
มารดาวัย 32 ปีและบิดาวัย 34 ผู้ได้รับการปกปิดชื่อตามกฎหมายเพื่อผลประโยชน์ของเด็กหญิงขณะมาปรากฏตัวที่ศาลท้องถิ่นกลาง Downing : ภาพในระบบป๊อปอาร์ต
12 พ.ค. 2019 ข่าวนี้เป็นข่าวมาตั้งแต่วันที่ 10 พฤษภาคมแต่จิงโจ้นิวส์ขอย้อนนำกลับมาเสนอในวันที่ไม่มีข่าว เป็นเรื่องของบิดามารดาวีแกนผู้ให้บุตรรับประทานอาหารตามความเชื่อของตน จนบุตรสาวเกิดป่วยหนักจำต้องส่งโรงพยาบาล และล่าสุดผู้เป็นบิดามารดาได้ยอมรับสารภาพผิดตามข้อกล่าวหาแล้ว
ในการพิจารณาคดีวันที่ 9 พฤษภาคมศาลท้องถิ่นกลาง Downing ในนครซิดนีย์ได้รับฟังว่าในขณะที่เด็กหญิงได้รับความช่วยเหลือในวัย 1 ปี 8 เดือนเธอยังไม่มีฟันขึ้นแม้แต่ซี่เดียวและตัวเล็กเหมือนทารกอายุ 3 เดือน
มารดาวัย 32 ปีและบิดาวัย 34 จากย่านทางตะวันออกของนครซิดนีย์ผู้ได้รับการปกปิดชื่อตามกฎหมายเพื่อผลประโยชน์ของเด็กทารกได้ยอมรับสารภาพผิดตามข้อหาไม่เลี้ยงและดูแลบุตรอย่างเหมาะสมจนเป็นเหตุให้ทารกอยู่ในภาวะอันตรายและเจ็บป่วยร้ายแรง
ทารกหญิงถูกนำตัวเข้าโรงพยาบาลในวันที่ 10 มีนาคมปีที่ผ่านมา (2018) หลังจากเธอมีอาการชัก เนื่องจากเธอถูกให้อาหารอย่างเข้มงวดตามแผนโภชนาการของมารดาจนเป็นเหตุให้เป็นเป็นโรคขาดอาหารอย่างรุนแรง รวมถึงทำให้เธอเป็นโรคกระดูกอ่อน
ทั้งสองถูกตำรวจจับกุมในวันที่ 6 เมษายน 2018 และถูกนำขึ้นศาลครั้งแรกที่ศาลท้องถิ่น Waverly ศาลได้รับฟังว่าทั้งความสูงและน้ำหนักตัวทารกต่ำกว่าอายุเฉลี่ยของเด็กในวัยเดียวกันมาก
อดีตผู้ดูแลเด็กทารกซึ่งเริ่มเข้ามาทำหน้าที่ตั้งแต่เดือนสิงหาคมปี 2018 กล่าวว่าตอนนั้นเด็กมีอายุเกือบ 2 ขวบ มีน้ำหนักตัวเพียง 4.89 กก.และดูเหมือนเด็กอายุ 3 เดือน เธอกล่าวว่าลูกของเธอเองเมื่อเกิดใหม่ ๆ ยังมีน้ำหนักเกินกว่า 4 กก.
อดีตผู้ดูแลเด็กทารกกล่าวว่า เด็กยังไม่มีฟันขึ้นแม้แต่ซี่เดียว เธอยังไม่สามารถทำตัวขั้นพื้นฐานอย่างเด็กทั่วไปเช่นนอนกลิ้ง, ยังไม่สามารถตั้งไข่ได้ตามลำพัง ทั้งนี้ก็เนื่องจากอาชญากรรมที่บิดามารดาก่อไว้กับตัวเด็ก
ในปัจจุบันทารกหญิงรายนี้มีอายุเกือบสามปี เมื่อเทียบน้ำหนักและส่วนสูงโดยเทคนิคแล้วเท่ากับว่าเธอเป็นโรคอ้วนผิดปกติ ขณะนี้ความสูงของเธอเทียบเท่ากับเด็กอายุ 1 ปี
เด็กหญิงคนนี้ได้รับการรักษาพยาบาลอยู่นานหลายเดือน เมื่อเธอออกจากโรงพยาบาลเธอยังจะต้องเข้ารับการตรวจจากแพทย์ผู้เชี่ยวชาญในทุกวัน และจำเป็นต้องเข้ารับตามตรวจเลือดในทุก ๆ เดือน
เมื่อวันที่ 9 พฤษภาคม (2019) ผู้พิพากษาหญิง Sarah Huggett ได้ปฏิเสธข้ออ้างของผู้เป็นบิดาว่าเขา “ไม่มีอำนาจ” ในการปกป้องบุตรสาว หลังจากทนายความของเขาอ้างว่าผู้เป็นบิดาไม่ได้เป็นวีแกน ส่วนภรรยาของเขาเป็นผู้เคร่งในวีแกนและเป็นเผด็จการของบ้าน
แต่ผู้พิพากษา Huggett กล่าวถึงผู้เป็นบิดาว่า “เขาไม่ใช่ (คนไม่มีอำนาจ) เขาควรที่จะเป็นผู้เข้าไปอุ้มบุตรสาวและพาเธอไปหาหมอ” “ศาลไม่สามารถยอมรับข้ออ้างที่ว่าไม่มีอำนาจของจำเลย”
รายงานการสอบสวนประวัติทางการแพทย์ของเด็กหญิงพบว่าเธอไม่ได้เข้ารับการฉีดยาเพิ่มความคุ้มกันโรคอย่างเด็กทั่วไป, ไม่มีการนำเด็กเข้าตรวจหลังคลอดเป็นระยะ ๆ ตามแพทย์กำหนด, ไม่มีใบเกิดและไม่มีการทำบัตรเมดิแคร์
สองสามีภรรยาคู่นี้ยังมีบุตรชายด้วยกันอีกสองคนปัจจุบันอายุ 6 ปีและ 4 ปี ทั้งสองได้รับผลกระทบต่อการให้โภชนาการตามวิถีวีแกนเช่นกัน เด็กทั้งสองในปัจจุบันอยู่ในความดูแลของรัฐบาลนับตั้งแต่บิดามารดาของพวกเขาถูกดำเนินคดี
ตำรวจกล่าวว่า บิดาและมารดาของเด็กซึ่งปัจจุบันแยกทางกันแล้ว ได้ให้อาหารบุตรสาวอย่างจำกัดและขาดคุณค่าทางการโภชนาการ
ทั้งสองถูกนำตัวขึ้นศาลครั้งแรกในเดือนพฤษภาคมปีที่ผ่านมา (2018) หรือสองเดือนหลังจากทารกเกิดอาการชัก
ผู้พิพากษาได้กำหนดวันพิจารณาตัดสินโทษจำเลยทั้งสองในวันที่ 25 มิถุนายน 2019
jingjonews.com
jingjonews@hotmail.com (งดใช้ชั่วคราว)
Jingjonews เป็นสื่อออนไลน์มีวัตถุประสงค์เพื่อการเผยแพร่ข่าวสาร, บทความและประชาสัมพันธ์เพื่อชุมชน โดยปลอดจากการโฆษณาในเชิงพาณิชย์
Categories: ข่าวออสเตรเลีย
Leave a Reply