ข่าวออนไลน์นสพ. NT News 2 พ.ค. 2020 เสนอข่าวเกิดลางร้ายเสียแล้วหลังจากนอร์เทิร์นเทร์ริทอรีประกาศผ่อนกฎล็อคดาวน์แบบสุด ๆ ก็มาประเดิมด้วยผู้ติดเชื้อ COVID-19 สองรายเป็นทหารติดเชื้อมาจากตะวันออกกลาง หลังจากยืนยอดผู้ติดเชื้อ 27 คน (หรือ 28 คน) มา 27 วันติดต่อกัน มาเป็น 29 คน (หรือ 30 คน) ในวันนี้

2 พ.ค. 2020 ยอดผู้ติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือ COVID-19 ในออสเตรเลียวันนี้เพิ่มขึ้นอีก 16 รายเป็น 6,783 คน ส่วนยอดผู้เสียชีวิตไม่เปลี่ยนแปลงที่ 93 คน และผลการทดสอบการตรวจเชื้อทั่วประเทศทำไปแล้ว 611,583 คน

ส่วนภาพข่าวข้างบน เป็นข่าวของดินแดนนอร์เทิร์นเทร์ริทอรี (NT) ซึ่งเป็นดินแดนแห่งแรกที่ใช้มาตรการปิดพรมแดนจนสามารถยืนตัวเลขผู้ติดเชื้อไวรัส COVID ไว้ที่ 27 คนตามตัวเลขอย่างเป็นทางการของกระทรวงสาธารณสุขมาตั้งแต่วันที่ 6 เมษายน

ส่วนหนังสือพิมพ์ The NT News เขาถือเอาตัวเลขผู้ติดเชื้อ 28 คนมาตลอด เป็นที่เข้าใจว่าส่วนที่ต่างกันหนึ่งคน เป็นผู้ป่วยชาวออสเตรเลียจากเรือสำราญ Diamond Princess จอดเทียบท่าเรือโอซากาในญี่ปุ่นย้ายเข้ามายังศูนย์กักกันใน NT หนึ่งในสิบผู้เสียชีวิตมีภูมิลำเนาอยู่สองแห่ง กระทรวงสาธารณสุขได้เข้าชื่อผู้เสียชีวิตรายนี้ไว้ในรัฐอื่น แต่ The NT News เข้าชื่อเขาไว้ที่ดินแดนนอร์เทิร์นเทร์ริทอรี

สำหรับผู้ติดเชื้อไวรัสรายใหม่เป็นทหารที่ไปประจำการในตะวันออกกลาง ถูกตรวจผลไวรัส COVID-19 เป็นบวกในขณะอยู่ระหว่างการกักกัน จึงรับประกันได้ว่าทั้งสองจะไม่นำเชื้อเข้ามาระบาดในพื้นที่

รายงานสรุปสถานการณ์ไวรัส COVID-19 ของกระทรวงสาธารณสุข ณ วันที่ 2 พ.ค. 2020 แบบหน้าเดียวสามารถเข้าใจทุกประเด็น ในวันนี้เหลือผู้ป่วยติดเชื้อทั้งสิ้น 901 คน เป็นผู้เข้ารักษาตัวอยู่ในโรงพยาบาล 79 คนและในห้องไอซียูอีก 28 คน ส่วนที่เหลือเก็บตัวพักฟื้นอยู่ที่พักอาศัยและหอผู้ป่วยเฉพาะโรค (hospitel)

สรุปสถานการณ์ไวรัสโคโรนา 2019 ทั่วโลกล่าสุด

ผู้ติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือ COVID-19 สะสมทั่วโลก 50 ประเทศแรก ณ เวลา 21.00 น. ของวันที่ 2 พฤษภาคม 2020 จากข้อมูลของมหาวิทยาลัยจอห์นฮอปกินส์มีผู้ติดเชื้อทั่วโลกแล้ว 3,366,714 คน แยกเป็นประเทศสหรัฐอเมริกา 1,106,373 คน, สเปน 213,435 คน (ยอดลดลงจากเมื่อวาน), อิตาลี 207,428 คน, สหราชอาณาจักร 178,689 คน, ฝรั่งเศส 167,305 คน, เยอรมนี 164,197 คน, รัสเซีย 124,054 คน, ตุรกี 122,392 คน,  อิหร่าน 96,448 คน, บราซิล 92,630 คน, จีน 83,959 คน, แคนาดา 56,343 คน, เบลเยี่ยม 49,517 คน, เปรู 40,459 คน, เนเธอร์แลนด์ 40,434 คน,  อินเดีย 37,336 คน,  สวิตเซอร์แลนด์ 29,817 คน, เอกวาดอร์ 26,336 คน, ซาอุดิอาระเบีย 25,459 คน, โปรตุเกส 25,190 คน (ยอดลดลงจากเมื่อวาน),  สวีเดน 22,082 คน, ไอร์แลนด์ 20,833 คน, เม็กซิโก 20,739 คน, ปากีสถาน 18,114 คน, สิงคโปร์ 17,548 คน, ชิลี 17,008 คน, อิสราเอล 16,152 คน, บลารูส 15,828 คน, ออสเตรีย 15,558 คน, กาตาร์ 14,827 คน, ญี่ปุ่น 14,305 คน, โปแลนด์ 13,375 คน, สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ 13,038 คน, โรมาเนีย 12,732 คน, ยูเครน 11,411 คน, อินโดนีเซีย 10,843 คน, เกาหลีใต้ 10,780 คน,  เดนมาร์ก 9,605 คน, เซอร์เบีย 9,009 คน, ฟิลิปปินส์ 8,928 คน, บังคลาเทศ 8,790 คน, นอรเวย์ 7,783 คน,  สาธารณรัฐเช็ก 7,740 คน, สาธารณรัฐโดมินิกัน 7,288 คน, โคลัมเบีย 7,006 คน, ออสเตรเลีย 6,781 คน, ปานามา 6,720 คน, , มาเลเซีย 6,176 คน, แอฟริกาใต้  5,951 คน,และอียิปต์ 5,895 คน,/ ประเทศไทย 2,966 (ไทยอยู่อันดับที่ 60 ของโลก ของไทยวันนี้มีผู้ป่วยเพิ่ม 6 คน), 

และผู้เสียชีวิตจากข้อมูลของมหาวิทยลัยจอห์นฮอปกินส์มีทั้งสิ้น 239,345 คน แยกผู้เสียชีวิตจากมากไปหาน้อยดังนี้ อิตาลี 28,236 คน, สหราชอาณาจักร 27,510 คน,  ฝรั่งเศส 24,563 คน, สเปน 24,543 คน,  นิวยอร์กซิตี้-นิวยอร์ก-สหรัฐ 18,399 คน, เบลเยี่ยม 7,765 คน, เยอรมนี 6,736 คน, บราซิล 6,434 คน, อิหร่าน 6,156 คน, เนเธอร์แลนด์ 4,987 คน, มณฑลหูเป่ย-จีน 4,512 คน (มลฑลหูเป่ยไม่มีผู้ป่วยอีกแล้วจึงปิดประตูผู้เสียชีวิต), ตุรกี 3,258 คน, สวีเดน 2,669 คน, ควิเบก-แคนาดา 2,022 คน, เม็กซิโก 1,972 คน, เวน-มิชิแกน-สหรัฐ 1,802 คน, สวิตเซอร์แลนด์ 1,754 คน, แนสซอ-นิวยอร์ก-สหรัฐ 1,720 คน, คุก-อิรินอย-สหรัฐ 1,673 คน, ออนตาริโอ-แคนาดา 1,265 คน, ไอร์แลนด์ 1,265 คน,  เอสเซก-นิวเจอร์ซีย์-สหรัฐ 1,240 คน,  อินเดีย 1,223 คน, รัสเซีย 1,222 คน, ซัฟโฟล์ค-นิวยอร์ก-สหรัฐ 1,203 คน, เบอร์เจน-นิวเจอร์ซีย์-สหรัฐ 1,187 คน, ลอสแอนเจลีส-แคลิฟอร์เนีย 1,174 คน, เปรู 1,124 คน, เอกวาดอร์ 1,063 คน, เวสต์เชสเตอร์-นิวยอร์ก-สหรัฐ 1,049 คน, และโปรตุเกส 1,023 คน,/ ออสเตรเลีย 93 คน (แยกเป็นน.ซ.ว. 41 คน, วิกตอเรีย 18 คน, แทสเมเนีย 13 คน, เวสเทิร์นออสเตรเลีย 8 คน, ควีนสแลนด์ 6 คน, เซาท์ออสเตรเลีย 4 คนและ ACT 3 คน) และประเทศไทย 54 คน (สรุปผู้เสียชีวิตในสหรัฐทั้งประเทศ 68,830 คน, และจีนทั้งประเทศ 4,633 คน) 

มีผู้ป่วยได้รับการรักษาจนหายแล้วข้อมูลจากสารนุกรมเสรีวิกิพีเดียมีทั้งสิ้น 1,059,275 คน เรียงจากมากไปหาน้อย สหรัฐอเมริกา 141,889 คน, เยอรมนี 121,014 คน, สเปน 117,248 คน, อิตาลี 78,249 คน, จีน 77,685 คน (เหลือผู้ป่วย 557 คน), อิหร่าน 77,350 คน, ตุรกี 53,808 คน, ฝรั่งเศส 50,212 คน, บราซิล 38,039 คน,  สวิตเซอร์แลนด์ 23,900 คน, แคนาดา 23,316 คน, รัสเซีย 15,013 คน, ออสเตรีย 13,180 คน, (เหลือผู้ป่วย 1,717 คน), เบลเยี่ยม 12,211 คน, เปรู 11,129 คน, เกาหลีใต้ 9,123 คน (เหลือผู้ป่วย 1,454 คน),  อินเดีย 9,065 คน, ชิลี 9,018 คน, อิสราเอล 8,758 คน, เดนมาร์ก 6,729 คน, ออสเตรเลีย 5,745 คน (เหลือผู้ป่วย 901 คน), ปากีสถาน 4,351 คน, โรมาเนีย 4,328 คน, มาเลเซีย 4,210 คน (เหลือผู้ป่วย 1,407 คน),  ญี่ปุ่น 3,981 คน, ซาอุดิอาระเบีย 3,765 คน, โปแลนด์ 3,762 คน, สาธารณเช็ค 3,446 คน, และลักเซมเบิร์ก 3,213 คน (เหลือผู้ป่วย 497 คน), / ประเทศไทย 2,732 คน (เหลือผู้ป่วย 180 คน),  (หมายเหตุ ที่มีวงเล็บต่อท้ายเป็นประเทศที่ประสบความสำเร็จในการรักษาผู้ป่วยจนเหลือต่ำกว่า 2,500 คน)

ภาพกร๊าฟของกระทรวงสาธารณสุขออสเตรเลียแสดงผู้ป่วยติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 ในระหว่างวันที่ 22 มกราคม 2020 ถึง 2 พ.ค. 2020  ในรูปแบบของกร๊าฟแท่งสีฟ้าแสดงยอดผู้ติดเชื้อเพิ่มขึ้นในแต่ละวัน ในช่วงระหว่างวันที่ 12 เมษายนถึง 2 พฤษภาคมยอดผู้ติดเชื้อรายใหม่อยู่ที่เฉลี่ยวันละ 23.38 คน

ภาพกร๊าฟของกระทรวงสาธารณสุขออสเตรเลียแสดงผู้ป่วยติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 ในระหว่างวันที่ 22 มกราคม 2020 ถึง 2 พฤษภาคม 2020 ในรูปแบบของกร๊าฟเส้นสีฟ้าแสดงยอดยอดสะสม

รายงานยอดผู้ติดเชื้อ COVID-19 ในออสเตรเลีย

ผู้ติดเชื้อไวรัส COVID-19 จากตัวเลขล่าสุดโดยกระทรวงสาธารณสุขออสเตรเลีย ณ 15.00 น. ของวันที่ 2 พฤษภาคม 2020 มีผู้ติดเชื้อ 6,783 คน  โดยมีผู้ติดเชื้อเพิ่มขึ้น 16 คนนับจากเวลา 15.00 น.ของเมื่อวานนี้สามารถแยกผู้ป่วยเป็น (ม.จอห์นฮอปกินส์ระบุออสเตรเลียมีผู้ติดเชื้อ 6,781 คน ส่วนวิกีพีเดียระบุ 6,783 คน)

รัฐน.ซ.ว. 3,031 คน, รัฐวิกตอเรีย 1,371 คน, รัฐควีนสแลนด์ 1,034 คน, รัฐเวสเทิร์นออสเตรเลีย 551 คน, รัฐเซาท์ออสเตรเลีย 438 คน, รัฐแทสเมเนีย 223 คน, ออสเตรเลียนแคพิทอลเทร์ริทอรี 106 คน,  นอร์เทิร์นเทร์ริทอรี 29 คน 

ในจำนวนนี้เสียชีวิต 93 คน มีผู้รักษาหาย 5,789 ราย, มีการทดสอบการตรวจเชื้อทั่วประเทศแล้วกว่า 611,000 คน 

ในจำนวนผู้ติดเชื้อรวมถึงผู้มาจากเรือสำราญ Diamond Princess จำนวน 10 คน แยกเป็นรัฐวิกตอเรีย 4 คน, ควีนสแลนด์ 3 คน, เวสเทิร์นออสเตรเลีย 2 คน และเซาท์ออสเตรเลีย 1 คน

ข่าวออนไลน์นสพ. The Mercury วันที่ 2 พ.ค. 2020 เสนอข่าวรัฐและดินแดนบทผืนทวีปออสเตรเลียจะปลดล็อค COVID-19 ระดับที่หนึ่งในวันที่ 8 พฤษภาคม แต่รัฐแทสเมเนียจะพลาดโอกาสนี้ ก็เนื่องมาจากรัฐแทสซี่ที่มีประชากรน้อยที่สุดแต่มียอดผู้ป่วยในสัดส่วนสูงจนน่าเป็นห่วง แถมมียอดผู้เสียชีวิตถึง 13 คน เป็นรองเพียงรัฐใหญ่อย่างน.ซ.ว.และวิกตอเรียเท่านั้น

ยอดผู้ติดเชื้อในประเทศนิวซีแลนด์และในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้

ส่วนยอดผู้ติดเชื้อในนิวซีแลนด์ในวันนี้เพิ่มมาอยู่ที่ 1,485 คน มีผู้เสียชีวิต 19 คน และรักษาหายแล้ว 1,252 คน

ในกลุ่มประเทศเอเชียตะวันออกเฉียงใต้มีผู้ติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 สะสมเรียงจากมากไปหาน้อยดังนี้  สิงคโปร์ 17,548 คน, อินโดนีเซีย 10,843 คน, ฟิลิปปินส์ 8,928 คน, มาเลเซีย 6,176 คน, ไทย 2,966 คน, เวียดนาม 270 คน, พม่า 151 คน, บรูไน 138 คน, กัมพูชา 122 คน, ติมอร์-เลสเต 24 คน,และลาว 19 คน

ยอดผู้เสียชีวิตในกลุ่มประเทศเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ประกอบด้วยอินโดนีเซีย 831 คน, ฟิลิปปินส์ 603 คน, มาเลเซีย 103 คน, ประเทศไทย 54 คน, สิงคโปร์ 17 คน, พม่า 6 คน, บรูไน 1 คน, เวียดนาม 0 คน, กัมพูชา 0 คน, ลาว 0 คนและติมอร์-เลสเต 0 คน

jingjonews.com

jingjonews@hotmail.com (งดใช้ชั่วคราว)

Jingjonews เป็นสื่อออนไลน์มีวัตถุประสงค์เพื่อการเผยแพร่ข่าวสาร, บทความและประชาสัมพันธ์เพื่อชุมชน โดยปลอดจากการโฆษณาในเชิงพาณิชย์

Categories: ข่าวออสเตรเลีย

Tags: ข่าวนอร์เทิร์นเทร์ริทอรี, ข่าวสาธารณสุข, ข่าวออสซี่, ข่าวออสเตรเลีย, ข่าวโรคระบาด, นอร์เทิร์นเทร์ริทอรี, ประเทศออสเตรเลีย, รัฐแทสเมเนีย, ออสเตรเลีย, ไวรัสโคโรนา 2019 COVID-19