
นสพ. The Australian ฉบับ 3 ม.ค. 2019 พาดหัวข่าว “อพยพออกจากเมืองชายฝั่งมรณะของเรา” หลังทางการออกคำสั่งให้ประชาชนในหลายเมืองทางชายฝั่งตะวันออกตอนใต้ของรัฐน.ซ.ว.อพยพออกจากพื้นที่โดยด่วน
3 ม.ค. 2020 เมื่อคืนที่ผ่านมาออสเตรเเลียได้มีคำสั่งอพยพประชาชนครั้งใหญ่ออกจากพื้นที่มีความเสี่ยงสูงต่อการถูกไฟไหม้ป่าเข้าถึงในหลายเมืองทางชายฝั่งตะวันออกตอนใต้ของรัฐน.ซ.ว.ลงไปถึงเมืองชายฝั่งติดชายแดนในรัฐวิกตอเรีย
พื้นที่วนอุทยานแห่งชาติ Kosciuszko National Park ที่ครอบคลุม Snowy Mountains รวมถึงเมือง Thredbo และ Batlow และพื้นที่ในภูมิภาค Riverina ก็มีคำสั่งให้ออกจากพื้นที่เช่นกัน

ภาพแผนที่ของสำนักงานดับเพลิงภูมิภาค (RFS) ของรัฐน.ซ.ว.แสดงพื้นที่ที่ประชากรตามเมืองต่าง ๆ ตั้งแต่ Batemans Bay ลงมาจดชายแดนของรัฐวิกตอเรียเป็นพื้นที่ต้องอพยพตามคำสั่งในวันที่ 2 ม.ค.
ราษฎรในเมืองท่องเที่ยวของพื้นที่ทางใต้ของ Shoalhaven ลงมาถึงพื้นที่ชายแดนของรัฐวิกตอเรียได้ถูกสั่งให้อพยพออกจากพื้นที่ภายในเช้าของวันนี้ (3 ม.ค.) ตามหลังผู้อยู่อาศัยในเมือง Batemans Bay และ Ulladulla ซึ่งทำการอพยพครั้งใหญ่มาตั้งแต่เมื่อวานนี้ เป็นการอพยพที่หนังสือพิมพ์ The Daily Telegraph พาดหัวข่าวว่า “ไปเดี๋ยวนี้หรือไม่คุณอาจเสียชีวิต” หรือ “Go Now or You May Die” ทีเดียว
เจ้าหน้าที่ทหารออสเตรเลียได้เข้ามามีบทบาทในการช่วยเหลือให้ประชาชนออกจากพื้นที่ ผ่านทางด่วน Princes Hwy. ซึ่งถูกเปิดในตอนค่ำของวันพุธที่ 1 มกราคมเป็นเวลา 24 ชั่วโมงเพื่อเปิดทางให้ประชาชนอพยพออกจากพื้นที่โดยทางรถยนต์ นอกจากนั้นกองทัพยังเตรียมเรือเพื่ออพยพประชาชนเป็นการฉุกเฉิน หากไม่มีเส้นทางอื่นอพยพ
นาย Scott Morrison นายกรัฐมนตรีได้ขอให้ประชาชนในพื้นที่อพยพมีความอดทนในขณะที่ทางการดำเนินการอพยพคนจำนวนมากอย่างที่ไม่เคยมีมาก่อนในประวัติศาสตร์ของประเทศ ซึ่งมากกว่าเมื่อครั้งอพยพประชาชนออกจากเมืองดาร์วินเพื่อหนีภัยพายุไซโคน Tracy ในปี 1974 ซึ่งผลของพายุลูกนี้ได้ทำลายเมืองดาร์วินทั้งเมืองจนราบคาบ
นาย Shane Fitzsimmons ผู้อำนวยการของสำนักงานดับเพลิงภูมิภาค (RFS) รัฐน.ซ.ว.กล่าวว่าไฟป่าที่คุกคามเมืองในภูมิภาค South Coast ได้ขยายตัวขึ้นอย่างรวดเร็ว และในวันพรุ่งนี้ (เสาร์ที่ 4 มกราคม) คาดว่าจะร้ายแรงที่สุดอีกครั้งเนื่องจากเป็นวันที่อากาศร้อนจัดด้วยอุณหภูมิกว่า 40 องศา (พรุ่งนี้ที่บ้านจิงโจ้นิวส์จะมีอุณหภูมิระหว่าง 21 ถึง 41 องศาเซลเซียส)

ภาพจากสำนักงานดับเพลิงภูมิภาค (RFS) ทำนายสภาพไฟป่าในวันเสาร์ที่ 4 ม.ค. 2019 สีดำคือพื้นที่ถูกไฟป่าทำลายไปแล้ว สีแดงคือพื่นที่ไฟกำลังลุกไหม้ สีแดงขาวคือพื้นที่ที่มีโอกาสไฟขยายตัวลุกไหม้ฉับพลันสูง จะเห็นจุดที่ไฟป่าลุกใหม่หนักที่สุดจนมีสีแดงโล่คือ Snowy Mountains ในวนอุทยานแห่งชาติ Kosciuszko National Park
นาย Fitzsimmons กล่าวว่ารูปแบบของไฟป่าขั้นเลวร้ายที่สุดจะกลับมาอีกครั้งในวันพรุ่งนี้ (4 ม.ค.) ในพื้นที่เทือกเขาสูงเนื่องจากจะมีลมระดับ 60 กม.ต่อชม.พัดพากำแพงไฟเข้าสู่พื้นที่ ไปพร้อมกับลมพัดพากองไฟขนาดใหญ่เข้าสู่เมืองริมชายฝั่งทะเล ถึงตอนนี้สื่อฯใช้วลีว่า “prepare for the worst and hope for the best” หรือ “เตรียมพร้อมสำหรับสิ่งที่เลวร้ายที่สุดและหวังว่าจะออกมาในสิ่งที่ดีที่สุด”
ที่ Mallacoota เมืองติดชายแดนรัฐน.ซ.ว.ในภูมิภาค Gippsland ของรัฐวิกตอเรีย เรือรบหลวง HMAS Choules ได้อพยพยบชาวเมืองและนักท่องเที่ยวออกจากพื้นที่แล้ว 1,000 คนจากทั้งหมด 4,000 คนที่ไม่สามารถหลบหนีไปทางอื่น เนื่องจากถนนสายเดียวที่ผ่านเข้าออกเมืองนี้ไม่สามารถใช้สัญจรได้
ส่วนเมืองที่อยู่อีกด้านหนึ่งของไฟป่าอย่าง Batlow และ Tumbarumba กลายเป็นเมืองร้างราษฎรของสองเมืองได้อพยพไปอยู่ที่เมือง Wagga Wagga (เมืองในแผ่นดินที่ใหญ่ที่สุดในออสเตรเลีย) เป็นการเรียบร้อยแล้ว

นสพ. The Time ในสหราชอาณาจักรฉบับ 2 ม.ค. 2019 (คือ 3 ม.ค.ในออสเตรเลีย) เสนอข่าวไฟป่าครั้งร้ายแรงจนต้องอพยพผู้คนครั้งใหญ่ที่สุดในประวัติศาสตร์ออสเตรเลีย ในภาพเป็นจิงโจ้กำลังหนีไฟป่าทำลายบ้านเรือนที่ Lake Conjola ของภูมิภาค South Coast รัฐน.ซ.ว.
ถึง ณ เมื่อคืนวันที่ 2 มกราคมที่ผ่านมามีประชาชนเสียชีวิตจากเหตุไฟป่าในรัฐน.ซ.ว.แล้วอย่างน้อย 15 คนและบ้านเรือนของประชาชนถูกไฟเผาเป็นซากไปแล้วเกือบ 1,300 หลัง
jingjonews.com
jingjonews@hotmail.com (งดใช้ชั่วคราว)
Jingjonews เป็นสื่อออนไลน์มีวัตถุประสงค์เพื่อการเผยแพร่ข่าวสาร, บทความและประชาสัมพันธ์เพื่อชุมชน โดยปลอดจากการโฆษณาในเชิงพาณิชย์
Categories: ข่าวออสเตรเลีย
น่าจะมีการเอา การทำฝนเทียมมาใช้ที่นี่ เพื่อดับไฟป่า
ฝนเทียมจะทำได้ท้องฟ้าต้องมีเมฆ แต่มันไม่มีนะซิ สำนักงานอุตุนิยมวิทยาทำนายว่าวันจันทร์น่าจะมีฝน แต่จะไปตกถึงแหล่งไฟป่าหรือไม่เอาใจช่วยอยู่ ขอบคุณมากครับ