26 ธ.ค. 2019 ผู้ประกอบธุรกิจได้ถูกแนะนำให้คำนึงถึง “บรรทัดฐานตะวันตก” ของความเป็นผู้นำ หลังจากผลการสำรวจพบว่าชาวออสเตรเลีย-เอเชียอ้างว่าพวกเขามีประสบการณ์ถูกเลือกที่รักมักที่ชังในออสเตรเลีย
จากผลการสำรวจพบว่า คนเอเชียเป็นกลุ่มเชื้อชาติที่อ้างว่ามีประสบการณ์เลือกที่รักมักที่ชังในสถานที่ทำงานและในฐานะของลูกค้าในประเทศออสเตรเลียมากที่สุดถึง 82%, ตามมาติด ๆ ด้วยชาวตะวันออกกลาง 81% และชนเผ่าพื้นเมือง 71%
ร้านค้าหรือร้านอาหารเป็นสถานที่ที่ชาวเอเชียได้รับประสบการณ์การรังเกียจเชื้อชาติและสีผิวมากที่สุด
นาย Jieh-Yung Lo นักวิจัยจากมหาวิทยาลัยออสเตรเลียนเนชั่นแนลผู้นำผลการสำรวจมาเปรียบเทียบกับโอกาสในการจ้างงานว่า ผลการสำรวจเป็นหลักฐานแห่งการเกิด “เพดานไม้ไผ่” (bamboo ceiling) ที่พิสูจน์ให้เห็นว่าทำไมคนเอเชียจึงถูกจำกัดในตำแหน่งหน้าที่การงานสำคัญในออสเตรเลีย
เขากล่าวว่าผลการสำรวจแสดงให้เห็นถึงความสำคัญในการเปิดโอกาสให้ชาวเอเชียเข้าไปมีบทบาทสำคัญในการบริหารในระดับสูงขององค์กร, บริษัทห้างร้าน ทั้งที่คนเอเชียมีจำนวน 12% ของประชากรทั้งประเทศและกำลังจะเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง แต่มีตำแหน่งบริหารในบริษัท, มหาวิทยาลัยและชุมชนเพียง 3.1% เท่านั้น
ในขณะที่ “เพดานแก้ว” หรือ “เพดานกระจก” (glass ceiling ) ถูกนำมาใช้เพื่ออธิบายถึงการเลือกที่รักมักที่ชังในด้านเพศ นาย Lo จึงคิดค้นคำว่า “เพดานไม้ไผ่” เพื่ออธิบายถึงการเลือกที่รักมักที่ชังต่อคนเอเชีย เพราะคำว่าไม้ไผ่มันถูกมาเปรียบกับประเทศจีน
ในขณะที่นาง Sue Ann Khoo ผู้อำนวยการบริษัท Greenwoods & Herbert Smith Freehills แบ่งรับแบ่งสู้กับความเห็นของนาย Lo โดยเห็นว่าการขึ้นสู้ฝ่ายบริหารต้องขึ้นอยู่กับตัวบุคคลด้วย
นาง Khoo ผู้เกิดในประเทศมาเลเซียจากครอบครัวคนจีนกล่าวว่า เมื่อเธอเริ่มเข้าทำงานเป็นนักกฎหมายด้านภาษีนิติบุคคลในตำแหน่งพนักงานระดับล่าง โดยไม่มีโอกาสได้เลื่อนตำแหน่งที่สูงขึ้นตามเวลาอันควร
ในตอนนั้นเธอคิดว่าเพราะเธอตัวเล็ก ดูมีอายุน้อย เป็นผู้หญิง แถมเป็นคนเอเชีย ในที่ทำงานเธอค่อนข้างจะเงียบกว่าเพื่อนร่วมงาน และไม่ค่อยถกเถียง (ถกปัญหา) กับหัวหน้างาน
ผลที่ตามมาก็คือเธอไม่ได้รับโอกาสให้ทำงานที่สำคัญหรืองานที่ท้าทาย และไม่เคยถูกเสนอให้อยู่ในกลุ่มพนักงานที่จะถูกพิจารณาเลื่อนตำแหน่งหรืออยู่ในโครงการความเป็นผู้นำ
จนกระทั่งเธอรู้ตัวถึงสาเหตุว่า ที่ผ่านมาเธอปิดตัวเองจากโอกาสก้าวหน้าในหน้าที่การงาน เธอจึงเริ่มตั้งคำถามมากขึ้นในที่ประชุม และถามในสิ่งที่เธอต้องการในเทอมของโอกาสในการทำงาน
นาง Khoo ปัจจุบันถูกระบุว่าเป็น 1 ใน 40 ชาวออสเตรเลีย-เอเชียวัยต่ำกว่า 40 ปีที่ทรงอิทธิพลที่สุดในออสเตรเลียกล่าวย้ำว่า สิ่งสำคัญประการหนึ่งของชาวเอเชียก็คืออย่าปกปิดความสามารถของตนให้เจ้านายรับรู้
jingjonews.com
jingjonews@hotmail.com (งดใช้ชั่วคราว)
Jingjonews เป็นสื่อออนไลน์มีวัตถุประสงค์เพื่อการเผยแพร่ข่าวสาร, บทความและประชาสัมพันธ์เพื่อชุมชน โดยปลอดจากการโฆษณาในเชิงพาณิชย์
Categories: ข่าวออสเตรเลีย
Leave a Reply