8 ม.ค. 2019 ทางการไทยได้กล่าวว่า สตรีชาวซาอุดิอาระเบียวัย 18 ปีที่ถูกกักตัวอยู่ในกรุงเทพมหานครและมีความประสงค์จะลี้ภัยในออสเตรเลีย จะไม่ถูกส่งกลับประเทศบ้านเกิดหากเธอไม่เต็มใจ
ตามที่จิงโจ้นิวส์เสนอข่าวน.ส. Rahaf Mohammed al-Qunun วัย 18 ปีได้หลบหนีบิดามารดาในขณะท่องเที่ยวกับครอบครัวอยู่ในประเทศคูเวต (ตามข่าวหัวข้อ “สาวซาอุถูกกักตัวที่สุวรรณภมูิทางการไทยปฏิเสธเดินทางมาขอลี้ภัยในออสเตรเลีย” ลงวันที่ 7 มกราคม 2019) ล่าสุดพล.ต.ท. Surachate Hakparn (สุรเชษฐ์ หักพาล) ผู้บัญชาการสำนักงานตรวจคนเข้าเมืองได้ออกมาให้สัมภาษณ์ว่า จะไม่ส่งเธอกลับซาอุดิอาระเบียหากเธอไม่ยินยอม
พล.ต.ท. Surachate กล่าวในวันจันทร์ที่ 7 มกราคมว่า “ถ้าการส่งเธอกลับจะเป็นผลให้เธอต้องเสียชีวิต แน่นอนเราจะไม่ทำเช่นนั้น” “ถ้าเธอไม่ต้องการไป เราก็จะไม่บังคับเธอ”
และทางฝ่ายไทยได้เปิดทางให้เจ้าหน้าที่จากสำนักงานข้าหลวงใหญ่ผู้ลี้ภัยแห่งสหประชาชาติ (UNHCR) เข้าพบเธอ
เป็นที่เข้าใจว่าน.ส. al-Qunun เป็นบุตรสาวของข้าราชการระดับสูงของประเทศซาอุดิอาระเบีย เธอยังคงถูกกักกันอยู่ภายในโรงแรม Miracle Transit Hotel ที่สนามบินสุวรรณภูมิ
ก่อนหน้านี้นาง Nadthasiri Bergman (ณัฐาศิริ เบิร์กแมน) นักกฎหมายทางด้านสิทธิมนุษยชนได้ยื่นเรื่องคัดค้านการส่งตัวน.ส. al-Qunun กลับแต่ได้ถูกศาลอาญากรุงเทพฯปฏิเสธในวันจันทร์ที่ 7 มกราคม โดยอ้างว่าผู้คัดค้านมีหลักฐานไม่เพียงพอ อย่างไรก็ตามทีมงานของเธอมีแผนที่จะยื่นอุทธรณ์
นาย Phil Robertson รองผู้อำนวยการ Human Rights Watch ภาคพื้นเอเชียกล่าวว่า น.ส. al-Qunun ลำบากแน่หากถูกส่งตัวกลับประเทศซาอุดิอาระเบีย ถ้าเธอไม่เสียชีวิตโดยน้ำมือของบิดาของเธอ (honour killings) เธอก็ยังจะต้องเผชิญต่ออันตรายอย่างร้ายแรงจากทางการซาอุดิอาระเบีย
และกล่าวว่า ประเทศไทยควรอนุญาตให้เธอเดินทางผ่านไปออสเตรเลีย โดยไม่ถูกกักตัวและสอบสวนในประเทศไทย ประเทศที่เธอไม่ได้มีเจตนาที่จะแวะหยุดพักใด ๆ
เขากล่าวว่า “หญิงสาววัย 18 ปีผู้นี้มีสิทธิที่จะเดินทาง และเป็นสิทธิ์ตามสิทธิมนุษยชน ที่ไม่ควรมีสิ่งใดรบกวนการเดินทางของเธอต่อไปยังออสเตรเลีย”
นาย Robertson ได้แสดงหลักฐานให้ผู้สื่อข่าวดูว่าน.ส. al-Qunun ได้รับวีซ่าท่องเที่ยว 3 เดือนจากกระทรวงกิจการภายในประเทศของออสเตรเลียในวันที่ 6 ธันวาคม 2018 เพียงแต่ว่าหนังสือเดินทางตัวจริงถูกเจ้าหน้าที่สถานทูตซาอุติอาระเบียใช้กำลังแย่งชิงไปขณะอยู่ภายในสนามบิน
ทางด้านสำนักงาน UNHCR ออกแถลงการณ์ว่า สำนักงานได้ติดตามความเคลื่อนไหวของน.ส. al-Qunun อย่างใกล้ชิดและได้เจรจากับทางการไทยเพื่อพบกับน.ส. al-Qunun เพื่อประเมินว่าเธอมีความจำเป็นต่อการได้รับความคุ้มครองระหว่างประเทศหรือไม่
jingjonews.com
jingjonews@hotmail.com
จิงโจ้นิวส์เป็นสื่อออนไลน์มีวัตถุประสงค์เพื่อการเผยแพร่ข่าวสาร, บทความและประชาสัมพันธ์เพื่อชุมชน โดยปลอดจากการโฆษณาในเชิงพาณิชย์
Categories: ข่าวออสเตรเลีย
Leave a Reply