ข่าวออนไลน์สำนักข่าว SBS วันที่ 14 พ.ค. 2020 เสนอข่าวเลโซโทกลายเป็นประเทศสุดท้ายของทวีปแอฟริกาที่ประกาศมีผู้ติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 เรียบร้อยแล้ว

14 พ.ค. 2020 ยอดผู้ติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือ COVID-19 ในออสเตรเลียวันนี้เพิ่มขึ้นอีก 14 รายเป็น 6,989 คน ส่วนยอดผู้เสียชีวิตคงที่ที่ 98 คน และผลการทดสอบการตรวจเชื้อทั่วประเทศทำไปแล้ว 943,480 คน พบผู้ติดเชื้อที่เฉลี่ย 0.7%

ในวันนี้เหลือผู้ป่วยติดเชื้อทั้งสิ้น 590 คน เป็นผู้เข้ารักษาตัวอยู่ในโรงพยาบาลทั่วประเทศ 51 คนและในห้องไอซียูอีก 18 คน ส่วนที่เหลือเก็บตัวพักฟื้นอยู่ตามศูนย์กักตัวและหอผู้ป่วยเฉพาะโรค (hospitel)

ประเทศโลโซโทกลายเป็นประเทศที่ 213 ของโลกที่ประกาศมีผู้ติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 ทำให้ไม่มีประเทศใดในทวีปแอฟริกาที่ปลอดจากไวรัสร้ายอีกต่อไป

ข่าวผู้ติดเชื้อไวรัสโคโรนาเกิดขึ้นพร้อมกับความไม่แน่นอนทางการเมืองของโลโซโท โดยนาย Thomas Motsoahae Thabane นายกรัฐมนตรี (คนในภาพ) จะลงจากตำแหน่งในปลายสัปดาห์หน้า หลังจากรัฐบาลผสมของเขาจบสิ้นลงด้วยการยุบสภา

การลาออกจากตำแหน่งจะเป็นการเปิดทางให้มีการแก้วิกฤติทางการเมืองที่ก่อตัวขึ้นเมื่อปลายปีที่ผ่านมา เมื่อนาย Thabane และภรรยาคนปัจจุบันถูกตำรวจกล่าวหาว่ามีส่วนในการฆาตกรรมอดีตภรรยาเมื่อเกือบสามปีที่ผ่านมา แต่ทั้งคู่ปฏิเสธข้อกล่าวหา

ขณะนี้เหลือประเทศในโลกอีกเพียง 12 ประเทศที่ปลอดคนเชื้อไวรัส COVID-19 ดังนี้

ข่าวออนไลน์สำนักข่าว ABC วันที่ 14 พ.ค. 2020 เสนอข่าวความกังวลต่อการกลับมารอบสองของเชื้อไวรัสโควิด-19 หลังพบผู้โดยสารรถไฟในนครแอดิแลดแน่นเอียดจนละเลยกฎทิ้งระยะห่างทางสังคม

สรุปสถานการณ์ไวรัสโคโรนา 2019 ทั่วโลกล่าสุด

ผู้ติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือ COVID-19 สะสมทั่วโลก 50 ประเทศแรก ณ เวลา 23.00 น. ของวันที่ 14 พฤษภาคม 2020 จากข้อมูลของมหาวิทยาลัยจอห์นฮอปกินส์มีผู้ติดเชื้อทั่วโลกแล้ว 4,387,438 คน แยกเป็นประเทศสหรัฐอเมริกา 1,398,393 คน, รัสเซีย 252,245 คน, สหราชอาณาจักร 234,431 คน, สเปน 228,691 คน, อิตาลี 223,096 คน, บราซิล 196,158 คน, ฝรั่งเศส 178,184 คน (ยอดน้อยกว่าเมื่อวานนี้),  เยอรมนี 174,284 คน,  ตุรกี 143,114 คน, อิหร่าน 114,533 คน, จีน 84,025 คน, อินเดีย 81,705 คน, เปรู 76,306 คน, แคนาดา 73,653 คน, เบลเยี่ยม 54,228 คน, ซาอุดิอาระเบีย 46,869 คน, เนเธอร์แลนด์ 43,680 คน,  เม็กซิโก 40,186 คน, ชิลี 37,040 คน, ปากีสถาน 35,788 คน, เอกวาดอร์ 30,486 คน, สวิตเซอร์แลนด์ 30,463 คน, สวีเดน 28,582 คน, โปรตุเกส 28,319 คน, กาตาร์ 28,272 คน, เบลารูส 26,772 คน, สิงคโปร์ 26,098 คน, ไอร์แลนด์ 23,401 คน, สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ 21,084 คน, บังคลาเทศ 18,863 คน, โปแลนด์ 17,615 คน, ยูเครน 16,847 คน, อิสราเอล 16,567 คน, โรมาเนีย 16,247 คน, ออสเตรีย 16,058 คน, ญี่ปุ่น 16,049 คน,  อินโดนีเซีย 16,006 คน, โคลัมเบีย 12,930 คน, แอฟริกาใต้ 12,074 คน, คูเวต 11,975 คน, ฟิลิปปินส์ 11,876 คน, สาธารณรัฐโดมินิกัน 11,196 คน, เกาหลีใต้ 10,991 คน,  เดนมาร์ก 10,911 คน, อียิปต์ 10,829 คน, เซอร์เบีย 10,295 คน,  ปานามา 8,944 คน, สาธารณรัฐเช็ก 8,330 คน, นอรเวย์ 8,187 คน, และออสเตรเลีย 6,989 คน,และ / ประเทศไทย 3,018 คน (ไทยอยู่อันดับที่ 68 ของโลก ของไทยวันนี้มีผู้ป่วยเพิ่ม 1 คน)

และผู้เสียชีวิตจากข้อมูลของมหาวิทยลัยจอห์นฮอปกินส์มีทั้งสิ้น 299,333 คน แยกผู้เสียชีวิตจากมากไปหาน้อยดังนี้ สหรัฐ 84,575 คน, สหราชอาณาจักร 33,692 คน, อิตาลี 31,368 คน, สเปน 27,104 คน, ฝรั่งเศส 27,077 คน, บราซิล 13,551 คน, เบลเยี่ยม 8,903 คน, เยอรมนี 7,868 คน, อิหร่าน 6,854 คน, เนเธอร์แลนด์ 5,609 คน, แคนาดา 5,431 คน, จีน 4,637 คน, เม็กซิโก 4,220 คน, ตุรกี 3,952 คน, สวีเดน 3,529 คน, อินเดีย 2,644 คน, เอกวาดอร์ 2,334 คน, รัสเซีย 2,305 คน, เปรู 2,169 คน, สวิตเซอร์แลนด์ 1,872 คน,  ไอร์แลนด์ 1,497 คน, โปรตุเกส 1,184 คน, โรมาเนีย 1,046 คน, อินโดนีเซีย 1,043 คน, โปแลนด์ 883 คน, ฟิลิปปินส์ 790 คน, ปากีสถาน 770 คน, ญี่ปุ่น 678 คน, ออสเตรีย 626 คน, อียิปต์ 571 คน, เดนมาร์ค 537 คน,  อัลจีเรีย 529 คน, โคลัมเบีย 509 คน, ยูเครน 456 คน, และฮังการี 436 คน, / ออสเตรเลีย 98 คน (แยกเป็นน.ซ.ว. 45 คน, วิกตอเรีย 18 คน, แทสเมเนีย 13 คน, เวสเทิร์นออสเตรเลีย 9 คน, ควีนสแลนด์ 6 คน, เซาท์ออสเตรเลีย 4 คนและ ACT 3 คน) และประเทศไทย 57 คน

 มีผู้ป่วยได้รับการรักษาจนหายแล้วข้อมูลจากสารนุกรมเสรีวิกิพีเดียมีทั้งสิ้น 1,562,673 คน เรียงจากมากไปหาน้อย สหรัฐอเมริกา 244,050 คน, เยอรมนี 148,700 คน, สเปน 143,374 คน, อิตาลี 112,541 คน, ตุรกี 101,715 คน, อิหร่าน 90,539 คน, บราซิล 78,424 คน, จีน 78,195 คน (เหลือผู้ป่วย 101 คน),  ฝรั่งเศส 58,673 คน, รัสเซีย 53,530 คน, แคนาดา 35,164 คน, สวิตเซอร์แลนด์ 27,100 คน, อินเดีย 26,235 คน, เปรู 24,324 คน, ซาอุดิอาระเบีย 19,051 คน, ชิลี 15,655 คน, ออสเตรีย 14,405 คน (เหลือผู้ป่วย 976 คน), เบลเยี่ยม 14,111 คน, อิสราเอล 12,364 คน, เกาหลีใต้ 9,762 คน (เหลือผู้ป่วย 969 คน), ปากีสถาน 9,695 คน, โรมาเนีย 9,053 คน, เดนมาร์ก 8,805 คน (เหลือผู้ป่วย 1,371 คน), ญี่ปุ่น 8,868 คน (ยอดผู้หายป่วยน้อยกว่าเมื่อวาน),  เบลารุส 8,168 คน, นอร์เวย์ 7,114 คน (เหลือผู้ป่วย 832 คน), สหรัฐอาหรับอิมิเรทต์ 6,930 คน,  โปแลนด์ 6,696 คน, ออสเตรเลีย 6,271 คน (เหลือผู้ป่วย 623 คน ยอดแท้จริง 590 คน),  และปานามา 6,067 คน, / ประเทศไทย 2,850 คน (เหลือผู้ป่วย 112 คน),  (หมายเหตุ ที่มีวงเล็บต่อท้ายเป็นประเทศที่ประสบความสำเร็จในการรักษาผู้ป่วยจนเหลือต่ำกว่า 2,500 คน และสหราชอาณาจักรเป็นประเทศเดียวที่ไม่มีรายงานผู้หายป่วยมาตั้งแต่แรก)

ภาพกร๊าฟของกระทรวงสาธารณสุขออสเตรเลียแสดงผู้ป่วยติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 ในระหว่างวันที่ 22 มกราคม 2020 ถึง 14 พ.ค. 2020  ในรูปแบบของกร๊าฟแท่งสีฟ้าแสดงยอดผู้ติดเชื้อเพิ่มขึ้นในแต่ละวัน ในช่วงระหว่างวันที่ 12 เม.ย. ถึง 14 พฤษภาคมยอดผู้ติดเชื้อรายใหม่อยู่ที่เฉลี่ยวันละ 21.12 คน

ภาพกร๊าฟของกระทรวงสาธารณสุขออสเตรเลียแสดง ผู้ป่วยติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 ในระหว่างวันที่ 22 มกราคม 2020 ถึง 14 พฤษภาคม 2020 ในรูปแบบของกร๊าฟเส้นสีฟ้าแสดงยอดยอดสะสม

รายงานยอดผู้ติดเชื้อ COVID-19 ในออสเตรเลีย

ผู้ติดเชื้อไวรัส COVID-19 จากตัวเลขล่าสุดโดยกระทรวงสาธารณสุขออสเตรเลีย ณ 15.00 น. ของวันที่ 14 พฤษภาคม 2020 มีผู้ติดเชื้อ 6,989 คน  โดยมีผู้ติดเชื้อเพิ่มขึ้น 14 คนนับจากเวลา 15.00 น.ของเมื่อวานนี้สามารถแยกผู้ป่วยเป็น (ม.จอห์นฮอปกินส์ระบุออสเตรเลียมีผู้ติดเชื้อ 6,989 คน ส่วนวิกีพีเดียระบุ 6,992 คน)

รัฐน.ซ.ว. 3,063 คน, รัฐวิกตอเรีย 1,520 คน, รัฐควีนสแลนด์ 1,052 คน, รัฐเวสเทิร์นออสเตรเลีย 552 คน, รัฐเซาท์ออสเตรเลีย 439 คน, รัฐแทสเมเนีย 227 คน, ออสเตรเลียนแคพิทอลเทร์ริทอรี 107 คน,  นอร์เทิร์นเทร์ริทอรี 29 คน 

ในจำนวนนี้เสียชีวิตสะสมที่ 98 คน มีผู้รักษาหาย 6,301 ราย, มีการทดสอบการตรวจเชื้อทั่วประเทศแล้วกว่า 943,000 คน โดยพบผู้ติดเชื้อในอัตรา 0.7%   

ในจำนวนผู้ติดเชื้อรวมถึงผู้มาจากเรือสำราญ Diamond Princess จำนวน 10 คน แยกเป็นรัฐวิกตอเรีย 4 คน, ควีนสแลนด์ 3 คน, เวสเทิร์นออสเตรเลีย 2 คน และเซาท์ออสเตรเลีย 1 คน

นสพ. The Press ของนิวซีแลนด์ฉบับ 11, 12, 14 พ.ค. 2020 เสนอข่าว “พวกเราพร้อม” ต่อมาตรการปลดล็อคขั้นที่สอง ที่รวมถึงการเปิดร้านค้า, ศูนย์การค้า, สนามเด็กเล่น, ยิม, ร้านตัดผม, ซาลอน, โรงหนังในวันที่ 14 พ.ค. / โรงเรียน 18 พ.ค. / ผับ-บาร์ 21 พ.ค. / ประชาชนรวมตัวกันได้ไม่เกิน 10 คน, และอาจรวมถึงการท่องเที่ยวในประเทศ แต่ที่แน่ ๆ การเปิดประเทศกับออสเตรเลียที่จะนำเงินเข้าประเทศทั้งการท่องเที่ยวและการค้า

ยอดผู้ติดเชื้อในประเทศนิวซีแลนด์และในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้

ส่วนยอดผู้ติดเชื้อในนิวซีแลนด์ในวันนี้อยู่ที่ 1,497 คน มีผู้เสียชีวิต 21 คน และรักษาหายแล้ว 1,412 คน

ในกลุ่มประเทศเอเชียตะวันออกเฉียงใต้มีผู้ติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 สะสมเรียงจากมากไปหาน้อยดังนี้  สิงคโปร์ 26,098 คน, อินโดนีเซีย 16,006 คน, ฟิลิปปินส์ 11,876 คน, มาเลเซีย 6,819 คน, ไทย 3,018 คน, เวียดนาม 288 คน, พม่า 181 คน, บรูไน 141 คน, กัมพูชา 122 คน, ติมอร์-เลสเต 24 คน,และลาว 19 คน

ยอดผู้เสียชีวิตในกลุ่มประเทศเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ประกอบด้วยอินโดนีเซีย 1,043 คน, ฟิลิปปินส์ 790 คน, มาเลเซีย 112 คน, ประเทศไทย 56 คน, สิงคโปร์ 21 คน, พม่า 6 คน, บรูไน 1 คน, เวียดนาม 0 คน, กัมพูชา 0 คน, ลาว 0 คนและติมอร์-เลสเต 0 คน

jingjonews.com

jingjonews@hotmail.com (งดใช้ชั่วคราว)

Jingjonews เป็นสื่อออนไลน์มีวัตถุประสงค์เพื่อการเผยแพร่ข่าวสาร, บทความและประชาสัมพันธ์เพื่อชุมชน โดยปลอดจากการโฆษณาในเชิงพาณิชย์

Categories: ข่าวออสเตรเลีย

Tags: ข่าวนิวซีแลนด์, ข่าวสาธารณสุข, ข่าวออสซี่, ข่าวออสเตรเลีย, ข่าวโรคระบาด, นิวซีแลนด์, ประเทศออสเตรเลีย, รัฐเซาท์ออสเตรเลีย, ออสเตรเลีย, โลโซโท, ไวรัสโคโรนา 2019 COVID-19