NT ปล่อยนักโทษไทยคนสุดท้ายคดีขนเฮฯครั้งใหญ่สุดในปท.เมื่อ 25 ปีที่แล้ว

ข่าวออนไลน์นสพ. The NT News วันที่ 13 ก.ค. 2019 เสนอบทความเบื้องหลังความพยายามลักลอบนำเฮโรฮินเข้าประเทศครั้งใหญ่ที่สุดเมื่อปี 1994

13 ก.ค. 2019 จิงโจ้นิวส์จำได้ว่าเมื่อประมาณสามปีที่ผ่านมาคุณสุรศักดิ์ ดวงรัตน์ได้ส่งสำเนาจดหมายจากนักโทษชาวไทยในนอร์เทิร์นเทร์ริทอรีมาให้ เนื้อหาในจดหมายเขียนขอบคุณที่คุณสุรศักด์ส่งหนังสือพิมพ์ไทย-ออสนิวส์ไปให้อ่านอย่างต่อเนื่องเกือบสองทศวรรษในระหว่างที่เขาถูกจำคุก เขายังขอบคุณสุภาพสตรีไทยคนหนึ่งและกลุ่มคนไทยในเมืองดาร์วินที่ให้ความเกื้อหนุนมาอย่างต่อเนื่องหลายปีแม้ไม่เคยรู้จักกันมาก่อน นี่คือน้ำใจของคนไทยที่มีให้แม้กระทั่งผู้ถูกจองจำอย่างโดดเดี่ยวห่างไกลญาติมิตร

ชายผู้นี้ยังคงยืนยันว่าเขาเป็นเพียงผู้ตกกระไดพลอยโจน แต่ก็ต้องยอมรับในชะตากรรม

ผมจำได้ว่า ได้ขออนุญาตคุณสุรศักดิ์นำจดหมายนี้มาเผยแพร่ เพราะผู้เขียนเองก็คงไม่ขัดที่จะให้เผยแพร่เนื่องจากเนื้อหาในจดหมายบ่งบอกอย่างนั้น แต่เพื่อปกป้องความเสียหายผมได้ลบชื่อของผู้เขียนออกไป       

ผมมั่นใจว่าได้เผยแพร่จดหมายนี้ลงในจิงโจ้นิวส์ แต่ค้นดูแล้วไม่พบ มีความเป็นไปได้ว่าบทความข่าวของผมอาจถูกลบออกไป เพราะมันเคยปรากฎมาแล้ว หรือไม่ผมก็คงค้นไม่เจอเอง

จะอย่างไรก็ตามวันนี้หนังสือพิมพ์ The NT News และสำนักข่าว ABC ได้นำเสนอสกู๊ปบทความข่าวพิเศษถึงการปล่อยตัวนักโทษชาวไทยคนสุดท้ายในคดีลักลอบนำเข้าเฮโรฮินครั้งใหญ่ที่สุดของออสเตรเลียในขณะนั้นหลังจากชายผู้นี้ติดคุกมาเป็นเวลา 25 ปีเต็ม

นักโทษรายสุดท้ายคนนี้คือนาย Somphon Leevanit (โสภณ ลีวาณิชย์) เป็นหนึ่งในสามคนไทยคนสุดท้ายที่ถูกจำคุกมาตั้งแต่ปี 1994 ได้ถูกปล่อยตัวเป็นอิสระในวันนี้ (13 ก.ค. 2019) หลังจากติดคุกเป็นเวลา 25 ปี และหลังจากถูกปล่อยตัวแล้ว เขาจะถูกนำตัวเข้าสถานกักกันผู้เข้าเมืองผิดกฎหมาย เพื่อเข้ากระบวนการเนรเทศกลับประเทศไทยต่อไป

นาย Tony Fuller ผู้บัญชาการตำรวจดินแดนนอร์เทิร์นเทร์ริทอรี (NT) ซึ่งในขณะนั้นเป็นเดือนกรกฎาคม 1994 เขายังเป็นตำรวจปราบปรามยาเสพติดชั้นผู้น้อยกล่าวว่า กลุ่มชาวไทยที่นำเรือประมงค์เข้ามาค่อนข้างอ่อนประสบการณ์กับการลักลอบนำเขาเฮโรอินที่มีน้ำหนักถึง 123 กิโลกรัม

พวกเขาคิดเอาเองหรือมีใครบางคนบอกว่าที่อ่าว Darwin Harbour มีเรือหาปลามากมาย ที่พวกเขาสามารถปะปนเข้ามาโดยไม่มีใครสังเกต

เรือหาปลา Bahari 314 ที่ถูกจับได้ในเดือนกรกฎาคมปี 1994 ในน่านน้ำออสเตรเลียขณะมุ่งหน้าสู่เมืองดาร์วิน : ภาพจากสำนักข่าว ABC ต้นฉบับสำนักงานตำรวจ AFP

แต่ชายทั้งแปดคนบนเรือ Bahari 314   ได้ถูกแอบติดตามโดยเจ้าหน้าที่ศุลกากรออสเตรเลีย (ปัจจุบันถูกผนวกเข้าเป็นส่วนหนึ่งของสำนักงานพิทักษ์พรมแดน) มาก่อนที่เรือจะผ่านมาถึงเกาะ Bathurst Island

บนเรือ Bahari 314 ได้บรรทุกเฮโรอินที่มีน้ำหนักมากที่สุดเท่าที่เคยลักลอบเข้าประเทศออสเตรเลียในขณะนั้น

เจ้าหน้าที่สังเกตเห็นผู้อยู่บนเรือได้โยนถุงกระสอบลงทะเลในขณะที่ตำรวจออกคำสั่งให้พวกเขานำเรือไปจอดที่ท่าเรือ Darwin Harbour

ผบตร. Fuller กล่าวว่าตอนนั้นหมอกปกคลุมหนาแต่ก็พอเห็นว่าพวกเขากำลังโยนถุงกระสอบลงทะเล

ตำรวจสามารถยึดถุงกระสอบไว้ได้สองถุง และต้องใช้เวลากว่าหนึ่งสัปดาห์ในการงมถุงกระสอบจากก้นทะเลขึ้นมาได้ทั้งหมด เป็นเฮโรอินน้ำหนักรวม 123 กก. มีมูลค้าตามท้องถนนในขณะนั้นประมาณ 3 ล้านเหรียญ

ผู้อยู่บนเรือทั้ง 8 คนเป็นผู้ถือสัญชาติไทยทั้งสิ้น ทั้งหมดถูกจับกุมและถูกตั้งข้อหา

ผู้บัญชาการ Fuller กล่าวว่าในสมัยนั้นไม่มีเฮโรอินแพร่หลายในเมืองดาร์วิน การยึดเฮโรอินได้ในปริมาณมากจึงกลายเป็นข่าวใหญ่ไปทั่วประเทศ

หลังจากนั้นการดำเนินคดีกับชายทั้งแปดคนจึงเกิดขึ้น ต่อมาข้อกล่าวหาชาย 5 คนได้ตกไป พวกเขาถูกส่งตัวกลับประเทศไทย เหลือเพียง 3 คนเท่านั้นที่ถูกศาลตัดสินจำคุกตลอดชีวิต

ภาพผู้ต้องหาชาวไทย 4 ใน 8 คน แม้จะถูกจับคดีร้ายแรงแต่ใบหน้าของพวกเขายังยิ้มแย้มแจ่มใส สมกับเป็นชาวสยามเมืองยิ้ม : ภาพจากสำนักข่าว ABC ต้นฉบับสำนักงานตำรวจ AFP

อย่างไรก็ตามนาย Sanan Wangsaimas (สนั่น วังไสมาส) หนึ่งในสามคนที่ถูกตัดสินจำคุกตลอดชีวิต เป็นคนแรกที่ถูกปล่อยตัวออกจากมาในปี 2016 หลังจากติดคุกเป็นเวลา 22 ปี พร้อมถูกเนรเทศกลับประเทศไทยทันที

นักโทษคนที่สองคือนาย Phonchai Tansakun (พรชัย แทนสกุล) ได้เสียชีวิตลงในระหว่างถูกคุมขังในวันที่ 10 กรกฎาคม 2011 ด้วยโรคมะเร็งในปอด การเสียชีวิตของเขาทำให้เกิดความสับสนในการระบุตัวบุคคลในระหว่างการจับกุม

ในปี 2012 นาย Greg Cavanagh เจ้าพนักงานโคโรเนอร์พบว่านายพรชัยและนายโสภณได้ถูกจับและตั้งข้อหาภายใต้ชื่อสลับกันระหว่างคนทั้งสอง

นายสนั่นผู้เสียชีวิตในคุกเป็นกัปตันเรือ Bahari 314 ได้แสดงภาพลูกเรือปะปนกันโดยไม่ได้ตั้งใจในระหว่างการจัดเอกสารผู้เดินทางทางทะเล ซึ่งเป็นหลักฐานเริ่มต้นที่ตำรวจนำมาใช้ในระหว่างการสอบสวนคดี

และการสอบสวนเพิ่มเติมในเวลาต่อมายังพบว่านายพรชัยที่แท้ยังมีสัญชาติมาเลเซียในอีกชื่อหนึ่งว่านาย Yong Lam Chai

ผู้บัญชาการ Fuller กล่าวว่า นั่นเป็นเรื่องเมื่อ 25 ปีที่แล้ว ในปัจจุบันระบบการตรวจสอบบุคคลและเทคโนโลยีใหม่ถูกนำเข้ามาใช้แทนที่ โอกาสผิดพลาดจะมีน้อยลงจนแทบเป็นศูนย์

แม้จะมีความสับสนในการจำแนกตัวบุคคล แต่ทั้งสามก็ได้รับโทษจำคุกตามที่ศาลตัดสิน และได้รับการปล่อยตัวออกจากเรือนจำตามระบบการพิจารณาทัณฑ์บนไปเป็นที่เรียบร้อยแล้ว

 

jingjonews.com

jingjonews@hotmail.com (งดใช้ชั่วคราว)

Jingjonews เป็นสื่อออนไลน์มีวัตถุประสงค์เพื่อการเผยแพร่ข่าวสาร, บทความและประชาสัมพันธ์เพื่อชุมชน โดยปลอดจากการโฆษณาในเชิงพาณิชย์



Categories: ข่าวคนไทยในออสเตรเลีย, ข่าวออสเตรเลีย

Tags: , , , , , , , , , ,

Leave a Reply

Discover more from jingjonews

Subscribe now to keep reading and get access to the full archive.

Continue reading