
ออสเตรเลียยังไม่มีแผนที่จะยกเลิกกฎห้ามชาวต่างชาติเข้าประเทศภายในระยะเวลา 1 ปีนี้ ถ้าสถานการณ์ COVID-19 ไม่ดีขึ้น : เครดิตภาพสำนักข่าว SBS
6 เม.ย. 2020 ออสเตรเลียอาจปิดพรมแดนไม่รับชาวต่างชาติเข้าประเทศอีกปีกว่า แม้จะผ่อนคลายหรือยกเลิกมาตรการทิ้งระยะห่างทางสังคมของตนเองภายในอีกสอง, หรือสาม, หรือสี่เดือนไปจนถึงหกเดือนข้างหน้า
นาย Scott Morrison นายกรัฐมนตรีกล่าวว่า มาตรการให้ชาวออสเตรเลียอยู่ภายในบ้านอาจยังคงมีต่อไปตลอด 6 เดือนขึ้นอยู่กับว่ารัฐบาลจะสามารถคุมสถานการณ์การระบาดของเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือ COVID-19 และประชาชนจะให้ความร่วมมือมากน้อยแค่ไหน
ในด้านมาตรการปิดพรมแดนขึ้นอยู่กับสถานการณ์การแพร่กระจายเชื้อไวรัสทั่วโลกทั้งในอเมริกาเหนือ, ยุโรป, และเอเชียซึ่งขณะนี้ยังไม่เห็นวี่แววว่าจะควบคุมการระบาดได้ภายในหนึ่งปีข้างหน้า
จึงมีความเป็นไปได้สูงที่ออสเตรเลียจะปิดประเทศไม่รับชาวต่างชาติเข้าประเทศต่อไปอีกหลายเดือน เว้นเสียแต่นักวิทยาศาสตร์จะสามารถพัฒนาวัคซีนป้องกันไวรัสโคโรนา 2019 ได้สำเร็จ
ออสเตรเลียประกาศปิดพรมแดนห้ามชาวต่างชาติเข้าประเทศมาตั้งแต่วันที่ 20 มีนาคม และนับตั้งแต่วันนั้นมามีนักท่องเที่ยวกว่า 5,000 คนได้เดินทางกลับเข้ามาในออสเตรเลีย ทุกคนจะต้องถูกนำไปกักกันตัวตามโรงแรมระดับหรูทั่วประเทศเป็นเวลา 2 สัปดาห์โดยไม่มีข้อยกเว้น
การกักตัวอยู่ในโรงแรงจะเต็มไปด้วยความเข้มงวด ทุกคนจะไม่ได้รับอนุญาตให้ออกจากห้องพักแม้เพื่อมาสูดอากาศสดชื่นภายนอกห้อง ทำให้ผู้ถูกกักตัวหลายคนบ่นว่าได้พักอยู่ในโรงแรมระดับห้าดาว แต่มีความรู้สึกราวกับเป็นนักโทษ

ภาพคนแห่กันไปอาบแดดที่ชายหาด Bondi หนึ่งวันหลังจากรัฐบาลกลางขอร้องให้ประชาชนทิ้งระยะห่างทางสังคม จนรัฐบาลเหลืออดประกาศข้อบังคับให้ประชาชนอยู่แต่ในบ้าน จะออกนอกบ้านได้เฉพาะมีเหตุจำเป็นและห้ามชุมนุมกันไม่เกิน 2 คนในอีกหนึ่งวันต่อมา
สรุปสถานการณ์ไวรัสโคโรนา 2019 ทั่วโลกล่าสุด
ผู้ติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือ COVID-19 สะสมทั่วโลก 42 ประเทศแรก ณ เวลา 21.00 น. ของวันที่ 6 เมษายน 2020 จากข้อมูลขององค์การอนามัยโลกมีผู้ติดเชื้อทั่วโลกแล้ว 1,289,380 คน แยกเป็นประเทศสหรัฐอเมริกา 337,971 คน, สเปน 135,032 คน, อิตาลี 128,948 คน, เยอรมนี 100,186 คน, ฝรั่งเศส 93,780 คน, จีน 82,665 คน, อิหร่าน 60,500 คน, สหราชอาณาจักร 48,451 คน, ตุรกี 27,069 คน, สวิตเซอร์แลนด์ 21,652 คน, เบลเยี่ยม 20,814 คน, เนเธอร์แลนด์ 18,917 คน, แคนาดา 15,940 คน, ออสเตรีย 12,206 คน, โปรตุเกส 11,730 คน, บราซิล 11,298 คน, เกาหลีใต้ 10,284 คน, อิสราเอล 8,611 คน, สวีเดน 7,206 คน, รัสเซีย 6,343 คน, ออสเตรเลีย 5,797 คน, นอรเวย์ 5,760 คน, ไอร์แลนด์ 4,994 คน, เดนมาร์ก 4,841 คน, สาธารณรัฐเช็ก 4,591 คน, ชิลี 4,471 คน, อินเดีย 4,314 คน, โปแลนด์ 4,201 คน, โรมาเนีย 4,057 คน, มาเลเซีย 3,793 คน, ฟิลิปปินส์ 3,660 คน, ญี่ปุ่น 3,654 คน, เอกวาดอร์ 3,646 คน, ปากีสถาน 3,277 คน, ลักเซมเบิร์ก 2,804 คน, ซาอุดิอาระเบีย 2,523 คน, อินโดนีเซีย 2,491 คน, เปรู 2,281 คน, ประเทศไทย 2,220 คน, ฟินแลนด์ 2,176 คน, เม็กซิโก 2,143 คน, และสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ 2,076 คน
มีผู้เสียชีวิตแล้วทั้งสิ้น 70,590 คน แยกผู้เสียชีวิตจากมากไปหาน้อยดังนี้ อิตาลี 15,887 คน, สเปน 13,055 คน, ฝรั่งเศส 8,078 คน, สหราชอาณาจักร 4,934 คน, อิหร่าน 3,739 คน, มณฑลหูเป่ย-จีน 3,212 คน, นิวยอร์กซิตี้-นิวยอร์ก-สหรัฐ 3,048 คน, เนเธอร์แลนด์ 1,867 คน, เบลเยี่ยม 1,632 คน, เยอรมนี 1,590 คน, สวิตเซอร์แลนด์ 734 คน, ตุรกี 574 คน, บราซิล 489 คน, สวีเดน 477 คน, นิวยอร์ก-สหรัฐ 338 คน, โปรตุเกส 311 คน, เวน-มิชิแกน-สหรัฐ 293 คน, ออสเตรีย 220 คน, อินโดนีเซีย 209 คน, คิง-รัฐวอชิงตัน-สหรัฐอเมริกา 208 คน, เวสต์เชสเตอร์-นิวยอร์ก-สหรัฐ 197 คน, เบอร์เจน-นิวเจอร์ซีย์-สหรัฐ 189 คน, เดนมาร์ก 187 คน, เกาหลีใต้ 186 คน, คุก-อิรินอย-สหรัฐ 186 คน, เอกวาดอร์ 180 คน, ซัฟโฟล์ค-นิวยอร์ก-สหรัฐ 175 คน, เอสเซก-นิวเจอร์ซีย์-สหรัฐ 172 คน, ฟิลิปปินส์ 163 คน, โอ๊แลนด์-มิชิแกน-สหรัฐ 163 คน, โรมาเนีย 162 คน, / ออสเตรเลีย 41 คน (น.ซ.ว. 19 คน, วิกตอเรีย 10 คน, ควีนสแลนด์ 5 คน, เวสเทิร์นออสเตรเลีย 3 คน, แทสเมเนีย 2 คนและ ACT 2 คน) และประเทศไทย 26 คน
มีผู้ป่วยได้รับการรักษาจนหายแล้ว 270,372 คน เรียงจากมากไปหาน้อย จีน 77,310 คน, สเปน 40,437 คน, เยอรมนี 28,700 คน, อิหร่าน 24,236 คน, อิตาลี 21,815 คน, สหรัฐอเมริกา 17,582 คน, ฝรั่งเศส 16,354 คน, สวิตเซอร์แลนด์ 7,298 คน, เกาหลีใต้ 6,598 คน, เบลเยี่ยม 3,986 คน, ออสเตรีย 3,463 คน, แคนาดา 3,081 คน, เดนมาร์ก 1,488 คน, มาเลเซีย 1,241 คน, ออสเตรเลีย 1,080 คน, ตุรกี 1,042 คน, เปรู 989 คน, ประเทศไทย 793 คน, เม็กซิโก 633 คน, เรือสำราญ Diamond Princess 619 คน, ชิลี 618 คน, อิสราเอล 585 คน, ญี่ปุ่น 575 คน, ซาอุดิอาระเบีย 551 คน, ลักเซมเบิร์ก 500 คน, ไอซ์แลนด์ 460 คน,และบาห์เรน 451 คน

ข่าวออนไลน์นสพ. The Advertiser วันที่ 6 เม.ย. 2020 เสนอข่าวซูเปอร์มาร์เก็ตในรัฐเซาท์ออสเตรเลียยังคงมีผู้กว้านซื้อกระดาษชำระเหมือนเดิม ทั้งที่ไม่จำเป็นต้องกักตุน
รายงานยอดผู้ติดเชื้อ COVID-19 ในออสเตรเลีย
ผู้ติดเชื้อไวรัส COVID-19 จากตัวเลขล่าสุดโดยกระทรวงสาธารณสุขออสเตรเลีย ณ 15.00 น. ของวันที่ 6 เมษายน 2020 มีผู้ติดเชื้อ 5,795 คน โดยมีผู้ติดเชื้อเพิ่มขึ้น 108 คนนับจากเวลา 15.00 น.ของเมื่อวานนี้สามารถแยกผู้ป่วยเป็น
รัฐน.ซ.ว. 2,637 คน, รัฐวิกตอเรีย 1,158 คน, รัฐควีนสแลนด์ 921 คน, รัฐเวสเทิร์นออสเตรเลีย 460 คน, รัฐเซาท์ออสเตรเลีย 411 คน, ออสเตรเลียนแคพิทอลเทร์ริทอรี 96 คน, รัฐแทสเมเนีย 85 คน, นอร์เทิร์นเทร์ริทอรี 27 คน
ในจำนวนนี้เสียชีวิต 39 คน มีการทดสอบการติดเชื้อทั่วประเทศแล้วกว่า 302,000 คน
ในจำนวนผู้ติดเชื้อรวมถึงผู้มาจากเรือสำราญ Diamond Princess จำนวน 10 คน แยกเป็นรัฐวิกตอเรีย 4 คน, ควีนสแลนด์ 3 คน, เวสเทิร์นออสเตรเลีย 2 คน และเซาท์ออสเตรเลีย 1 คน
กระทรวงสาธารณสุขเปิดเผยภาพกร๊าฟแสดงผู้ป่วยติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 ในระหว่างวันที่ 22 มกราคม 2020 ถึง 6 เมษายน 2020 ในรูปแบบของยอดเพิ่มในแต่ละวัน (กร๊าฟแท่งสีฟ้า) และยอดสะสม (กร๊าฟเส้นสีน้ำเงิน) โปรดสังเกตมาตรการของรัฐบาลสามารถลดจำนวนผู้ป่วยต่อวันลดลงมาอย่างต่อเนื่อง
ยอดผู้ติดเชื้อในประเทศนิวซีแลนด์และในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้
ส่วนยอดผู้ติดเชื้อในนิวซีแลนด์ในวันนี้เพิ่มมาอยู่ที่ 1,106 คน มีผู้เสียชีวิต 1 คน และรักษาหายแล้ว 176 คน
ในกลุ่มประเทศเอเชียตะวันออกเฉียงใต้มีผู้ติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 สะสมเรียงจากมากไปหาน้อยดังนี้ มาเลเซีย 3,793 คน, ฟิลิปปินส์ 3,660 คน, อินโดนีเซีย 2,491 คน, ไทย 2,220 คน, สิงคโปร์ 1,309 คน, เวียดนาม 245 คน, บรูไน 135 คน, กัมพูชา 114 คน, พม่า 21 คน, ลาว 12 คน,และติมอร์-เลสเต 1 คน
และควรจับตาดูประเทศเบลารุส ประธานธิบดี Alexander Likashenko ของประเทศนี้ได้ประกาศไม่ก้มหัวให้กับไวรัสโคโรนา 2019 สั่งให้ยังคงจัดงานทุกงาน, แนะประชาชนออกไปเชียร์การแข่งขันกีฬา, กินเที่ยวเต็มที่, ใช้ชีวิตปกติและเมินต่อการทิ้งระยะห่างทางสังคม นับจากประกาศในวันที่ 16 มีนาคมตอนนั้นประเทศมีผู้ติดเชื้อ 27 คนถึงวันนี้เบลารุสมียอดผู้ติดเชื้อแล้ว 700 คน โดยเพิ่มขึ้นจากเมื่อวานนี้ 138 คน และมีผู้เสียชีวิตแล้ว 13 คน
jingjonews.com
jingjonews@hotmail.com (งดใช้ชั่วคราว)
jingjonews เป็นสื่อออนไลน์มีวัตถุประสงค์เพื่อการเผยแพร่ข่าวสาร, บทความและประชาสัมพันธ์เพื่อชุมชน โดยปลอดจากการโฆษณาในเชิงพาณิชย์
Categories: ข่าวออสเตรเลีย
Leave a Reply