที่อาการบาดเจ็บของบุตรสาวยังอยู่ในสภาพที่ไม่สามารถเดินทางได้
แต่ในที่สุดทางโรงพยาบาลก็ประกาศว่า Visaya มีสุขภาพพร้อมที่จะบินกลับออสเตรเลียได้ แต่ขาของเธอจะถูกยกขึ้นตลอดเวลาเดินทาง
นั่นหมายความว่า Visaya จะต้องโดยสารที่นั่งแบบปรับแบนราบในชั้นธุรกิจหรือชั้นหนึ่ง ในช่วงเวลาที่โลกกำลังอยู่ในระหว่างปิดพรมแดน
เธอได้พยายามอย่างหนักเพื่อให้ได้ตั๋วเครื่องบิน โดยได้ขอความช่วยเหลือไปยังนาย Arthur Sinodinos เอกอัครราชทูตออสเตรเลียประจำสหรัฐและนาย Mitch Fifield ผู้แทนออสเตรเลียประจำสหประชาชาติ แม้กระทั่งนาย Kevin Rudd อดีตนายกรัฐมนตรี (2007-2010 และปี 2013 อีกสามเดือน)
ในที่สุดนาย Rudd (ภรรยาเป็นมหาเศรษฐี) ได้ยื่นมือเข้ามาให้ความช่วนเหลือค่าเดินทาง 64,000 เหรียญสำหรับ Visaya, นาง Hoffie และพยาบาลวิชาชีพอีกหนึ่งคนในการอพยพทางการแพทย์

ข่าวออนไลน์สำนักข่าว ABC เสนอข่าวน.ส. Visaya Hoffie ได้รับความช่วยเหลือ 64,000 เหรียญเป็นค่าเดินทาง 38 ชม.หลบหนีการระบาดของเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 ในนครนิวยอร์กกลับมายังนครบริสเบน
การเดินทางกลับอันยากลำบากเกิดขึ้นในวันที่ 11 เมษายน รถพยาบาลที่จองไว้ล่วงหน้าเพื่อพาผู้เดินทางไปยังสนามบินฟิลาเดลเฟียในรัฐเพนซิลเวเนียไม่มาตามนัด
ความหวั่นเกรงว่าจะไปสนามบินไม่ทันจึงจำต้องเปลี่ยนมาจองแท็กซี่สนามบิน (airport taxi) แทนด้วยการเดินทางอย่างทุลักทุเล
จากฟิลาเดลเฟียจะต้องไปต่อเครื่องบินที่ชิคาโกเพื่อมาเปลี่ยนเครื่องที่กรุงโดฮาประเทศกาตาร์แล้วจึงถึงนครบริสเบน โดยใช้เวลาเดินทาง 38 ชั่วโมง
ก่อนออกจากนิวยอร์กทั้งแม่และลูกได้ทำการตรวจสอบการติดเชื้อไวรัส COVID-19 ซึ่งผลออกมาเป็นลบทั้งคู่
เมื่อมาถึงนครบริสเบนทั้งสองถูกกักกันโดยรัฐภายในโรงแรมที่รัฐบาลจัดให้ ผลการตรวจเชื้อ COVID-19 บนแผ่นดินออสเตรเลียปรากฎว่าผลของ Visaya ออกมาเป็นบวก ทำให้เธอถูกรถพยาบาลรีบนำส่งโรงพยาบาล Princess Alexandra เพื่อทำการรักษาต่อไป
Visaya ขณะนี้เป็นหนึ่งในยอดผู้ป่วยสะสม 6,975 คนของออสเตรเลีย และเป็นหนึ่งในผู้ป่วย VOVID-19 จำนวน 50 คนที่ยังรักษาพยาบาลอยู่ในโรงพยาบาลด้วยอาการไม่รุนแรง
jingjonews.com
jingjonews@hotmail.com (งดใช้ชั่วคราว)
Jingjonews เป็นสื่อออนไลน์มีวัตถุประสงค์เพื่อการเผยแพร่ข่าวสาร, บทความและประชาสัมพันธ์เพื่อชุมชน โดยปลอดจากการโฆษณาในเชิงพาณิชย์
Categories: ข่าวออสเตรเลีย
Leave a Reply