ขออนุญาตลงภาพนครแอดิเลดบ้าง เพราะลงซิดนีย์และเมลเบิร์นมาพอสมควรแล้ว : ภาพจาก Visit Australian – Tourism Australia
5 ก.ย. 2019 เดอะ Economist Intelligence Unit (EIU) ได้เปิดเผยเมื่อวันพุธที่ 4 กันยายนที่ผ่านมายกให้กรุงเวียนาของประเทศออสเตรียเป็นเมืองที่น่าอยู่ที่สุดในลกเป็นปีที่สองติดต่อกัน ส่วนนครเมลเบิร์นแชมป์เก่าครองอันดับสองเป็นปีที่สองตามด้วยนครซิดนีย์ขึ้นอยู่ในอันดับที่สาม
นครเมลเบิร์นเคยได้ครองอันดับหนึ่งจากการจัดของ EIU มาเป็นเวลาเจ็ดปีติดต่อกันจนกระทั่งในปี 2018 ได้เสียแชมป์ให้กับกรุงเวียนนาซึ่งครองที่อันดับหนึ่งเป็นปีที่สองด้วยคะแนน 99.1 เต็ม 100 คะแนน
จะว่าไปแล้วกรุงเวียนนาสมควรยกย่องว่าเป็นเมืองที่น่าอยู่ที่สุดในโลกอย่างแท้จริง เพราะสามารถอยู่ในอันดับหนึ่งจากการจัดอันดับเมืองน่าอยู่ของสถาบันจัดอันดับชั้นนำของโลกทั้งสามสถาบัน
ในการจัดอันดับครั้งนี้นอกจากนครเมลเบิร์นที่อยู่อันดับสองแล้วยังมีเมืองของออสเตรเลียอีกสองเมื่อที่ติดอันดับท็อปเท็นคือนครซิดนีย์ในอันดับที่ 2 และนครแอดิเลดในอันดับที่ 10 แล้วยังมีนครบริสเบนในอันดับที่ 14 และนครเพิร์ทในอันดับที่ 18
EIU กล่าวว่า ประเทศในแถนยุโรปตะวันตกและอเมริกาเหนือยังคงเป็นกลุ่มประเทศที่น่าอยู่ในอันดับต้น ๆ ของโลก
ปี 2019 ถือเป็นปีแรกที่ EIU ได้นำผลกระทบทางด้านภูมิอากาศเปลี่ยนแปลงมาคำนวณในการจัดอันดับด้วย
จึงเป็นผลให้กรุงนิวเดลีเมืองหลวงของอินเดียและกรุงไคโรเหมืองหลวงของอียิปต์ตกมาอยู่ในอันดับ 118 และ 125 ของโลก เนื่องจากทั้งสองเมืองมีคุณภาพอากาศย่ำแย่, มีอุณหภูมิเปลี่ยนแปลงอย่างไม่แน่นอนและการจัดการน้ำไม่เพียงพอ
และเหตุผลที่ทำให้นครซิดนีย์เขยิบจากอันดับที่ห้าขึ้นมาอยู่อันดับที่สามก็คือเรื่องของสภาพดินฟ้าอากาศ
EIU กล่าวว่า นครซิดนีย์มีอันดับดีขึ้นเนื่องจาก มีการพัฒนาไปทางที่ดีขึ้นในเรื่องของวัฒนธรรม, สิ่งแวดล้อม, และการรับมือกับผลกระทบจากการเปลี่ยนแปลงของอากาศภายใต้แผนยุทธศาสตร์เมือง ‘Sustainable Sydney 2030’
ในขณะที่กรุงปารีสหลุดอันดับ 5 เมืองน่าอยู่เมื่อปีที่ผ่านมาลงมาอยู่ในอันดับที่ 25 อันเนื่องมาจากการประท้วงต่อต้านรัฐบาลของกลุ่ม ‘เสื้อกั๊กสีเหลือง’
ฮ่องกงหล่นจากอันดับ 35 มาอยู่อันกับที่ 38 และน่าจะต่อลงไปอีกในปีหน้าหากผลกระทบจากกระประท้วงยังไม่สามารถหาข้อยุติลงได้ด้วยดี
กรุงลอนดอนและนครนิวยอร์กอยู่ในอันดับที่ 48 และ 58 ตามลำดับ ทั้งสองเมืองยังคงประสบปัญหาในเรื่องความเสี่ยงต่อการก่อการร้ายและการก่ออาชญากรรม
สำหรับเมืองที่น่าอยู่ที่สุดของประเทศสหรัฐอเมริกาคือโฮโนลูลูอยู่ในอันดับที่ 22 ตามด้วยแอตแลนต้าในอันดับที่ 33
สำหรับการจัดอันดับเมืองที่น่าอยู่ที่สุดในโลกโดย EIU Liveability Ranking 10 อันดับแรกประจำปี 2019 มีดังนี้
| อันดับ | เมือง | ประเทศ | คะแนน |
| 1 | เวียนนา | ออสเตรีย | 99.1 |
| 2 | เมลเบิร์น | ออสเตรเลีย | 98.4 |
| 3 | ซิดนีย์ | ออสเตรเลีย | 98.1 |
| 4 | โอซากา | ญี่ปุ่น | 97.7 |
| 5 | คาลการี | แคนาดา | 97.5 |
| 6 | แวนคูเวอร์ | แคนาดา | 97.3 |
| 7 | โตเกียว | ญี่ปุ่น | 97.2 |
| 7 | โตรอนโต | แคนาดา | 97.2 |
| 9 | โคเปนเฮเกน | เดนมาร์ก | 96.8 |
| 10 | แอดิเลด | ออสเตรเลีย | 96.6 |
ส่วนเมืองที่จัดอันดับน่าอยู่เป็นอันดับสุดท้ายยังคงเป็นเมืองเดิม ๆ คือ กรุงเมืองการาจี (ปากีสถาน), ตริโปลี (เลบานอน), ดาก้าหรือธากา (บังกลาเทศหรือบังคลาเทศ), ลากอส (ไนจีเรีย) และดามาสกัส (ซีเรีย)
โดยกรุงดามาสกัสเมืองหลวงของประเทศซีเรียครองเป็นเมืองไม่นาอยู่ที่สุดในโลกเป็นปีที่ 7 ติดต่อกัน
jingjonews.com
jingjonews@hotmail.com (งดใช้ชั่วคราว)
Jingjonews เป็นสื่อออนไลน์มีวัตถุประสงค์เพื่อการเผยแพร่ข่าวสาร, บทความและประชาสัมพันธ์เพื่อชุมชน โดยปลอดจากการโฆษณาในเชิงพาณิชย์
Categories: ข่าวออสเตรเลีย
Leave a Reply