ข่าวสังคมออนไลน์สำนักข่าว SBS วันที่ 18 เม.ย. 2020 เสนอข่าวเภสัชกรหญิง Lynn Ooi เหยื่อระบายอารมณ์เหตุการณ์ไวรัสโคโรนา 2019 ออกมาพูดถึงประสบการณ์ถูกรังเกียจเชื้อชาติชองเธอ

26 เม.ย. 2020 มีรายงานจากคณะกรรมการสิทธิมนุษยชน (HRC) ถึงรายงานการเลือกที่รักมักที่ชังทางด้านเชื้อชาติในช่วงไวรัสโคโรนา 2019 ระบาดพบว่ามีรายงานเข้ามากว่า 200 ราย

หนึ่งในจำนวนนั้นซึ่งถูกเปิดเผยมาตั้งแต่วันที่ 17 เมษายนก็คือน.ส. Lynn Ooi ผู้ซึ่งอยู่อาศัยในเมือง Sunshine Coast  รัฐควีนสแลนด์ถิ่นที่เธอเคยอยู่อาศัยอย่างสงบสุขมาเป็นเวลากว่า 3 ปี แต่เธอได้เห็นความเปลี่ยนแปลงเกิดขึ้นเมื่อไม่นานมานี้

น.ส. Ooi กล่าวกับสำนักข่าว SBS ว่า แต่ก่อนเธอออกไปข้างนอกบ้าน ไม่ว่าจะไปร้านอาหารหรือไปจับจ่ายซื้อของ ดูทุกคนเป็นมิตรและไม่เพ่งเล็งเธอเหมือนตัวประหลาด  นับตั้งแต่ไวรัส COVID-19 ระบาดในออสเตรเลีย เธอรู้สึกว่าหลายอย่างได้เปลี่ยนแปลงไป ชาวผิวขาวเริ่มเปลี่ยนทิศทางเมื่อเดินมาพบเธอ และพวกเขามองเธอด้วยสายตาที่ผิดไปจากเดิม

เมื่อสองสัปดาห์ที่ผ่านมาเธอถูกคนไม่รู้จักเข้ามาสอบถามว่า ทำไมเธอต้องสวมหน้ากากอนามัย บางคนหาว่าเธอป่วย เพราะไม่มีใครเขาสวมหน้ากากกัน

ในขณะที่กระทรวงสาธารณสุขออสเตรเลียได้ออกมาให้คำแนะนำว่า การสวมหน้ากากอนามัยในที่สาธารณะเป็นสิ่งที่ไม่จำเป็นใด ๆ

(ตอนนี้องค์การอนามัยโลกออกมายอมรับถึงความสำคัญของหน้ากากอนามัยแล้ว ในขณะที่ประเทศในยุโรปตะวันตกอย่างเช่นเยอรมนีและฝรั่งเศสเริ่มแนะนำให้ประชาชนสวมหน้ากากเวลาออกนอกบ้านเช่นกัน) 

น.ส. Ooi เภสัชกรวัย 27 ปีผู้อพยพมาจากประเทศมาเลเซีย กล่าวว่าการมองเธอเป็นตัวประหลาดเริ่มบานปลายเพิ่มขึ้นเมื่อเธอถูกข่มเหงทางวาจาขณะเดินไปซื้ออาหารที่ร้านอาหารของท้องถิ่นแห่งหนึ่งเมื่อปลายเดือนมีนาคมที่ผ่านมา

ในเวลา 19.00 น.ขณะที่เธอเดินไปร้านอาหารใกล้บ้าน ชายคนหนึ่งก็ตะโกนใส่เธอว่า “‘You f***ing b**th, you do not belong here. What are you f***ing doing here? Go the f*ck back to where you belong’.” (ขออนุญาตไม่แปล เพราะอาจทำให้อารมณ์และความหมายผิดเพลี้ยนไป แต่เชื่อมั่นว่าท่านผู้อ่านคงเข้าใจคำพูดเหล่านี้ เป็นคำพูดในรูปแบบเดียวกันของกลุ่มขวาสุดโต้งที่สื่อสารแนะนำกันให้ใช้ในสื่อสังคมออนไลน์)

น.ส. Ooi กล่าวว่าเธอได้แต่รีบวิ่งเข้าไปในร้านอาหาร เพราะความหวาดกลัว มันเป็นเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นรอบพื้นที่อยู่อาศัยของเธอ ตอนนั้นมันก็ค่ำแล้ว และชายคนนั้นก็อยู่ในอาการเมาและแสดงท่าทางข่มขู่

ข่าวสังคมออนไลน์สำนักข่าว ABC เสนอข่าวนพ. Ern Chang แพทย์ GP ชาวเอเชียออกมาเรียกร้องให้รวมเป็นหนึ่งเดียวกันในช่วงไวรัสโคโรนา 2019 ระบาดหลังจากตัวเขาเองกลายเป็นเป้าโจมตีทางด้านเชื้อชาติ

อีกรายหนึ่งนพ. Ern Chang จากเมือง Geelong รัฐวิกตอเรีย กล่าวว่าในขณะที่เขาเข้าแถวรอซื้ออาหารในวันเสาร์ ที่ 18 เมษายน ได้มีสตรีคนหนึ่งตะโกนขึ้นมาลอย ๆ ว่าคนเอเชียไม่ควรออกมาเพ่นพล่าน ควรกักตัวอยู่แต่ในบ้าน

นพ. Chang กล่าวว่า ณ ที่ตรงนั้นมีเขาเพียงคนเดียวที่เป็นคนเอเชีย

เขากล่าวว่าตลอดเวลา 12 ปีที่เขาอาศัยอยู่ในเมือง Geelong เขาไม่เคยได้รับประสบการณ์ที่น่าขยะแขยงของการเหยียดหยามทางเชื้อชาติเช่นนี้มาก่อน

นพ. Chang กล่าวว่าหลังจากได้รับเรื่องเล่าจากเพื่อนฝูงและคนไข้เชื้อสายเอเชียแล้วทำให้เชื่อว่าพฤติกรรมแสดงความเกลียดชังทางเชื้อชาติกำลังเพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง

นายแพทย์เชื้อสายเอเชียหวั่นเกรงว่าการระบาดของเชื้อไวรัส COVID-19 จะทำให้ประชาชนบางคนมองชาวออสเตรเลียเชื้อสายเอเชียเป็นแพะรับบาป พวกเขาแสดงออกถึงความเกียดชังคนเอเชีย ก็เนื่องจากต้นกำเนิดของไวรัสเกิดขึ้นที่เมืองอู่ฮั่นในประเทศจีน

นพ. Chang ผู้เคยได้รับการโหวตให้เป็นแพทย์ GP (แพทย์ตรวจโรคทั่วไป) ยอดนิยมของเมือง Geelong  ได้เรียกร้องให้ทุกคนในสังคมเป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกันในการต่อสู้สงครามกับไวรัส COVID-19 โดยกล่าวว่า

“ไวรัสไม่ใช่การเหยียมทางเชื้อชาติ และมันไม่ใช่พวกเรา ความหลายหลากทางวัฒนธรรมคือจุดแข็งของเรา โปรดนำสิ่งที่ดีที่สุดแห่งมนุษยชาติของเราออกมาในช่วงเวลานี้”

น.ส. Jakkara Brigham วัย 21 ปีขณะทำร้ายร่างกายนักศึกษาชาวเอเชีย

ยังมีตัวอย่างอีกหลายคน แต่ขอเลือกจบที่ข่าวต่อจากข่าวจิงโจ้นิวส์หัวข้อ “ตร.ตามล่าหาสองสาวทำร้ายและหมิ่นเชื้อชาตินักศึกษาจีนในนครเมลเบิร์น” วันที่ 18 เมษายน 2020 เป็นเรื่องของนักศึกษามหาวิทยาลัยเมลเบิร์นจากประเทศเอเชียสองคนถูกดูหมิ่นเชื้อชาติโดยวาจาเป็นต้นว่า “Go back to China” ก่อนเข้าทำร้ายร่างกาย ซึ่งแท้ที่จริงเหยื่อถูกทำร้ายเป็นนักศึกษาจากประเทศมาเลเซียวัย 20 ปีและสิงคโปร์วัย 18 ปี โดยเหตุเกิดในเวลา 17.30 น.ของวันพุธที่ 15 เมษายน ที่ถนน Elizabeth St. ในย่านธุรกิจใจกลางนครเมลเบิร์น

ในวันอาทิตย์ที่ 19 เมษายนตำรวจได้จับกุมน.ส. Jakkara Brigham วัย 21 ปีหนึ่งในสองผู้ก่อเหตุในข้อหาทำร้ายร่างกายให้บุคคลอื่นบาดเจ็บโดยประมาทและกระทำผิดทางอาญาในขณะอยู่ระหว่างการประกันตัว โดยไม่ได้ตั้งข้อหาความผิดรังเกลียดเชื้อชาติซึ่งมีโทษหนักกว่า

น.ส. Brigham ถูกนำขึ้นสู่ศาลในแขวงนครเมลเบิร์นในวันที่ถูกจับ เมื่อเธอได้รับทราบว่าเธออาจจะถูกจำคุกนานถึง 12 เดือน ทำให้หญิงสาวถึงกับร้องไห้สะอึกสะอื้น แต่ภายหลังจากผู้พิพากษาอนุญาตให้เธอประกันตัวออกมา ยังไม่ทันพ้นประตูศาล เธอก็หัวเราะร่วนออกมาอย่างสะใจ

ขณะนี้ตำรวจยังตามหาตัวผู้ก่อเหตุอีกคนหนึ่ง เป็นสตรีคอเคเชียนอายุประมาณ 20 ปี รูปร่างผอม ผมสีบลอนด์ยาวปะบ่า ขณะก่อเหตุสวมเสื้อแขนยาวสีชมพู

ในระหว่างต่อสู้เหยื่อนักศึกษาคนหนึ่งได้ทำหูฟังไร้สาย (Air Pods) ตกลงพื้นถนน หูฟังนั้นได้ถูกชายที่อยู่ในเหตุการณ์แต่ไม่ได้มีส่วนในการต่อสู้ได้หยิบฉวยเอาไป

ชายคนนี้เป็นชาวคอเคเซียน, รูปร่างหนา, สูงประมาณ 175 ซม. ขณะก่อเหตุสวมเสื้อสีดำและสะพายกระเป๋าสีดำ (ไม่ใช่ชายอุ้มสุนัขที่อยู่ในภาพ ชายคนนี้เป็นผู้พยายามห้ามไม่ให้สองสาวเจ้าถิ่นทำร้ายนักศึกษา)

jingjonews.com

jingjonews@hotmail.com (งดใช้ชั่วคราว)

Jingjonews เป็นสื่อออนไลน์มีวัตถุประสงค์เพื่อการเผยแพร่ข่าวสาร, บทความและประชาสัมพันธ์เพื่อชุมชน โดยปลอดจากการโฆษณาในเชิงพาณิชย์

Categories: ข่าวออสเตรเลีย

Tags: การรังเกียจเชื้อชาติ, การเกลียดชังผิวสี, ข่าวการเลือกที่รักมักที่ชัง, ข่าวออสซี่, ข่าวออสเตรเลีย, ข่าวโรคระบาด, จีน, ประเทศออสเตรเลีย, มาเลเซีย, สิงคโปร์, ออสเตรเลีย, ไวรัสโคโรนา 2019 COVID-19