ท่อระบายส้วมแตกเอ่ออาคารสงเคราะห์สร้างความเสียหายที่พักและศูนย์การเรียนรู้

อาคารสงเคราะห์ที่ถนน Alfred St. ที่ North Melbourne สถานที่เกิดเหตุ : ภาพจิงโจ้นิวส์คอปจาก google map

5 ส.ค. 2019 จิงโจ้นิวส์เลือกข่าวนี้เพราะไปเตะตากับคำพาดหัว “Poo-nami” อีกทั้งไม่เคยเห็นประสบการณ์แบบนี้บนตึกสูง เพราะอยู่แต่บ้านติดดินเหมือนชาวออสเตรเลียส่วนใหญ่ ต่างให้ความสนใจกับข่าวนี้

ครอบครัวพ่อแม่ลูกรวมสี่คนจำต้องอพยพออกจากอาคารสวัสดิการณ์ของรัฐเป็นกลุ่มแรก และศูนย์การเรียนรู้สำหรับผู้ใหญ่ต้องถูกทำลายหลังจากเกิดท่อระบายสิ่งโสโครกไหลย้อนกลับเข้ามาภายในตัวอาคารสงเคราะห์ที่ย่าน North Melbourne เขต City of Melbourne นครเมลเบิร์น

เหตุการณ์ครั้งนี้เกิดขึ้นที่อาคารที่พักอาศัยสูง 11 ชั้นถนน Alfred St. ในเวลา 9.00 น.ของวันอาทิตย์ที่ 4 สิงหาคม

ของเสียจากท่อระบายสิ่งโสโครกได้เริ่มไหลเอ่อท่วมพื้นห้องน้ำของครอบครัวสี่คนเป็นอันดับแรก เมื่อสมาชิกคนหนึ่งอาบน้ำจากฝักบัวแล้วสังเกตเห็นของเสียเริ่มเอ่อขึ้นมาจากช่องระบายน้ำ ก่อนที่จะเอ่อท่วมยูนิตอื่น ๆ ที่ใช้ฝักบัวและกดชักโครก สร้างภาระในการกำจัดสิ่งโสโครกครั้งใหญ่ที่สุดให้กับหน่วยบริการเหตุฉุกเฉินที่รวมถึงสำนักงานบริการเหตุฉุกเฉินแห่งรัฐ (SES), ตำรวจรัฐวิกตอเรียและสำนักงานดับเพลิงนครเมลเบิร์น (MFB)

ชั้นที่ได้รับผลกระทบมากที่สุดก็คือชั้นที่หนึ่งสิ่งโสโครกเอ่อท่วมไปทั่วพื้นของชั้น ก่อนที่จะย้อนลงไปสร้างความเสียหายให้กับศูนย์การเรียนรู้สำหรับผู้ใหญ่ที่อยู่ในชั้น G (ชั้นระดับพื้นถนน)

ปริมาณสิ่งโสโครกไหลท่วมทำให้เจ้าหน้าที่บรรเทาเหตุฉุกเฉินเรียกปรากฎการณ์ครั้งนี้ว่า “Poo-nami” อันเป็นคำสนธิเชื่อมระหว่างคำว่า “อุจาระ” กับ “สึนามิ” เจ้าหน้าที่เผชิญเหตุฉุกเฉินกว่า 20 นายได้ใช้เครื่องดูดฝุ่นพลังสูงสำหรับใช้ในอุตสาหกรรมดูดสิ่งโสโครก

ภาพประกอบข่าว Poo-nami ที่อาคารสงเคราะห์ในเมลเบิร์น : ภาพจาก google image

นาย Phil Rogan ผู้บังคับการ MFB ส่วนนครเมลเบิร์นกลางกล่าวว่าเจ้าหน้าที่เหตุฉุกเฉินได้นำเครื่องดูดฝุ่นอุตสาหกรรมมาช่วยกำจัดสิ่งโสโครก แต่พอดูดออกไปของโสโครกใหม่ก็ไหลเข้ามาแทนที่

แม้แต่ผู้อยู่บนอาคารเหนือชั้น 1 ขึ้นไปหากเปิดน้ำในห้องน้ำหรืออ่างล้างจาน ก็จะเผชิญกับปัญหาของเสียไหลย้อนขึ้นมา ซึ่งนาย Rogan บอกว่าของเสียเหล่านี้ยังดูสด ๆ อยู่เลย

เจ้าหน้าที่ได้ขอร้องให้ผู้อยู่ในอาคารหยุดการปัสสาวะและอุจาระเนื่องจากระบบระบายของเสียของตัวอาคารไม่ทำงาน

นาย Rogan กล่าวว่า ภาระกิจในการขจัดสิ่งโสโครกเบื้องต้นใช้เวลาเกือบ 2 ชั่วโมงจึงสามารถควบคุมได้ หลังจากเจ้าหน้าที่ทีมตรวจจับวัตถุอันตราย (hazmat team) ทีมงานที่ได้รับการฝึกพิเศษในการจัดการกัมมันตรังสีและวัสดุอันตรายทางชีวภาพต้องเข้ามารับภารกิจที่ีไม่คุ้นเคย ในการสืบหาสาเหตุที่เกิดขึ้น

สี่ีชั่วโมงหลังจากทีมงานตรวจจับวัตถุอันตรายถูกเรียกมา สิ่งโสโครกเริ่มหยุดไหล หน่วยรถดับเพลิงเข้าทำหน้าที่เคลื่อนย้ายเอาน้ำที่มีกลิ่นเหม็นอย่างมากออกไป

หลังจากนี้ไปกระทรวงสาธารณสุขและบริการมนุษยชาติของรัฐบาลรัฐวิกตอเรียจะทำหน้าที่เป็นผู้ซ่อมแซมความเสียหาย ซึ่งนาย Rogan กล่าวว่า ยังมีงานที่จะต้องทำอีกมาก รวมถึงงานทำความสะอาดครั้งใหญ่ โดยเฉพาะในชั้นที่หนึ่งและชั้น G จะต้องเลาะฝาผนังและพรมออกหมด คาดว่าจะใช้เวลา 1 สัปดาห์เป็นอย่างต่ำ

ทางด้านนาย Kevin Carlisle-Stapleton จากสำนักงาน SES กล่าวว่าอุบัติเหตุครั้งนี้ไม่ได้ส่งผลกระทบต่อโครงสร้างของอาคารแต่อย่างใด

ส่วนสาเหตุมาจากลากต้นไม้ใหญ่ได้ขัดขวางทางเดินของท่อระบายสิ่งโสโครกไม่ให้ผ่านลงสู่ระบบกำจัดของเสียนั่นเอง

 

jingjonews.com

jingjonews@hotmail.com (งดใช้ชั่วคราว)

Jingjonews เป็นสื่อออนไลน์มีวัตถุประสงค์เพื่อการเผยแพร่ข่าวสาร, บทความและประชาสัมพันธ์เพื่อชุมชน โดยปลอดจากการโฆษณาในเชิงพาณิชย์



Categories: ข่าวออสเตรเลีย

Tags: , , , , , , ,

Leave a Reply

Discover more from jingjonews

Subscribe now to keep reading and get access to the full archive.

Continue reading