ไฟป่าล้อมนครซิดนีย์ถูกระบุรุนแรงที่สุดในรอบ 40 ปีถึงตอนนี้ยังกระหน่ำซ้ำเติมไม่ยอมหยุด

ข่าวออนไลน์นสพ. The Daily Mail วันที่ 12 พ.ย. 2019 ในช่วงชั่วโมงแรก ๆ ของวัน พาดหัวข่าวว่า “เราไม่สามารถช่วยท่านได้” เสนอข่าวการคาดการณ์ไฟป่าของวันอังคารที่ 12 พ.ย. จะมีความรุนแรงเกินกว่าที่ทางการจะช่วยเหลือทุกคนได้ อาจมีบ้านเรือนของประชาชนเป็นเหยื่อไฟไหม้นับแสนหลัง

12 พ.ย. 2019 อันที่จริงไฟป่าได้เกิดขึ้นเกือบทุกรัฐและดินแดนทั่วออสเตรเลีย แต่ที่หนักที่สุดคือในรัฐนิวเซาท์เวลส์รองลงมาคือรัฐควีนสแลนด์ เนื่องจากเนื้อหาข่าวออกมาถี่แบบรายชั่วโมง จึงขออนุญาตเสนอเน้นหนักไปในเชิงหัวข้อข่าว เพราะเวลามีจำกัด

ขออนุญาตเริ่มจากสื่อฯจากสำนักข่าว ABC รายงานว่า ทางการได้แจ้งผู้อยู่อาศัยทางขอบชายแดนของนครซิดนีย์ให้อพยพออกจากพื้นที่ หลังจากมีพื้นที่หลายแห่งของรัฐน.ซ.ว.ถูกจัดระดับความเสี่ยงไฟป่าขั้น ‘ภัยพิบัติ’ หรือ ‘catastrophic’

เขตภัยพิบัติของรัฐน.ซ.ว.ประกอบด้วย Greater Sydney, Greater Hunter, และ Illawarra & Shoalhaven โดยมีโรงเรียนและวิทยาลัยอาชีวศึกษา (TAFE) ประมาณ 600 แห่งถูกคำสั่งปิดในวันนี้ (12 พ.ย. 2019)

รายงานในตอนเช้าของวันที่ 12 พฤศจิกายน 2019 จากหนังสือพิมพ์ The Daily Telegraph ระบุว่าไฟป่าทั่วรัฐน.ซ.ว.ว่า “มีกำลังแรงมากกว่าสภาพอากาศ” จนสามารถสร้างสภาพไฟป่าในรูปแบบของตนโดยไม่ต้องให้สภาพอากาศเป็นตัวกำหนด จึงเป็นการยากต่อสำนักงานดับเพลิงส่วนท้องถิ่นคาดการณ์ได้ว่า กำแพงไฟป่าจะเคลื่อนที่ไปในทิศทางใด

ถึง ณ ตอนเช้าของวันนี้ไฟป่าได้ทำลายพื้นที่ทั่วออสเตรเลียไปแล้วประมาณ 970,000 เฮกตาร์หรือ 6.06 ล้านไร่ ซึ่งมีขนาดใกล้เคียงกับไฟไหม้เผาทำลายป่าในอเมซอนจำนวน 906,000 เฮกตาร์เมื่อต้นปีที่ผ่านมา

ข่าวออนไลน์นสพ. The Sydney Morning Herald วันที่ 12 พ.ย. 2019 รายงานข่าว บ้านนับพันหลังคาเรือนเสี่ยงต่อการถูกไฟไหม้พร้อมการเปิดเผยพื้นที่รหัสไปรษณีย์ที่อยู่ในข่ายเสี่ยง

สื่อฯ The SMH ระบุมีบ้านของประชาชนตามขอบชายแดนของนครซิดนีย์กว่า 100,000 หลังคาเรือนอยู่ในภาวะเสี่ยงต่อการถูกไฟป่าเข้าทำลาย The SMH ระบุพื้นที่เสี่ยงไว้ด้วยเช่นทางฝั่งทะเลตอนเหนือของซิดนีย์ตั้งแต่ Belrose ไป Berowra และย้อนลงใต้ที่ Lane Cove มีบ้านของประชาชนอยู่ในข่ายเสี่ยงกว่า 31,500 หลัง

ทางตะวันตกที่ Springwood ใน Blue Mountains ประมาณ 6,500 หลัง, และที่ Ku-ring-gai ทางซิดนีย์เหนือกว่า 10,000 หลังเป็นต้น

ส่วนพื้นที่รหัสไปรษณีของนครซิดนีย์ที่อยู่ในขั้นภัยพิบัติคือรหัสไปรษณีย์ 2756 Windsor, 2074 Turramurra , 2234 Menai และ 2233 Engadine

นาย Rob Rogers ผู้ช่วยผู้อำนวยการใหญ่สำนักงานดับเพลิงภูมิภาครัฐนิวเซาท์เวลส์ (NSW RFS) กล่าวว่าสถานการณ์ที่เกิดขึ้นในรัฐน.ซ.ว.ขณะนี้คล้ายคลึงกับเหตุการณ์ Black Saturday ในปี 2009 ที่เกิดขึ้นในรัฐวิกตอเรียทำให้มีผู้เสียชีวิตถึง 173 คน

สำหรับเขาทำงานกับสำนักงานดับเพลิงมาเป็นเวลา 40 ปีไม่เคยเห็นเหตุการณ์ไฟไหม้ป่าครั้งไหนร้ายแรงเท่ากับครั้งนี้

ในวันนี้นอกจากพนักงานดับเพลิงและอาสาสมัครจำนวน 1,300 นายเข้าทำหน้าที่ดับไฟป่าแล้ว ทางรัฐวิกตอเรียได้ส่งเจ้าหน้าที่ดับเพลิงมาร่วมสบทบอีก 300 คน ตามด้วยนาง Jacinda Ardern นายกรัฐมนตรีนิวซีแลนด์สั่งการเองส่งนักดับเพลิงข้ามช่องแคบแทสมันมาช่วยดับไฟป่าอีกจำนวนหนึ่ง ส่วนทางกระทรวงกลาโหมออสเตรเลียจัดเจ้าหน้าที่ทหารมาช่วยดับไฟป่า 20,000 คน และยังมีพันธมิตรดับไฟป่าจากสหรัฐและแคนาดาบินมาร่วมสมทบอีกจำนวนหนึ่ง

ข่าวออนไลน์นสพ. The Daily Mail วันที่ 12 พ.ย. 2019 ในช่วงหลังจากได้รับพิษสงของสภาพอากาศร้อนของวันอังคารพาดหัวข่าวว่า ‘the dead man zone’ หรือโซนคนตาย ในที่นี้หมายถึงพื้นที่ไฟป่าที่สามารถลุกไหม้ได้ภายในห้านาทีอันเนื่องมาจากการเปลี่ยนแปลงของทิศทางลมอย่างเฉียบพลัน พื้นที่ดังกล่าวเขาเรียกว่า ‘the dead man zone’

ในตอนกลางวันของวันอังคารที่ 12 พฤศจิกายนจิงโจ้นิวส์นั่งอยู่ในบ้านที่อุณหภูมิ 25 องศาเซลเซียสแต่หากก้าวเท้าออกไปนอกบ้านจะเจอกับอุณหภูมิ 36 องศา หากเป็นพื้นที่เขตไฟไหม้อุณหภูมิน่าจะเฉียด 40 องศา แต่พอพระอาทิตย์ตกดินอุณหภูมิกลับลดลงอย่างฮวบฮาบมาแต่ที่ประมาณ 20 องศา อันเนื่องจากลมเย็นได้พัดเข้ามาแทนที่ (ขณะรายงานข่าวเหลือ 15 องศา)

ได้แต่หวังว่าอากาศเย็นจะช่วยทุเลาไฟป่าลงได้ แต่ปรากฎว่าลมเปลี่ยนทิศทางที่เกิดขึ้นตั้งแต่ตอนเย็น กลับก่อให้เกิดการหักเหของเส้นทางเคลื่อนที่ของไฟป่า ทำให้ประชาชนที่คาดว่าอาจจะไม่อยู่ในแนวของไฟลุกลามก่อนหน้านี้ อาจจะเจอไฟเปลี่ยนทิศกลับมาเล่นงาน

สำนักข่าว ABC เสนอภาพพื้นที่ระบุไฟป่าในระดับ ‘ภัยพิบัติ’ ในภาพคือ Newcastle (ในภูมิภาค Greater Hunter), Parramatta (ในภูมิภาค Greater Sydney โดยมี Katoomba อยู่ชายขอบของภูมิภาคนี้), Wollongong และ Kiama (ในภูมิภาค Illawarra & Shoalhaven)

จิงโจ้นิวส์ผ่านตาแผนที่เขตไฟป่าระดับ ‘ภัยพิบัติ’ เขต Hornby และ Parramatta อยู่ในกลุ่มมีความเสี่ยงสูงต่อการถูกโจมตีด้วยไฟป่า (ทำสำเนาเก็บไว้แล้ว แต่หาไม่เจอ) จึงเป็นสาเหตุให้มหาวิทยาลัยเวสเทิร์นออสเตรเลียวิทยาเขต Parramatta ประกาศเลื่อนการสอบไล่ออกไปอย่างไม่มีกำหนด

สำนักงานข่าว SBS เสนอภาพแสดงระดับการเตือนไฟป่าในรัฐน.ซ.ว.ในระดับตั้งแต่ สูง (สีฟ้า), สูงมาก (สีเหลือง), รุนแรง (สีส้ม), สูงสุดขีด (สีแดง) และภัยพิบัติ (สีดำ)

เนื่องจากเวลาไม่เพียงพอขออนญาตสรุปจากหัวข้อข่าวที่ออกมาในช่วงประมาณเที่ยงคืนก่อนเข้าสู่วันพุธที่ 13 พฤศจิกายนดังนี้

ตำรวจรัฐน.ซ.ว.กำลังสอบสวนถึงกรณีไอ้พวก “rะ-yำ อัป-prีย์” (ขออภัยที่ไม่สุภาพ) แอบจุดไฟเผาป่ารอบซิดนีย์ โดยเชื่อว่ามีคนกระทำเช่นนี้จำนวนหลายราย และมีจำนวนไม่น้อยที่เข้าข่ายสงสัยก่อเหตุอย่างชัดแจ้ง

ข่าวออนไลน์นสพ. the SMH เสนอข่าวไฟไหม้ป่ารอบนครซิดนีย์ หลายจุดเกิดจากมีผู้ลักลอบจุดไฟ

ณ เวลาเที่ยงคืนของวันที่ 12 พฤศจิกายนไฟป่ายังเผาไหม้อย่างไร้การควบคุมอย่างน้อย 70 จุด โดย 36 จุดไม่สามารถคาดการณ์ทิศทางเคลื่อนที่ของไฟป่าได้

มีเจ้าหน้าที่ดับเพลิงจำนวนหนึ่งได้รับบาดเจ็บ ส่วนใหญ่เกิดจากการสูดดมควันพิษ เจ้าหน้าที่ดับเพลิงที่ North Rothbury รายหนึ่งเกิดอาการหัวใจหยุดเต้น (cardiac arrest)

ภาพแผนที่ไฟป่าล้อมนครซิดนีย์ ศรสีแดงชี้คือเขต Parramatta และศรสีเหลืองคือเขต City of Sydney

รายงานข่าวหลังเที่ยงคืนเข้าสู่วันที่ 13 พฤษจิกายน กำแพงไฟป่ายังคงเผ่าไหม้อยู่ต่อไปโดยเคลื่อนที่ไปทางเหนือ ขณะนี้ยังคงมีไฟป่าลุกไหม้ 70 จุด ในจำนวนนี้ประมาณ 40 จุดเป็นการเผาไหม้อย่างไร้การควบคุมและไม่สามารถคาดการณ์ทิศทางการเคลื่อนที่

ข่าวออนไลน์ของ 9 News ในตอนเที่ยงคืนก่อนเข้าสู่วันที่ 13 พ.ย. 2019 พาดหัวข่าว “ความเสี่ยงยังห่างไกลจากการจบสิ้น” หลังจากเปลวไฟยังมุ่งหน้าไปทางเหนือ

ขออภัยในการเร่งรีบเสนอข่าว เนื่องจากเวลามีจำกัด หากสะกดคำผิดพลาดต้องขออภัยมา ณ ที่นี้

 

jingjonews.com

jingjonews@hotmail.com (งดใช้ชั่วคราว)

Jingjonews เป็นสื่อออนไลน์มีวัตถุประสงค์เพื่อการเผยแพร่ข่าวสาร, บทความและประชาสัมพันธ์เพื่อชุมชน โดยปลอดจากการโฆษณาในเชิงพาณิชย์



Categories: ข่าวออสเตรเลีย

Tags: , , , , , , , , , ,

Leave a Reply

%d bloggers like this: