22 ม.ค. 2020 ในขณะที่ในประเทศไทยกระทรวงสาธารณสุขได้ขอร้องพี่น้องชาวไทยเชื้อสายจีนลดการเผากระดาษเงินกระดาษทองในช่วงตรุษจีนเพื่อลดการเพิ่มฝุ่น PM2.5 ที่ประเทศออสเตรเลียซึ่งมีประชากรเชื้อสายจีนกว่า 1.2 ล้านคนตำรวจสอบสวนกลาง (AFP) ได้ออกเตือนใครก็ตามจะเจอโทษหนักแน่หากนำกระดาษเงินกระดาษทองไปใช้แทนเงินสด
ตำรวจ AFP ยังได้เตือนธุรกิจห้างร้านทั่วประเทศเพิ่มความระมัดระวังกระดาษเงินกระดาษทองหรือแบงก์กาโม่ทำเลียนแบบคล้ายธนบัตรจริงในช่วงตรุษจีนที่จะมาถึงนี้
กระดาษเงินกระดาษทองหรือเป็นที่รู้จักในชื่อ ‘แบงก์กงเต็ก’ (ghost or spirit money) ถูกนำมาเผาเพื่อบูชาเทพเจ้าและบรรพบุรุษตามประเพณีความเชื่อของชาวจีน
แม้กระดาษเงินกระดาษทองส่วนใหญ่จะถูกนำเข้ามาด้วยวัตถุประสงค์ที่ไม่เกี่ยวข้องกับการก่ออาชญากรรม แต่ตำรวจ AFP ก็ยังไม่ไว้วางใจต่อการนำกระดาษเงินกระดาษทองมาใช้อย่างไม่ถูกวัตถุประสงค์
นาง Jayne Crossling ผู้บังคับการตำรวจนักสืบของสำนักงาน AFP กล่าวว่าจากข้อมูลของธนาคารกลางแห่งออสเตรเลีย (RBA) ระบุว่ามีการนำเอาแบงก์กาโม่สำหรับเผาวันตรุษจีนมาจับจ่ายซื้อสินค้าจากร้านค้าปลีกพอสมควร
เธอกล่าวว่า “แบงค์กาโม่หรือเงินเผาส่งให้ผู้ล่วงลับ (hell money) มูลค่า 500,000 เหรียญได้ถูกนำเข้ามาในระบบธุรกิจการค้า”
ผู้กำกับ Crossling กล่าวว่า แม้แบงก์กาโม่จะดูคล้ายธนบัตรของจริง แต่ก็มีหลายสิ่งที่สังเกตได้ง่ายคือธนบัตรจริงเป็นพลาสติกโพลีเมอร์ไม่ใช่กระดาษ ช่องกระจกใสไม่ใสเหมือนธนบัตรจริงและจะมีข้อความภาษาจีนหรือภาษาเวียดนามกำกับ
สำหรับผู้ที่นำแบงก์กาโม่มาใช้เพื่อวัตถุประสงค์ทางอาชญากรรม จะมีโทษปรับ 2,000 เหรียญและจำคุกสูงสุดไม่เกิน 12 ปี
แม้แบงก์กาโม่นำเข้าจากต่างประเทศส่วนใหญ่มีคุณภาพไม่เหมือนของจริง แต่เมื่อปลายปีที่ผ่านมาตำรวจรัฐควีนสแลนด์ได้ยึดแบงก์กาโม่ผลิตด้วยเทคโนโลยี่ชั้นสูง มีความเหมือนจริงจนแยกไม่ออกด้วยตาเปล่าและให้ความสัมผัสเหมือนธนบัตร 50 เหรียญของจริง
แต่ที่กระจกใสด้านซ้ายในด้านภาพนาง Edith Cowan มีตัวพิมพ์ภาษาจีนสีฟ้าให้สังเกตได้อย่างชัดเจนเท่านั้น กรณีนี้ตำรวจถือว่าเป็นเจตนาผลิตธนบัตรปลอมไม่ใช่กระดาษเงินกระดาษทองตามประเพณีของจีน (ตามข่าว “ตำรวจเตือนธนบัตร 50 เหรียญปลอมเหมือนของจริงมากแต่สังเกตได้ง่าย” ลงวันที่ 13 พฤศจิกายน 2019)
jingjonews.com
jingjonews@hotmail.com (งดใช้ชั่วคราว)
Jingjonews เป็นสื่อออนไลน์มีวัตถุประสงค์เพื่อการเผยแพร่ข่าวสาร, บทความและประชาสัมพันธ์เพื่อชุมชน โดยปลอดจากการโฆษณาในเชิงพาณิชย์
Categories: ข่าวออสเตรเลีย
Leave a Reply