แม่บ้านสมองไวเผยวิธีประหยัดเงินค่าชื้อของชำได้ถึงปีละ 1 หมื่นเหรียญ

ข่าวออนไลน์นสพ. The Daily Mail วันที่ 23 พ.ค. 2019 เสนอข่าวแม่ลูกสามซื้อของชำเลี้ยงครอบครัวเพียงสัปดาห์ละไม่ถึง 70 เหรียญเท่านั้น โปรดสังเกตสินค้าในภาพส่วนใหญ่ต่ำกว่า 1 เหรียญ

23 พ.ค. 2019 เรื่องนี้เชื่อว่าพวกเราหลายคนได้นำมาใช้กันแล้ว รวมถึงจิงโจ้นิวส์ซึ่งบ้านอยู่ใกล้ซูเปอร์มาร์เก็ตก็รอซื้อของโปรโมชั่นลด 20%-50% ประจำสัปดาห์ ส่วนแม่ลูกสามที่เป็นข่าวรายนี้เธอได้เล่าถึงวิธีที่เธอสามารถประหยัดค่าของชำปีละ 10,000 เหรียญเพียงแค่ไปซูเปอร์มาร์เก็ตให้ถูกเวลาของวันเท่านั้น

นาง Kimberley Bertram จากนครซิดนีย์กล่าวว่า เธอสามารถจัดงบประมาณการซื้อของชำในแต่ละสัปดาห์ต่ำกว่า 70 เหรียญจากการซื้อสินค้ามาร์กดาวน์ (markdown สินค้าปิดป้ายลดราคา)

เธอคือหนึ่งในลูกค้าหลายหมื่นครอบครัวชาวออสเตรเลียที่รอคอยเวลาที่เหมาะสมในการไปจับจ่ายซื้อของ ในช่วงที่ซูเปอร์มาร์เก็ตลดราคาก่อนที่จะทิ้งมันลงถังขยะ

(ในออสเตรเลียของลดราคาจากซูเปอร์มาร์เก็ตยังไม่หมดอายุ สินค้าบางชนิดยังสามารถรับประทานได้อีกเป็นเดือน และยังมีคนอีกประเภทหนึ่งส่วนใหญ่เป็นผู้อพยพไปเก็บสินค้าในแต่ละวันที่ซูเปอร์มาร์เก็ตเขาทิ้งขยะมารับประทานซึ่งก็ยังไม่หมดอายุเหมือนกัน แต่ซูเปอร์มาร์เก็ตหลายแห่งเขาจะมีองค์กรการกุศลมารับไปเพื่อทำอาหารให้คนจรจัดรับประทาน)

Kimberley ผู้ซึ่งเลือกซื้อสินค้าที่ซุเปอร์มาร์เก็ตของ Coles และ Woolworths กล่าวว่า เคล็ดลับอยู่ที่การซื้อของลดราคาที่ถูกที่สุดในช่วงชั่วโมงทอง (golden hour) ที่ซูเปอร์มาร์เก็ตใกล้บ้าน

ช่วงลดราคามัก (always) เกิดขึ้นในตอนบ่ายไปถึงตอนดึก (ซูเปอร์ฯปิดเที่ยงคืน) ซึ่งซูเปอร์ฯมีทางเลือกคือขายในราคาถูกย่อมดีกว่าโยนทิ้งถังขยะ

(จิงโจ้นิวส์ปีประสบการณ์ชอบเดินไปซื้อสินค้าเบเกอรี่ที่ Woolies ใกล้บ้านในตอนกลางวันเพื่อมาเก็บไว้ทานในตอนกลางคืนชิ้นละ 3 เหรียญ แต่ตอนหลังเปลี่ยนมาเป็นไปซื้อตอนหัวค่ำแทนเพราะเขาลดราคาลงเหลือชิ้นละ 1 หรือ 1.50 เหรียญ แถมของที่เก็บในตู้แผนกเบเกอรี่มีคุณภาพดีกว่าที่ซื้อมาเก็บไว้เองอีกด้วย)

นักจ้องซื้อของราคาถูกอีกหลายคนเห็นด้วยว่าชั่วโมงทองมักจะเกิดขึ้นในชั่วโมงแรก ๆ ของตอนบ่ายหรือภายในหนึ่งชั่วโมงก่อนปิดร้าน

(จิงโจ้นิวส์ขออนุญาตเสริมเคยมีประสบการณ์ไปตอนชั่วโมงแรกของวันเปิดร้านหลังเทศกาลคริสต์มาส เจอคนมารอกันเพียบเพราะเขารู้ว่าทางซูเปอร์ฯจะลดราคาอาหารทะเลตกค้าง ตอนนั้นเลยได้กุ้งล็อบสเตอร์และก้ามปูอลาสก้าราคาถูกมาก ๆ กลับมาแจกลูกบ้านโดยไม่ได้ตั้งใจ)

แต่ Kimberley บอกว่าหากต้องการเป็นนักช็อปปิ้งระดับเชี่ยวชาญอย่างเธอ จะต้องสามารถเก็งอย่างแม่นยำว่าของจะลดราคาเมื่อไร เพราะซูเปอร์มาร์เก็ตแต่ละแห่งมีชนิดสินค้าลดราคาและมีช่วงเวลาลดราคาแตกต่างกัน

(จิงโจ้นิวส์สามารถคำนวณสินค้าบางอย่างได้ว่าซูเปอร์มาร์เก็ตจะลดราคาในสัปดาห์ไหน โดยอาศัยประสบการณ์เป็นคนช่างสังเกต แต่ก็เคยมีประสบการณ์ทำให้เจ็บใจเหมือนกันเช่นเคยซื้อโคมไฟตั้งโต๊ะจาก Woolies ราคา 32 เหรียญ พอวันรุ่งขึ้นเขาลดเหลือ 16 เหรียญ ทำให้เจ็บใจกับความใจร้อนของตนอยู่นานหลายวัน)

ช่วงเวลาที่ดีที่สุดของซูเปอร์มาร์เก็ตในการลดราคาสินค้า

หนังสือพิมพ์ The Daily Mail กล่าวว่าซูเปอร์มาร์เก็ตขนาดใหญ่ของออสเตรเลียจะลดราคาแบบก้าวหน้า (progressively หรือก้าวหลัง) คือ 20%, 40%, 60%, 80% หรือแม้กระทั่ง 99% ตลอดเวลาของวัน

ส่วนวันที่กำหนดลดราคามีความไม่แน่นอน เนื่องจากสินค้ามีเวลาหมดอายุแตกต่างกันไป แต่นักล่าของถูกส่วนใหญ่กล่าวว่าเวลาที่ดีที่สุดของการลดราคาคือในช่วงชั่วโมงแรกของตอนเช้าหลังเปิดร้านและในชั่วโมงสุดท้ายก่อนปิดร้าน

มีนักช็อปฯหลายครอบครัวสามารถประหยัดเงินจากการซื้อสินค้าราคาถูก ก่อนที่ซูเปอร์มาร์เก็ตจะเก็บสินค้าแล้วบริจาคสินค้า (ที่ยังไม่หมดอายุ) ให้กับองค์กรการกุศลหรือไม่ก็ทิ้งถังขยะ

สำหรับ Kimberley กล่าวว่า เธอใช้งบในการจับจ่ายซื้อของชำประมาณสัปดาห์ละ 70 เหรียญ โดยประหยัดเงินถึงสัปดาห์ละ 200 เหรียญหรือตกปีละ 10,400 เหรียญทีเดียว

สินค้าที่เธอซื้อมาบางอย่างแทบแจกให้ฟรีเช่น เนื้อไก่ทุบชุบแป้งอย่างเยอรมัน (chicken schnitzels) แพคเกจละ 99 เซนต์, เนื้อแกะ 2 เหรียญ, หมูสามชั้น 2.74 เหรียญ, ไส้กรอกหมู 75 เซนต์, ไส้กรอกเนื้อวากิว 1.49 เหรียญ, เนื้อที-โบนสเต็ก 75 เซนต์, น้ำอัดลมขนาดคาร์ตันละ 6 ขวด 25 เซนต์เป็นต้น ซึ่งขอที่เธอซื้อมาในแต่ละครั้งสามารถทำอาหารรับประทานได้หมดในแต่ละสัปดาห์ก่อนหมดอายุทั้งสิ้น

Kimberley กล่าวว่าเธอได้เปิดเฟสบุ๊ค Markdown Addicts Australia ซึ่งขณะนี้มีผู้ติดตามมากกว่า 100,000 คน เพื่อช่วยให้ช่วยพวกเขาสามารถติดตามหาสินค้าลดราคาและสินค้าล้างสต็อกจากซูเปอร์มาร์เก็ตที่ไหนและเมื่อใดทั่วประเทศออสเตรเลีย

(เข้าใจว่าเธอได้รับความร่วมมือจากซูเปอร์มาร์เก็ตขนาดใหญ่ เพราะมีเว็บไซท์คล้ายคลึงกันอยู่อีกหลายเจ้า)

เคล็ดลับเพียงแค่พวกเขาต้องไปช็อปฯให้ถูกเวลาและถูกสถานที่เท่านั้น ถือว่าวิน-วินกันทั้งลูกค้าและซูเปอร์มาร์เก็ต

 

jingjonews.com

jingjonews@hotmail.com (งดใช้ชั่วคราว)

Jingjonews เป็นสื่อออนไลน์มีวัตถุประสงค์เพื่อการเผยแพร่ข่าวสาร, บทความและประชาสัมพันธ์เพื่อชุมชน โดยปลอดจากการโฆษณาในเชิงพาณิชย์



Categories: ข่าวออสเตรเลีย

Tags: , , , , , ,

Leave a Reply

Discover more from jingjonews

Subscribe now to keep reading and get access to the full archive.

Continue reading