บังคับผู้อพยพพึ่ง Centrelink ต้องเรียนภาษาอังกฤษให้ได้ใน 18 เดือน

นาย Mark Latham หัวหน้าพรรควันเนชั่นรัฐน.ซ.ว.และผู้ได้รับเลือกเป็นตัวแทนพรรคลงสมัครสมาชิกสภานิติบัญญัติในปีนี้ : ภาพจากเฟสบุ๊ค

10 มี.ค. 2019 ผู้อพยพที่ไม่ผ่านการเรียนภาษาอังกฤษภายใน 1 ปีครึ่งจะสูญเสียเงินสวัสดิการอันเป็นไปตามนโยบายสุดโหด เพื่อแก้ปัญหาผู้อพยพและผู้ลี้ภัยพึ่งเงินโดล์ระยะยาว เนื่องจากไม่สามารถพูดและอ่านภาษาอังกฤษ

(หมายเหตุ ต้องขอเรียนให้ทราบก่อนว่า นโยบายนี้มีโอกาสน้อยมากที่จะเกิดขึ้น เนื่องจากออกโดยพรรควันเนชั่นพรรคขนาดเล็กของนาง Pauline Hanson ที่ไม่มีโอกาสจะเป็นรัฐบาล แต่ก็มีโอกาสถือดุลแห่งอำนาจในสภาสูง จึงอย่าประมาทเพราะนโยบายหลายอย่างของพรรควันเนชั่นได้ถูกนำมาดัดแปลงใช้ โดยเฉพาะเกี่ยวกับนโยบายการเข้าเมืองอย่างเช่นวีซ่าชั่วคราวเพื่อรอการเปลี่ยนสถานภาพหรือ bridging visa ก็เป็นแนวความคิดของพรรคนี้

พรรคพอลลีน แฮนสัน’ วันเนชั่นได้เปิดเผยนโยบายพรรคใหม่ล่าสุดให้ผู้อพยพและผู้ลี้ภัยเข้าประเทศใหม่จะต้องมีพัฒนการทักษะการใช้ภาษาอังกฤษระดับหนึ่ง ถ้าพวกเขายังต้องการพึ่งเงินสวัสดิการว่างงานจาก Centrelink

ผู้ที่ไม่ประสบความสำเร็จในการเรียนภาษาอังกฤษภายใน 18 เดือนจะถูกตัดสิทธิการรับเงินสวัสดิการว่างงานประเภทหางานทำ (Newstart payment)* จำนวน 550 เหรียญ (12,300 บาท) ต่อสองสัปดาห์

(*เงินสวัสดิการ Newstart เป็นเงินสวัสดิการว่างงานที่รัฐให้เพื่อเลี้ยงชีพในอัตราต่ำที่สุด มีวัตถุประสงค์เพื่อบีบให้ผู้ว่างงานที่มีสุขภาพดีเข้าสู่ตลาดแรงงาน)

นาย Mark Latham** หัวหน้าพรรควันเนชั่นรัฐนิวเซาท์เวลส์กล่าวว่า ผู้ไม่ประสบความสำเร็จในการเรียนภาษาอังกฤษภายใน 18 เดือนจะต้องสูญเสียเงินสวัสดิการเพื่อแก้ปัญหาวงล้อมของชาติพันธุ์ (มาจากคำว่า ethnic enclaves หากให้ความหมายผิดต้องขออภัย)

(**นาย Mark Latham วัย 58 ปีคนนี้เคยเป็นหัวหน้าพรรคเลเบอร์ในรัฐสภากลางในระหว่าง 2 ธันวาคม 2003 ถึง 18 มกราคม 2005 เขาย้ายจากพรรคที่มีแนวคิดออกไปทางซ้ายมาร่วมกับพรรควันเนชั่นซึ่งเป็นพรรคขวาตกขอบในเดือนพฤศจิกายนปี 2018 ซึ่งถือว่าไม่บ่อยครั้งที่นักการเมืองออสเตรเลียจะย้ายพรรค แถมยังเป็นอดีตหัวหน้าพรรคใหญ่และผู้นำพรรคฝ่ายค้านอีกด้วย)

นาย Latham กล่าวว่า ผลจากการสำรวจสำมะโนประชากรปี 2016 พบว่า มีผู้พูดภาษาอังกฤษได้เพียงเล็กน้อยหรือพูดไม่ได้เลย 820,000 คน ซึ่งเป็นจำนวนสูงมาก

และเห็นว่าผู้เข้ามาใหม่จะต้องเร่งเรียนภาษาอังกฤษ ไม่เช่นนั้นหลายคนจะเข้าสู่วงจรเดิม ซึ่งเป็นความพิบัติต่อออสเตรเลีย และกล่าวว่าปัญหาผู้อพยพปฏิเสธเรียนภาษาอังกฤษได้ย่ำแย่ลงอย่างต่อเนื่องในช่วงทศวรรษที่ผ่านมา

นาย Latham ผู้คร่ำหวอดกับการลงสมัครเลือกตั้งในพื้นที่ทางตะวันตกเฉียงใต้ของนครซิดนีย์มาเป็นเวลา 11 ปีกล่าวว่า เขาได้เห็นความเปลี่ยนแปลงในซิดนีย์ตะวันตกในช่วง 10 ปีที่ผ่านมา ได้เห็นการเกาะกลุ่มชาติพันธุ์เดียวกันมีทักษะการใช้ภาษาอังกฤษต่ำและส่วนใหญ่พึ่งเงินสวัสดิการว่างงานมาอย่างยาวนาน หลายรายไม่เคยทำงานเลยนับจากเข้ามาอยู่อาศัยในออสเตรเลีย

เขากล่าวว่าเวลา 18 เดือนเพียงพอต่อการฝึกฝนภาษาอังกฤษ ที่จะเป็นใบเบิกทางในการทำงานและการเข้าไปมีส่วนร่วมในชุมชนพหุวัฒนธรรม

แม้นาย Latham จะไม่ได้ให้ความเห็นเชื่อมโยงโดยตรงระหว่างผู้อพยพและผู้ลี้ภัยกับการก่อการร้าย แต่นาย Latham ได้ชี้ให้เห็นว่ากลุ่มแนวความคิดอิสลามหัวรุนแรงมักเป็นกลุ่มที่มีทักษะการใช้ภาษาอังกฤษต่ำและเป็นกลุ่มที่มีอัตราการพึ่งเงินสวัสดิการสูงกว่ากลุ่มเชื้อชาติอื่น

เขากล่าวว่า “ถ้าคุณมองแผนที่แสดงการจับกุมที่เกี่ยวข้องกับการก่อการร้ายในซิดนีย์ตะวันตก จะพบถึงความสัมพันธ์ระหว่างวงล้อมของชาติพันธุ์กับพื้นที่เหล่านั้น”

อย่างไรก็ตามพรรควันเนชั่นอ้างว่าพวกเขาไม่ได้ตั้งเป้าหมายโจมตีมุสลิม และเห็นว่ามุสลิมจำนวนมากเป็นมุสลิมที่ดี อย่างมุสลิมชาวฟิจิเชื้อสายอินเดียเป็นต้น พวกเขาเป็นพลเมืองที่ดีและขยันทำงาน

หมายเหตุ อัตราแลกเปลี่ยนเงินตราระหว่างประเทศในวันที่ 10 มีนาคม 2019 เงิน 1 ดอลลาร์ออสเตรเลียเท่ากับ 70 เซนต์สหรัฐและเท่ากับ 22.38 บาท (ข้อมูลกลางจาก google.com.au ตามเวลา UTC 9.00 น. 10/03/2019)

 

jingjonews.com

jingjonews@hotmail.com (งดใช้ชั่วคราว)

Jingjonews เป็นสื่อออนไลน์มีวัตถุประสงค์เพื่อการเผยแพร่ข่าวสาร, บทความและประชาสัมพันธ์เพื่อชุมชน โดยปลอดจากการโฆษณาในเชิงพาณิชย์



Categories: ข่าวออสเตรเลีย

Tags: , , , , , , , , ,

Leave a Reply

%d bloggers like this: