หนุ่มออสซี่ตัวการใหญ่ก่อการร้ายยิงถล่มมัสยิดในไครสต์เชิร์ชตาย 49 คน

ข่าวออนไลน์ของนสพ. The Age วันที่ 16 มี.ค. 2019 พาดหัวข่าว “วันที่สุดมืดมน : ยอดผู้เสียชีวิตที่ไครสต์เชิร์ชเพิ่มขึ้นเป็น 49, จับผู้ต้องหาได้ 4 คน”

15 มี.ค. 2019 ได้เกิดเหตุกลุ่มคนร้ายก่อการบุกเข้ายิงถล่มใส่มัสยิด 2 แห่งในไครสต์เชิร์ชนครหลวงของเกาะใต้ประเทศนิวซีแลนด์ โดยหนึ่งในคนร้ายเป็นชายหัวขวาจัดนิยมความรุนแรงผู้มีสัญชาติออสเตรเลีย

นาย Mike Bush ผู้ว่าการตำรวจนิวซีแลนด์ได้ออกแถลงการณ์ยืนยันว่ามีผู้เสียชีวิตจากเหตุการณ์สังหารณ์หมู่ครั้งที่ใหญ่ที่สุดของประเทศจำนวนทั้งสิ้น 49 คน แยกเป็นเสียชีวิตที่มัสยิด Al Noor 41 คนและที่ Linwood อีก 7 คน โดยมีผู้เสียชีวิตที่โรงพยาบาลอีก 1 คน ในขณะที่มีผู้ได้รับบาดเจ็บนอนรักษาตัวอยู่ตามโรงพยาบาลต่าง ๆ อีก 48 คน

นาย Bush กล่าวว่า ขณะนี้ตำรวจจับกุมผู้ต้องหาหนึ่งคนคือนาย Brenton Tarrant วัย 28 ปีผู้ถือสัญชาติออสเตรเลีย ในขั้นต้นตั้งข้อหาฆ่าคนตายโดยเจตนา เขาจะปรากฎตัวต่อศาลนครไครสต์เชิร์ชในวันพรุ่งนี้ (เสาร์ที่ 16 มีนาคม)

ขณะนี้ตำรวจกำลังเข้าสอบสวนบ้านที่เมือง Dunedin ซึ่งเกี่ยวข้องกับเหตุการณ์ครั้งนี้ เป็นที่เชื่อว่ามีผู้ร่วมก่อการครั้งนี้มีอย่างน้อยสี่คน โดยตำรวจได้จับตัวผู้ต้องหาที่ยังไม่ได้ออกแถลงข่าวเพิ่มขึ้นอีกสามคนเป็นชาย 2 คนและหญิง 1 คน

นาย Tarrant ผู้เกิดในประเทศออสเตรเลียและเพิ่งเดินทางมาประเทศนิวซีแลนด์เป็นการชั่วคราวได้ปฏิบัติการสังหารหมู่ด้วยการติดกล้องไว้ที่ศีรษะเพื่อทำการเผยแพร่สดทางสื่อสังคมออนไลน์

ภาพวิดีโอแสดงให้เห็นว่าเขาขับรถมาที่มัสยิด จากนั้นจึงเดินมาตามทางเข้า แล้วเริ่มยิงเป้าหมายตั้งแต่ทางเข้า จากนั้นจึงเข้าไปกราดยิงผู้คนที่กำลังทำพิธีละหมาดภายในมัสยิด ก่อนที่จะวิ่งออกมายิงผู้คนตามทางเดินเท้า

การก่อเหตุร้ายครั้งนี้เกิดขึ้นที่มัสยิด Masjid Al Noor Mosque ที่ Hagley Park ในเวลา 13.40 น. ตามเวลาท้องถิ่น (11.40 น. ตามเวลาภาคตะวันออกของออสเตรเลีย) และที่ Linwood Masjid ถนน Linwood Ave. ในเวลา 13.50 น.ตามเวลาท้องถิ่น (11.50 น.ตามเวลาออสเตรเลีย)

ภาพจากวิดีโอทำการเผยแพร่สดทางสื่อสังคมออนไลน์ขณะที่นาย Brenton Tarrant บุกเข้าสังหารหมู่ที่มัสยิด Al Noor

นาย Bush กล่าวว่า ตำรวจได้ตระหนักถึงภาพวิดีโอที่ถูกเผยแพร่ออกไปว่าจะก่อให้เกิดพฤติกรรมเลียนแบบ จึงได้พยายามถอนมันออกจากโดเมนสาธารณะ (public domain) และเตือนผู้ที่ดาวน์โหลด์ไว้ก่อนหน้านี้อย่านำไปเผยแพร่ต่อ

ตำรวจยังพบคำแถลง (manifesto) ของนาย Tarrant จำนวน 74 หน้ากระดาษอธิบายถึงเหตุผลที่เขาคิดก่อการสังหารชาวมุสลิมครั้งนี้ โดยมีข้อความตอนหนึ่งกล่าวว่า “ผมเป็นเพียงคนผิวขาวธรรมดาอายุ 28 ปี เกิดในออสเตรเลีย เป็นคนชั้นกรรมชีพ มาจากครอบครัวที่มีรายได้ต่ำ”

และอีกตอนกล่าวว่า “ผมเพิ่งเดินทางมาถึงนิวซีแลนด์เพื่ออาศัยอยู่ชั่วคราว พร้อมใช้เวลาวางแผนและฝึกอบรม”

นาย Tarrant ไม่ได้เขียนว่าเขาดำเนินชีวิตอย่างไรในออสเตรเลีย แต่สำนักข่าวออสเตรเลีย (AAP) ไปสืบมาว่าเขาเติบโตที่เมือง Grafton เมืองชายทะเลทางตะวันออกเฉียงเหนือของรัฐนิวเซาท์เวลส์ไม่ไกลจากชายแดนรัฐควีนสแลนด์

ในขณะที่ดร. Paul G Buchanan อดีตเจ้าหน้าที่วิเคราะห์งานข่าวกรองและนโยบายป้องกันประเทศกล่าวกับสำนักข่าว SBS ว่า เหตุการณ์สังหารหมู่ที่นิวซีแลนด์ถือเป็นคดี “คลาสสิคของกลุ่มขวาจัดหัวรุนแรง เป็นกลุ่มก่อการร้ายขวาจัด”

ดร. Buchanan ยังกล่าวว่าคำแถลงของนาย Tarrant ยังทำให้เขานึกถึงนาย Anders Behring Breivik ผู้ก่อการร้ายเชื้อสายนอร์เวย์ (นายคนนี้เป็นผู้ก่อการร้ายขวาจัดก่อเหตุในปี 2011 ด้วยการวางระเบิดรถแวนในกรุงออสโลมีผู้เสียชีวิต 8 คนและยิงผู้เข้าร่วมกิจกรรมแคมป์ฤดูร้อนของ Workers’ Youth League อันเป็นกลุ่มเยาวชนทำกิจกรรมการเมืองของนอร์เวย์ที่ออกไปทางหัวเอียงซ้ายที่เกาะ Utoya ทำให้มีผู้เสียชีวิต 69 คน)

หลังจากเกิดเหตุนาง Jacinda Ardern นายกรัฐมนตรีของนิวซีแลนด์กำลังอยู่ที่ New Plymouth ในเกาะเหนือได้กล่าวถึงเหตุการณ์นี้ว่า “เป็นวันที่มืดสนิทที่สุดวันหนึ่งของนิวซีแลนด์” และกล่าวถึงการกระทำครั้งนี้ว่า “เป็นการใช้ความรุนแรงที่ไม่เคยปรากฎมาก่อน”

“ประชาชนที่ถูกทำร้ายในวันนี้ นิวซีแลนด์คือบ้านของพวกเขา พวกเขาควรอยู่ที่นี่อย่างปลอดภัย”

นาง Ardern ได้ออกมาแถลงการณ์อีกครั้งในตอนค่ำของวันศุกร์ (15 มี.ค. 2019) ถึงเหตุการณ์ครั้งนี้ว่า “ขณะนี้มันแน่ชัดที่จะบอกได้เพียงว่ามันเป็นการก่อการร้าย” โดยนาง Ardern จะมีกำหนดเดินทางไปนครไครสต์เชิร์ชในวันเสาร์พรุ่งนี้

ข่าวออนไลน์ของนสพ. The Daily Telegraph วันที่ 16 มี.ค. 2019 พาดหัวข่าว “ตำรวจบุกที่อยู่อาศัยที่เกี่ยวข้องกับการฆาตกรรมหมู่ที่มัสยิด”

ในประเทศออสเตรเลีย ประชาชนจำนวนหลายพันคนได้มารวมตัวกันที่สุเหร่าในย่าน Lakemba เขต Canterbury-Bankstown ทางตะวันตกเฉียงใต้ของนครซิดนีย์ที่ได้ชื่อว่าเป็นที่อยู่อาศัยของผู้นับถือศาสนาอิสลามที่หนาแน่นที่สุดแห่งหนึ่งของประเทศเพื่อประกอบพิธีไว้อาลัยให้กับผู้เสียชีวิต

ในขณะที่นาย Scott Morrison นายกรัฐมนตรีและนาย Bill Shorten ผู้นำพรรคฝ่ายค้าน, ผู้นำรัฐบาลรัฐและนักการเมืองคนสำคัญของประเทศได้ออกมาประฌามเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ซึ่งจิงโจ้นิวส์ขอประหยัดเนื้อที่ข่าวโดยไม่ขอเอ่ยถึง

หมายเหตุ ยังมีข่าวต่อ

 

jingjonews.com

jingjonews@hotmail.com (งดใช้ชั่วคราว)

Jingjonews เป็นสื่อออนไลน์มีวัตถุประสงค์เพื่อการเผยแพร่ข่าวสาร, บทความและประชาสัมพันธ์เพื่อชุมชน โดยปลอดจากการโฆษณาในเชิงพาณิชย์



Categories: ข่าวออสเตรเลีย

Tags: , , , , , , , , , , , ,

Leave a Reply

%d bloggers like this: