หนึ่งในภาพนาย Abdul Mohamed ในวัยเด็กที่น้องสาวของเขานำมาเปิดเผย : เครดิตภาพจากนสพ. The Daily Mail / Nick Edwards

26 เม.ย. 2019 น้องสาวของหนึ่งในผู้ก่อเหตุระเบิดพลีชีพในศรีลังกาจนมีผู้เสียชีวิต 359 คน อ้างว่าพี่ชายคนเขาเคยเป็นคนมีจิตใจดีร่าเริ่งแจ่มใส แต่พฤติกรรมของเขาเปลี่ยนไปอย่างสิ้นเชิงหลังกลับจากออสเตรเลีย

จากการสัมภาษณ์นาง Samsul Hidaya น้องสาวของนาย Abdul Lathief Jameel Mohamed หนึ่งใน 9 มือระเบิดพลีชีพที่ศรีลังกากล่าวถึงพี่ชายของเขาว่า พี่ชายของเธอได้รับการเลี้ยงดูอย่างดีและได้รับการศึกษาในโรงเรียนที่มีชื่อเสียงของประเทศ แต่เข้าเริ่มฝักใฝ่ในลัทธิมุสลิมหัวรุนแรงในขณะศึกษาอยู่ในประเทศออสเตรเลีย

เธอกล่าวว่าก่อนไปศึกษาที่อังกฤษเขาก็ยังเป็นคนปกติ หลังจากสำเร็จการศึกษาจากอังกฤษก็ยังเป็นปกติ แต่หลังจากสำเร็จปริญาโทจากออสเตรเลียแล้วกลับมาศรีลังกาเขาเปลี่ยนไปเป็นคนละคน

เขาไว้เครายาว, ไม่มีอารมณ์ขัน, ไม่รักเสียงดนตรี, ไม่มีจิตใจโอบอ้อมอารีและเป็นมิตรกับทุก ๆ คนเหมือนแต่ก่อน เขากลายเป็นคนเงียบและมีอารมณ์รุนแรง เขามีปัญหากับพี่น้องทุกคน รวมถึงการเถียงกันในเรื่องของหลักศาสนา

นาง Hidaya กล่าวว่าเธอเองก็ทะเลาะกับนาย Mohamed จนหนักเข้าเธอไม่คุยกับเขาอีกเลย เพราะคุยกันไม่รู้เรื่อง พี่น้องคนอื่น ๆ ก็เลี่ยงที่จะพบกับเขา

กล้อง CCTV จับภาพนาย Abdul Mohamed เพียงไม่กี่นาทีก่อนกระทำระเบิดพลีชีพ : ภาพจาก news.sky.com และปรากฎในสื่อมวลชนจากหลายสำนัก

นาย Mohamed ได้ก่อเหตุพยายามระเบิด Taj Samudra Hotel โรงแรมระดับห้าดาวในกรุงโคลัมโบเมืองหลวงของศรีลังกาในวันอิสเตอร์ซันเดย์ (อาทิตย์ที่ 21 เมษายน 2019 ตามที่จิงโจ้นิวส์เสนอข่าวไปแล้วในหัวข้อ “หนึ่งในมือระเบิดพลีชีพที่ศรีลังกาเป็นอดีตนักศึกษามหา’ลัยในออสเตรเลีย” ลงวันที่ 25 เมษายน 2019)

แต่เป็นที่เชื่อว่าได้เกิดความผิดพลาดบางประการ ทำให้เกิดระเบิดก่อนถึงโรงแรมเป้าหมาย แต่ได้ระเบิดขึ้นตรงจุดที่ตั้งของเกสต์เฮาส์ไปพร้อมกับร่างของเขาถูกแรงระเบิดฉีกเป็นชิ้น ๆ

ทางด้านหน่วยงานต่อต้านการก่อการร้ายของสหราชอาณาจักรได้เปิดเผยผลการตรวจสอบพบว่านาย Mohamed ได้เข้ารับการศึกษาที่มหาวิทยาลัยคิงสตันทางตะวันตกของกรุงลอนดอนในปี 2006 ถึง 2007

ภาพนาย Abdul Mohamed ก่อนเสียชีวิต : ภาพจากข่าว Sunrise ทางทีวี 7

นาง Hidaya กล่าวว่าภรรยาของพี่ชายของเธอเป็นคนเงียบและเก็บตัวไม่สุงสิงกับใคร ทั้งสองเข้าพิธีสมรสที่จัดขึ้นอย่างใหญ่โตก่อนที่จะเดินทางมาศึกษาต่อที่นครเมลเบิร์นประเทศออสเตรเลีย

หลังจากเกิดเหตุการณ์ก่อวินาศกรรมภรรยาของพี่ชายได้ถูกตำรวจนำไปกักตัว ส่วนบุตรทั้งสี่ีของเธอกับนาย Mohamed มีอายุ 6 ขวบ, 4 ขวบ, 2 ขวบและ 6 เดือนถูกส่งไปอยู่ในความดูแลของผู้เป็นยาย

เธอกล่าวว่าพี่ชายของเธอเกิดในปี 1982 (ปัจจุบันอายุ 37 ปี) ในจำนวนพี่น้อง 6 คนจากครอบครัวค้าชาที่ร่ำรวยในเมือง Kandy

เขาเข้ารับการศึกษาที่โรงเรียน Gampola International School ก่อนย้ายไปศึกษาที่ Royal Institute โรงเรียนนานาชาติเกรด A ที่มีชื่อเสียงของศรีลังกา

เมื่อ 10 ปีที่ผ่านมานาย Abdul Latif บิดาของนาย Mohamed ได้เสียชีวิตลง นาง Samsun Nissa มารดาของเขาได้ย้ายครอบครัวมาอยู่ที่กรุงโคลัมโบ โดยเช่าชั้นบนของคฤหาสน์ในย่านตะวันออกของเมืองหลวงซึ่งเป็นถิ่นที่อยู่ของกลุ่มผู้นับถืออิสลามที่มีอันจะกิน

หลังจากนาย Mohamed กลับจากอังกฤษเขาได้ย้ายเข้ามาอาศัยอยู่กับมารดา แล้วพบรักกับ Shifana บุตรสาวของเจ้าของคฤหาสน์ในครอบครัวค้าเนื้อสัตว์ที่ร่ำรวยมาก

ทั้งสองแต่งงานกัน ก่อนที่จะเดินทางมาอยู่ในออสเตรเลียเพื่อศึกษาต่อปริญญาโททางด้านวิศวกรรมการบิน

นาง Hidaya ได้แต่งงานกับชายชาวนิวซีแลนด์เชื้อสายศรีลังกา เธอได้ย้ายมาอยู่ที่นครโอ๊คแลนด์เมืองเอกของเกาะเหนือโดยมีนาง Nissa ผู้เป็นมารดาย้ายมาอยู่กับเธอ

ส่วนนาย Mohamed ซึ่งบุตรคนแรกของเขาเกิดในออสเตรเลียได้ย้ายกลับไปศรีลังกา โดยเข้าอยู่อาศัยในคฤหาสน์ที่มารดาของเขาเช่าจากบิดาของ Shifana

ในขณะเดียวกับปู่ของนาย Mohamed ได้เสียชีวิตลงและทิ้งสมบัติจำนวนมหาศาลไว้ให้เขา ที่รวมถึงบ้านของครอบครัวที่เมือง Kandy ทำให้เขาอยู่อย่างสุขสบายโดยไม่ต้องทำงาน

ก่อนที่เขาจะก่อเหตุระเบิดพลีชีพได้ไม่นาน นาย Mohamed ได้ขายบ้านของครอบครัวที่ Kandy ซึ่งนาง Hidaya กล่าวว่า “ดูเหมือนเขาต้องการเงินก้อนใหญ่เพื่อทำอะไรสักอย่าง”

jingjonews.com

jingjonews@hotmail.com (งดใช้ชั่วคราว)

Jingjonews เป็นสื่อออนไลน์มีวัตถุประสงค์เพื่อการเผยแพร่ข่าวสาร, บทความและประชาสัมพันธ์เพื่อชุมชน โดยปลอดจากการโฆษณาในเชิงพาณิชย์

Categories: ข่าวออสเตรเลีย

Tags: ข่าวการก่อการร้าย, ข่าวรัฐวิกตอเรีย, ข่าวออสซี่, ข่าวออสเตรเลีย, นาย Abdul L. J. Mohamed, นิวซีแลนด์, ประเทศออสเตรเลีย, ระเบิดพลีชีพ, รัฐวิกตอเรีย, ศรีลังกา, ออสเตรเลีย