29 มี.ค. 2020 โลกตะวันตกกับโลกตะวันออกยังมีความเห็นต่างกันในเรื่องการสวมหน้ากากอนามัย ต่างฝ่ายต่างก็ว่าฝ่ายตนถูกต้อง ใครจะถูกใครจะผิดก็ขอให้เอาตัวเลขผู้ติดเชื้อและผู้เสียชีวิตจากไวรัสโคโรนา 2019 หรือ COVID-19 ระหว่างฝ่ายจีน, เกาหลีใต้, ญี่ปุ่น, สิงคโปร์ที่เคร่งครัดในเรื่องของการสวมหน้ากาก กับฝ่ายสหรัฐ, อิตาลี, สเปน, เยอรมันและหลายประเทศในยุโรปที่ไม่เห็นด้วยกับการสวมหน้ากากมาประเมินดูก็แล้วกันว่าจะอยู่ฝ่ายใน สำหรับจิงโจ้นิวส์เชื่อในฝ่ายแรกครับ
ณ วันที่ 29 มีนาคม ยอดผู้ติดเชื้ออย่างรุนแรงของฝ่ายเอเชียเมื่อเริ่มต้นพวกเขากลายเป็นประเทศที่น่ารังเกียจประกอบด้วยจีน, เกาหลีใต้, ญี่ปุ่น, สิงคโปร์มียอดผู้ติดเชื้อ ณ วันนี้มีผู้ติดเชื้อทั้งสิ้น 94,135 คน (82,057 + 9,583 + 1,693 + 802) และมีแนวโน้มอัตราเพิ่มขึ้นแบบราบ ในขณะประเทศทางตะวันตกที่ติดเชื้อในช่วงหลังทั้งที่น่าจะป้องกันได้ดีกว่าถ้าไม่ประมาทอย่างสหรัฐ, อิตาลี, สเปนและฝรั่งเศสมีทั้งสิ้น 348,178 คน (124,665 + 92,583 + 73,235 + 57,695) แล้วยังมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นในอัตราก้าวกระโดด
เมื่อพูดถึงหน้ากากอนามัยจิงโจ้นิวส์ขออนุญาตนำข่าวที่เกิดขึ้นในสังคมออสเตรเลียในช่วงที่ผ่านมา ข่าวนี้เป็นข่าวในวันที่ 20 มีนาคม เป็นเรื่องชายชาวนครโฮบาร์ทไม่พอใจที่เห็นคนเอเชียสวมหน้ากากอนามัยจึงเข้าชกหน้า ทำให้เขาต้องถูกตำรวจจับไปสงบสติอารมณ์ในห้อง
เหตุการณ์ครั้งนี้เกิดขึ้นกับนักศึกษาชาวฮ่องกงในนครโฮบาร์ทผู้ขอเปิดเผยตัวเองว่า Ted ได้สวมหน้ากากอนามัยเข้าไปซื้อของที่ New Town Plaza ของย่าน New Town เขต CIty of New Town นครโฮบาร์ท
ในขณะที่เขาอยู่ที่ลานจอดรถของศูนย์การค้าในตอนค่ำของวันพฤหัสฯที่ 19 มีนาคมได้มีชายวัย 38 ปีตะโกนว่า “แกไอ้ตัวติดเชื้อไวรัส” และ “กลับไปประเทศของมึง”
Ted กล่าวว่าเขาพยายามทำเป็นไม่สนใจชายคนนั้น แต่เขาได้เดินตามมาที่รถแล้วชกเขาที่ใบหน้า จนแว่นตาหักและขอบตาช้ำเป็นหมีแพนด้า
เขากล่าวว่า เขาเคยได้รับฟังเรื่องนักเรียนต่างชาติถูกทำร้ายเพราะสวมหน้ากากมาบ้าง เพราะคนออสเตรเลียไม่เห็นด้วย และคิดว่าคนสวมหน้ากากคือผู้ติดเชื้อไวรสโคโรนา แต่เขาก็ไม่คิดว่าเหตุการณ์เช่นนี้จะเกิดกับเขา
อย่างไรก็ตามตำรวจสามารถจับชายวัย 38 ปีนี้ได้ เขายอมรับสารภาพผิดต่อการทำร้ายร่างกายทั่วไป ก่อนที่ผู้พิพากษาตัดสินจำคุกเขาเป็นเวลา 2 เดือน

นาย Jonathan Mok นักศึกษาสิงคโปร์ถูกชกในกรุงลอนดอนเพราะเหตุสวมหน้ากากอนามัย จิงโจ้นิวส์เพียงแต่บอกให้ทราบว่าไม่เพียงแต่ออสเตรเลีย หลายประเทศทางตะวันตกก็มีความเห็นต่างในเรื่องการสวมหน้ากากอนามัยไปจากเอเชีย จนประเทศของพวกเขามีคนติดเชื้อเต็มบ้านเต็มเมืองกันแล้ว : ภาพจากนสพ. The Guardian
Ted เล่าว่าเหตุการณ์คล้ายกันได้เกิดกับเพื่อนร่วมแชร์บ้านของเขา เพื่อนคนนี้ได้ไปที่ร้าน KFC ในย่านใจกลางนครโฮบาร์ทกับเพื่อนของเขา ได้ถูกกลุ่มวัยรุ่นหัวเราะเยาะและแซวในเรื่องที่พวกเขาสวมหน้ากากอนามัย วัยรุ่นใช้วาจาหยาบคายมากและพยายามที่จะใช้กำลังกับกลุ่มเพื่อน แต่คงไม่กล้าเสี่ยง แม้พวกเขาจะมีคนมากกว่าก็ตาม
ตำรวจรัฐแทสเมเนีย, เจ้าพนักงานคณะกรรมการต่อต้านการเลือกที่รักมักที่ชังแห่งรัฐแทสเมเนียและผู้นำชุมชนชาวจีนได้ออกมาประณามการกระทำครั้งนี้
นาง Yongbei Tang ผู้นำชุมชนจีน-แทสเมเนียกล่าวว่า เธอรู้สึกเศร้าใจอย่างสุดซึ้ง เมื่อได้รับทราบเรื่อง “การทำร้ายที่น่ารังเกียจ” ครั้งนี้
เธอกล่าวว่า “ชาวตะวันตกมองว่าการสวมหน้ากากคือการป้องกันตนเองหลังจากที่คุณป่วย แต่ชาวตะวันออกคิดว่าการสวมหน้ากากเป็นวิธีในการป้องกันทั้งตัวเองก่อนที่จะป่วยและผู้อื่นในกรณีที่คุณเกิดป่วยขึ้นมา”
เธอหวังว่าทุกคนจะเข้าใจและยอมรับถึงวัฒนธรรมที่แตกต่างกันนี้ และควรเคารพเหตุผลของกันและกัน
jingjonews.com
jingjonews@hotmail.com (งดใช้ชั่วคราว)
Jingjonews เป็นสื่อออนไลน์มีวัตถุประสงค์เพื่อการเผยแพร่ข่าวสาร, บทความและประชาสัมพันธ์เพื่อชุมชน โดยปลอดจากการโฆษณาในเชิงพาณิชย์
Categories: ข่าวออสเตรเลีย
Leave a Reply