
อาหารผักรับประทานกับ rice paper ถ้าตัดวุ้นเส้น, เนื้อหมูและแผ่นปอเปี๊ยะเวียดนามออกไป พอที่จะเป็นอาหารที่เป็นมิตรกับหัวใจได้ดมนูหนึ่ง : ภาพจิงโจ้นิวส์ถ่ีายจากอาหารของนักศึกษาที่มาขอใช้บ้านเป็นที่จัดทำอาหารเลี้ยงกัน
บังเอิญผมได้อ่านบทความนี้ เขียนโดยท่านผู้ใหญ่ที่นับถือคนหนึ่งเขียนถึงคุณสถาพรเล่าถึงวิธัการรักษาเส้นเลือดหัวใจตีบ 2 เส้นด้วยวิธีธรรมชาติ ซึ่งผมเห็นว่าเป็นวิธีที่น่าอัศจรรย์ ไม่ต้องเสี่ยงผ่าตัดหัวใจ แถมไม่ต้องเสียค่าใช้จ่ายในการผ่าตัด ผมจึงขออนุญาตท่านผู้นี้นำมาลงเผยแพร่
ส่วนคุณสถาพรนั้น ผู้ใหญ่ที่นับถือท่านนี้บอกว่า “พี่สถาพรท่านรู้จักผมมา 50 ปีแล้ว ตั้งแต่เมืองไทยจนถึงซิดนีย์ และพี่เขาเห็นการปฏิบัติตัวของผมมาโดยตลอด เคยมาพักที่บ้าน และผมให้หนังสือของท่านปรมาจารย์ตั๊กม้อ ถึงวิธีแกว่งแขนแล้วทำให้ร่างกายแข็งแรง พี่เขานำไปใช้และส่งต่อเพื่อนๆ ได้ผลดีมาก ปัจจุบันพี่เขาอายุ 80 แล้ว และพอดีเรื่องเส้นเลือดตีบพี่เขาก็อยู่ในเหตุการณ์ระหว่างรักษา พี่เขาก็เร่งอยากได้ข้อมูลเลยเขียนให้เท่านี้ก่อน
เมื่อเขียนแล้วก็เลยถือโอกาสส่งต่อให้ทุกคนเผื่อได้ใช้รักษาตัวโดยไม่ต้องเสียเงินทอง เผยแพร่ต่อได้เลยครับ ผักที่ผมนำมาปั่นก็เป็นผักสวนครัวรั้วกินได้น่ะครับง่ายๆ
ด้วยความปราถนาดี”
แล้วผมก็ลืมนึกที่จะถามว่าเปิดเผยชื่อท่านผู้เชียนได้ไหม? นี่ก็ปาเข้าไปตีสามกว่าแล้ว จะโทรสอบถามคงไม่เหมาะแน่ ๆ ขอเขียนของท่านมาดังต่อไปนี้
รักษาเส้นเลือดหัวใจตีบ 2 เส้นด้วยวิธีธรรมชาติ
บทความข่าวโดย…….
สวัสดีครับพี่สถาพร ผมจะเล่าเรื่องการรักษาโรคเส้นเลือดหัวใจตีบ 2 เส้น ซึ่งเกิดขึ้นกับผมโดยตรง และก็รักษาแบบธรรมชาติเพียง 6 เดือนเห็นผล อาจเป็นเป็นประโยชน์นำไปใช้ได้ ขณะผมบันทึกครั้งแรกตามเหตุการณ์อายุ 70 ปี 4 เดือน และเพิ่งทราบผลการตรวจหัวใจขั้นสุดท้ายล่าสุดเมื่อวันที่ 6 กรกฎาคม 2018 นี้เอง สุขภาพแข็งแรง เดินตีกอล์ฟสัปดาห์ละ 4 วัน น้ำหนัก 70 กิโลกรัม ความสูง 180 เซนติเมตร
เหตุเกิดเมื่อ 7 เดือนที่แล้ว ตอนนั้นอายุ 69 ปี 9 เดือน น้ำหนัก 85-86 กิโลกรัม ถ้ายืนตัวตรงมองเท้าตัวเองไม่เห็นเพราะพุงบังตา รู้สึกอึดอัดมากอยากจะลดพุง ขณะนั้นเพื่อนๆใกล้ชิดหากมองผมจะดูสุขภาพแข็งแรง แต่ความเป็นจริงแล้ว สุขภาพอยู่ภายใต้การควบคุมของยาความดัน และยาเบาหวาน มาเป็นเวลากว่า 20 ปี เป็นการใช้ยาที่แรงสุด หากอาการรุนแรงว่านี้ ก็จะต้องฉีดอินซูลิน อาการเท้าและขาจะบวมประจำ เป็นเช่นนี้มานับ 10 ปีแล้ว สถานะของร่างกายที่กินเจมา 10 ปี การออกกำลังกาย เดินตีกอล์ฟสัปดาห์ละ 4 วันคิดว่าไม่มีปัญหาอะไร
เมื่อวันที่ 23 ธันวาคม 2017 เดินทางไปเที่ยวสิงคโปร์ บังเอิญได้พบกับหมอหัวใจที่มีชื่อเสียงมากที่นั่น ได้รับการยกย่องเป็น (ดาโตะ) DATO DR LESLIE LAM (KING OF HEART) หมอให้เดินสายพานเพื่อตรวจการทำงานของหัวใจ (Treadmill Stress Test) ผลการตรวจพบว่าเป็นโรคหัวใจรุนแรงอยู่ในขั้นอันตราย ซึ่งเหมือนกับเพื่อนที่พาไป เขาทำบอลลูนไปสองเส้นแล้ว (ถามว่านึกอย่างไรไปตรวจทั้งที่ไม่มีอาการอะไร ส่วนการที่ Treadmill Stress Test ก็เพราะจะตรวจเป็นเพื่อนญาติผู้ใหญ่และภรรยา ปรากฏว่าทุกคนผ่านหมดยกเว้นผม)
วันที่ 3 มกราคม 2018 ได้ไปพบหมออายุรแพทย์โรคหัวใจ ที่โรงพยาบาลเจ้าพระยายมราช จ.สุพรรณบุรี โดยคุณหมอ Dr.Pairoj Pinjeesekikul เพื่อความแน่ใจ ให้เดินTreadmill Stress Test อีกครั้ง เดินได้เพียง 4 นาที หมอต้องสั่งหยุดเดินเพราะเกรงว่าจะเกิดอาการรุนแรงกับหัวใจ
วันที่ 4 มกราคม 2018 ได้พบแพทย์อีกท่านหนึ่ง ที่โรงพยาบาลศิริราช ปิยมหาราชการุณย์ โดยนายแพทย์ ชาญ ศรีรัตนสถาวร นัดทำ CTSCAN วันที่ 8 มกราคม 2018 รับผลในวันรุ่งขึ้นที่ 9 มกราคม 2018 พบว่ามีเส้นเลือดที่ขั้วหัวใจตีบสองเส้น เส้นเลือดเหลือทำงานได้เพียง 25% แนะนำให้ไปพบแพทย์ประจำตัวที่ออสเตรเลียเพื่อทำการรักษา
วันที่ 11-15 มกราคม 2018 เดินทางไปไต้หวัน เดินขึ้นเขา ขึ้นบันไดสูง ๆ ได้สังเกตอาการของตัวเองโดยตลอด ไม่มีสิ่งผิดปรกติ
วันที่ 18 มกราคม 2018 ขึ้นเครื่องจากภูเก็ต เข้าชั้นปฏิบัติธรรม 3 วันเริ่มวันที่ 19-21 มกราคม 2018 ที่สถานธรรมผู๋จี้กง ในการเข้าชั้นฟังธรรม มีกฏให้ปิดการสื่อสารทุกชนิดและปิดปากด้วยทั้งสามวัน ถึงพบคนรู้จักก็ไม่ต้องทักทาย ให้อยู่ในความสงบ อาบน้ำได้วันละครั้ง อาหารวันละ 2 มื้อ แต่ถ้าจะอดอาหารเพื่ออุทิศเป็นกุศลทาน ก็อนุญาตให้ทำได้ ได้เลือกปฏิบัติด้วยการอดอาหารเพื่ออุทิศบุญทั้งสามวัน บังเอิญเกิดความคิดว่า ถือโอกาสงดยาประจำตัวมียาเบาหวาน ความดัน (เหตุผลเมื่อไม่รับประทานอาหารก็ไม่จำเป็นต้องทานยา เพราะจะเป็นการนำพิษเข้าสู่ร่างกาย) เท่ากับเริ่มหยุดยาวันที่ 19 มกราคม 2018 เป็นต้นมาและงดทานยาประจำทั้งหมดเรื่อยมา เริ่มปฏิบัติการรักษาตัวเองโดยวิธีธรรมชาติ อาศัยแนวทางจาก นายแพทย์สันต์ ใจยอดศิลป์ ดื่มน้ำผักปั่น (คลิปหมอผ่าตัดหัวใจอันดับหนึ่งของไทย เมื่อท่านเป็นโรคหัวใจ) และเป็นเรื่องบังเอิญอีก เพื่อนที่ร่วมประชุมธรรมหลังเสร็จสิ้นและรอขึ้นเครื่อง ได้เล่าให้ฟังถึงเพื่อนที่บินกลับมาเมืองไทย เพื่อช่วยคุณแม่พ้นจากการทำบอลลูนภายในไม่กี่สัปดาห์ ผมก็บอกว่าใช่เลยผมกำลังจะหาวิธีปฏิบัติเกี่ยวกับการรักษาโรคเส้นเลือดหัวใจ ตีบอยู่พอดี ผมรีบติดต่อ ได้รับคำแนะ ปฏิบัติตาม เห็นผลมาจนกระทั่งวันนี้
วันที่ 25 มกราคม 2018 กลับถึงออสเตรเลีย ยังไม่แจ้งผลหัวใจให้แพทย์ประจำตัวทราบและเริ่มรักษาตัวเองทันทีด้วยวิธี ธรรมชาติ และกระทั่งในที่สุด วันที่ 28 กุมภาพันธ์ 2018 ไปตรวจเลือดทุกหกเดือน ผลน้ำตาลในเลือดค่อนข้างสูง(F Gluc Plasma 8.9) จึงบอกหมอไปว่าหยุดทานยามา 2 เดือน หมอจึงนัดตรวจเลือดใหม่อีก 3 เดือน วันที่ 31 พฤษภาคม 2018 ตรวจใหม่ผลออกมาน้ำตาลต่ำกว่าเดิม (F Gluc Plasma 7.1) คราวนี้จำเป็นต้องแจ้งให้แพทย์ประจำตัวทราบ เกี่ยวกับหัวใจ เพราะต้องตรวจเลือดประจำทุกหกเดือน
วันที่ 5 มิถุนายน 2018 ไปพบหมอโรคหัวใจในออสเตรเลีย คุณหมอเดชะบุญ จังศิริวัฒนกุล (Bernie) นำผลจากการตรวจทั้งสามแห่งไปให้ คุณหมอจีงว่าผลทั้งหมดยังไม่ 100% ต้องฉีดสี (Coronary Angiogram) จึงทราบผลที่แน่นอน และวันที่ 6 กรกฎาคม 2018 เข้าโรงพยาบาล (Blacktown Hospital) ซึ่งเราก็เตรียมใจไว้แล้วเพราะการฉีดสีนั่นหมายถึงว่า หากเส้นเลือดอุดตัน ก็อาจต้องทำบอลลูน ด้วยการใส่ขดลวดเข้าไปในเส้นเลือดช่วงอุดตัน หรือถ้ามากก็ต้องผ่าตัด…….ในที่สุดหลังกระบวนการฉีดสี ผลออกมา การทำงานของเส้นเลือดปรกติ ทำงานได้ดีกว่าเดิมอีก 50-60% นับว่าเป็นความบังเอิญที่โชคดี
วันที่ 7 พฤศจิกายน 2018 ผลตรวจน้ำตาลในเลือดดีขึ้นมากเลยเหลือ (F Gluc Plasma 6.4) ผลตรวจความดันตาก็ดีขึ้น จนหมอตาบอกว่าไปทำอะไรมา ประวัติความดันตาเดิมอยู่ที่ 17 ปัจจุบันเหลือเพียง 12 (เป็นเบาหวานต้องตรวจตาทุกปี)
วันที่ 14 กุมภาพันธ์ 2019 พบหมอหัวใจรอบสอง ตรวจปรกติ ได้เดินสายพานเพื่อตรวจการทำงานของหัวใจ (Treadmill Stress Test) ผลออกมาดีมาก วิ่งผ่านฉลุย กลายเป็นว่าไม่เคยเป็นโรตหัวใจ
วันนี้ที่ 11 เมษายน 2019 บันทึกเพิ่มเติม สุขภาพของแข็งแรงสมบูรณ์ อายุย่าง 72 เท้าที่เคยบวมหาย พุงหาย น้ำหนักหายจาก 85 กก.เหลือ 70 กก. เบาหวาน ความดันหาย เดินตีกอล์ฟอาทิตย์ละ 4 วันเหมือนเดิม ผมเลิกทานยา ความดัน เบาหวาน ตั้งแต่ปลายปี 2017
วิธีการรักษาแบบธรรมชาติบำบัด “ปรับสมดุลในร่างกาย”

มะละกอดิบหนึ่งในอาหารหลักปรับสมดุลในร่างกาย : ภาพนี้จิงโจ้นิวส์ถ่ายจากต้นมะละกอต้นที่บ้าน โดยไอ้น่ารักนักศึกษาจีนเอาพันธุ์มาจากควีนสแลนด์มาปลูกให้ที่บ้าน ตอนนี้เธอกำลังศึกษาปริญญาเอกอยู่ที่กรุงปารีส
เดิมร่างกายของผมมีโรคความดันและเบาหวานติดตัวมานาน ร่างกายทำงานโดยยาที่หล่อเลี้ยงมากว่า 20 ปี เราใช้วิธีการดี่มน้ำผักปั่น กำจัดน้ำตาลเก่า ๆ ในร่างกาย และความดันในร่างกายให้คงที่ให้ได้เสียก่อน โดยงดผลไม้ทุกชนิด น้ำตาล ข้าว ขนมปัง บิสกิต ข้าวโพด น้ำถั่วเหลือง กาแฟ น้ำมันพืช เห็ด เครื่องปรุงทุกชนิด (ต้องลดน้ำตาลในร่างกายให้อยู่ในระดับต่ำ เพื่อฆ่าน้ำตาลร้ายในร่างกายให้หมดสิ้น จากนั้นร่างกายก็จะทำงานเป็นปกติ)ตั้งเป้าไว้หกเดือน
อาหารหลักที่รับประทาน ผักอย่างน้อย 25 ชนิดต่อสัปดาห์ (ผักอย่างน้อย 5 อย่าง) กล้วยดิบ มะละกอดิบ มะม่วงดิบอย่างเปรี้ยว Extra Virgin Oil 3 ช้อนชา ขิง มะนาว กระเจี๊ยบ มะระ ผงอบเชยชงดื่ม 1ช้อนกาแฟต่อวัน ถั่วอัลมอน Walnut 5-10 เม็ด ถั่วแดง ถั่วดำ ถั่วขาว ถั่วเขียว Avocado & Avocado Oil ขิง ขมิ้นสด ต้มดื่ม มันเทศ เผือก โครเมี่ยมจากถั่วเขียว แม็กนีเซี่ยมจาก Baby Spenich เม็ดฟักทอง เพิ่ม CoQ10 กินเพื่อทำลายไขมัน (ทุกเช้า) Restore Probiotic วันละเม็ดตอนเย็น ช่วยแบคทีเรียตัวดี (CoQ10 & Restore Probiotic สองตัวนี้ร่างกายผลิตไม่ได้ต้องกินช่วย) “หมายเหตุ ทั้ง CoQ10 & Restore Probiotic เฉพาะตัวผมเพราะจำกัดในเรื่องการรับประทานอาหารสาเหตุจากการกินเจตลอดชีพ ไม่ทานผักฉุนห้าชนิด” ดื่มน้ำวันละ 2.8 ลิตร การนอนต้อง 8 ชั่วโมงเพื่อให้ร่างกายซ่อมแซมร่างกายโดยธรรมชาติ สำหรับการออกกำลัง บริหารร่างกายเบา ๆ (อย่างเกรงใจหัวใจ ถึงแม้ไม่มีอาการ)
ตรวจเช็คน้ำตาลในเลือด วัดความดัน ชั่งน้ำหนัก ทุกวัน จากสถิติเพียงแค่สองเดือน น้ำหนักก็ลดลง 15 กก.แล้ว ผลที่ได้รับเกินค่า พี่ครับร่างกายคนเรานี่วิเศษสุด เป็นโรงงานผลิตบุญกุศล เพื่อใช้ในชาตินี้และชาติหน้าอย่างไม่มีวันหมดสิ้น (จิตเป็นนาย กายเป็นบ่าว) ผมเคยสงสัยและคิดมานานกว่า 40 ปีแล้วว่าเราเกิดมาทำไม เพียงแต่คิดได้ว่า “กายมาจากจิต และจิตสร้างรูปลักษณ์” เดิมก็คิดแต่ว่าเพียงในชาตินี้ แต่หลังจากได้คุยกับพี่เมื่อวันที่ 30 มีนาคม 2019 เกิดมีความคิดใหม่เพิ่มขึ้นมาอีกว่า “กายมาจากจิต และจิตสร้างรูปลักษณ์ ให้มีพลัง แข็งแรงและยืนยาว ได้มีโอกาสได้สร้างบุญกุศลอย่างไม่รู้จบ ไม่พบคำว่ารู้ตัวก็สายเสียแล้ว”
ผมสรุปให้พี่ก่อนมีแต่เนื้อไม่มีน้ำครับ
jingjonews.com
jingjonews@hotmail.com (งดใช้ชั่วคราว)
Jingjonews เป็นสื่อออนไลน์มีวัตถุประสงค์เพื่อการเผยแพร่ข่าวสาร, บทความและประชาสัมพันธ์เพื่อชุมชน โดยปลอดจากการโฆษณาในเชิงพาณิชย์
Categories: ข่าวออสเตรเลีย, บทความทั่วไป
Leave a Reply