
น.ส. Caitlin Alsop ในช่วงหลังจากฟื้นจากอาการป่วย : ภาพจากนสพ. The Daily Mail ต้นฉบับ Facebook / Caitlin Alsop
29 เม.ย. 2019 หญิงสาววัย 24 ปีโชคดีที่ยังมีชีวิตรอดหลังจากเธอป่วยจากอาการฟันกรามซี่สุดท้ายติดเชื้อ (wisdom tooth infection) ไปขัดขวางทางเดินหายใจ กว่าจะพบสาเหตุของโรคแพทย์ต้องทำให้เธอเป็นเจ้าหญิงนิทราถึงเก้าวัน
ทั้งนี้น.ส. Caitlin Alsop จากเมืองโกลด์โคสต์รัฐควีนสแลนด์ขณะเกิดเหตุอยู่ในวัย 23 ปีได้เข้านอนแต่หัวค่ำของคืนหนึ่งในเดือนสิงหาคมปีที่ผ่านมา แต่เธอกลับรู้สึกหายใจไม่ออกเฉียบพลัน
อาการเริ่มแรกของเธอคล้ายกับเป็นไข้หวัดใหญ่และมีผื่นขึ้นที่ใบหน้า ตอนนั้นเธอเชื่อว่าอาการดังกล่าวจะหายเองภายในวันสองวัน
แต่อย่างไรก็ตามช่องคอและลิ้นของเธอได้เริ่มบวมอย่างรวดเร็วจนปิดช่องทางเดินอากาศหายใจ
เธอถูกนำส่งโรงพยาบาล ในตอนแรกแพทย์คิดว่าเธออาจมีอาการแพ้อะไรบางอย่าง จึงให้อะดรีนาลีน*แก่เธอ
(*adrenaline ยากระตุ้นหัวใจ เป็นสารที่สามารถหลั่งได้เองจากต่อมหมวกไตเวลาโกรธ, ตกใจ, ตื่นเต้นอย่างรุนแรง)
หลังจากนั้นความดันโลหิตของเธอได้ลดลงอย่างรวดเร็วทำให้คณะแพทย์ตัดสินใจทำให้เธออยู่ในภาวะไม่รู้สึกตัว (into an induced coma) กินเวลาถึง 9 วันกว่าจะหาสาเหตุอาการป่วยของเธอ
น.ส. Alsop เล่าถึงอาการป่วยของเธอลงในเฟสบุ๊คว่า “อาการทั้งสามของฉันคือ ความรู้สึกเหมือนลิ้นไหม้ในคืนนั้น, ผื่นสีแดงขึ้นที่ใบหน้าและนอนหลับตลอดเวลา ไม่มีแพทย์คนใดวินิจฉัยโรคได้ว่าเกิดอะไรขึ้นกับฉันอย่างแท้จริง”
เธอกล่าวกับหนังสือพิมพ์ The Courier Mail ว่า ผื่นสีแดงได้ขึ้นไปทั่วร่างกายท่อนบนของเธอและผิวหนังไหม้ทั้งภายนอกและภายใน ในขณะที่ลิ้นของเธอได้กลายเป็นสีดำอันเนื่องมาการขาดเลือดหมุนเวียน จนแพทย์เกือบตัดสินใจตัดลิ้นของเธอทิ้งเพื่อช่วยชีวิตเธอเอาไว้
มารดาของน.ส. Alsop เล่าให้เธอฟังว่า แพทย์ได้บอกให้มารดาของเธอเผื่อใจไว้สำหรับการรับข่าวร้าย ตอนนั้นสมาชิกทุกคนต่างมากันที่โรงพยาบาล

น.ส. Caitlin Alsop น่าจะเป็นในช่วงเดือนมกราคม 2019 ตามบัตรที่ปรากฎในภาพ : ภาพจากนสพ. The Daily Mail ต้นฉบับ Facebook / Caitlin Alsop
หลังจากที่คณะแพทย์ทำการทดสอบหลายต่อหลายครั้งในที่สุดก็พบว่าน.ส. Alsop ได้ป่วยเป็นโรคร้ายแรงถึงชีวิตที่พบไม่บ่อยนักคือโรคติดเชื้อทางปากที่เรียกว่า Ludwig’s Angina (โรคอักเสพติดเชื้อของชั้นเนื้อเยื่อในโพรงใต้คาง ตั้งชื่อตามนพ. Wilhelm Frederick von Ludwig ผู้ค้นพบโรคนี้) มาเป็นเวลาหลายเดือน
เชื้อได้เริ่มแพร่กระจายเข้าสู่ฟันกรามซี่สุดท้ายก่อนลุกลามไปทั่วทั้งกราม ซึ่งเธอกล่าวว่าอาการของเธอถือว่าเกิดขึ้นได้ยาก และมีโอกาสสูงที่จะเสียชีวิต
เชื้อโรคนี้ยังมีความเป็นไปได้ที่จะกระจายไปถึงคอ, หน้าอกและสมอง
นพ. Kemal Akbiyik ศัลยแพทย์ช่องปากและใบหน้าขากรรไกร (oral and maxillofacial surgeon) กล่าวว่าคนเราสามารถเสียชีวิตได้จากเหตุฟันติดเชื้อ จึงเป็นเหตุผลสำคัญที่ทุกคนควรเข้ารับการตรวจสุขภาพฟันจากทันตแพทย์เป็นประจำทุกปีและถ้าเป็นไปได้ควรถอนฟันกรามซีกสุดท้ายหรือฟันส่วนเกินออกเสีย
น.ส. Alsop กล่าวว่าอาการของเธอยังใช้เวลาอีกยาวนานในการฟื้นคืนสู่สภาพปกติ แต่ที่แน่ ๆ ก็คือระบบการสั่นสะเทือนเสียงของเธอไม่สามารถกลับคืนมาได้อย่างถาวร
jingjonews.com
jingjonews@hotmail.com (งดใช้ชั่วคราว)
Jingjonews เป็นสื่อออนไลน์มีวัตถุประสงค์เพื่อการเผยแพร่ข่าวสาร, บทความและประชาสัมพันธ์เพื่อชุมชน โดยปลอดจากการโฆษณาในเชิงพาณิชย์
Categories: ข่าวออสเตรเลีย
Leave a Reply