1 พ.ค. 2019 สตรีชาวมาเลเซีียผู้ถูกกล่าวหากรรโชกทรัพย์สองสามีภรรยาชาวเมลเบิร์นขณะบุตรสาวกำลังสิ้นใจเพื่อเรียกค่าไถ่โทรศัพท์มือถือ 1,000 เหรียญจะต้องใช้ชีวิตในเรือนจำอีก 2 เดือนเพื่อรอการพิจารณาคดี
นาง Siti Nurhidayah Kamal วัย 24 ปีผู้ต้องหากรรโชกทรัพย์นาย Jay และ นาง Dee Windross เพื่อแลกกับการคืนโทรศัพท์มือถือที่บันทึกภาพบุตรสาววัย 11 เดือนของพวกเขาในช่วงป่วยระยะสุดท้าย (ตามที่จิงโจ้นิวส์เสนอข่าวไปในวันที่ 30 เมษายน 2019 ในหัวข้อ “สาวมาเลย์เจอข้อหากรรโชกทรัพย์เรียกเงินจากพ่อแม่ทารกป่วยระยะสุดท้าย”)
ในการขึ้นศาลแขวงนครเมลเบิร์นเมื่อวานนี้ที่ 30 เมษายนโดยการผ่านระบบวิดีโอจากเรือนจำ นักกฎหมายจาก Legal Aid ได้ยื่นขอประกันตัวนาง Kamal แต่ผู้พิพากษายังคงปฏิเสธอีกครั้ง
นาง Kamal ถึงกับร่ำไห้เมื่อล่ามแปลภาษามาเลย์บอกว่าเธอจะต้องอยู่ในเรือนจำต่อไปจนกว่าจะมีการพิจารณาคดีครั้งต่อไปในวันที่ 8 กรกฎาคมหรืออีกกว่าสองเดือนข้างหน้า
นาง Kamal ได้ติดต่อนายและนาง Windross โดยผ่าน WhatsApp หลังจากที่ทั้งสองใช้เฟสบุ๊คขอความช่วยเหลือในการคืนโทรศัพท์มือถือ ซึ่งบันทึกภาพ Amiyah บุตรสาวขณะป่วยระยะสุดท้ายชุดเดียวที่พวกเขามีอยู่
นาง Kamal ได้ใช้ความต้องการนี้อ้างว่าเธอมีโทรศัพท์อยู่ในมือ และต้องการเงิน 1,000 เหรียญเป็นค่าแลกเปลี่ยน และขู่ว่าถ้าไม่ยอมโอนเงินเธอจะเอาโทรศัพท์ไปขาย
ซึ่งแท้จริงแล้วนาง Kamal ไม่มีโทรศัพท์แต่อย่างใด
นาง Kamal และสามีเดินทางมาออสเตรเลียเมื่อปีที่ผ่านมา โดยฝากบุตรสองคนไว้กับญาติในมาเลเซีย
ศาลได้รับฟังว่าจำเลยและสามีทำงานเป็นคนส่งอาหารตามบ้านให้กับ Uber Eats ในพื้นที่ย่าน St Kilda ด้วยจักรยานที่เช่ามา แต่รายได้ตกวันละประมาณ 120 เหรียญซึ่งไม่พอเพียง
จำเลยและสามีเพิ่งจะย้ายเข้าไปอยู่บ้านแชร์ห้องนอนที่ย่าน Springvale ทางตะวันตกเฉียงใต้ของนครเมลเบิร์นเมื่อสองสัปดาห์ที่ผ่านมา แต่ยังไม่ได้จ่ายค่าเช่าแต่อย่างใด ซึ่งแลนด์ลอร์ดได้แจ้งต่อตำรวจว่าเขามีความประสงค์ที่จะขับไล่จำเลยและสามีออกไปหากไม่ชำระค่าเช่าค้างจ่าย
สำหรับนายและนาง Windross ไม่ได้มาฟังคำพิจารณาที่ศาลครั้งนี้ ส่วนโทรศัพท์มือถือที่หายไป ยังคงไม่ได้คืนมา
jingjonews.com
jingjonews@hotmail.com (งดใช้ชั่วคราว)
Jingjonews เป็นสื่อออนไลน์มีวัตถุประสงค์เพื่อการเผยแพร่ข่าวสาร, บทความและประชาสัมพันธ์เพื่อชุมชน โดยปลอดจากการโฆษณาในเชิงพาณิชย์
Categories: ข่าวออสเตรเลีย
Leave a Reply