11 ธ.ค. 2018 จำนวนชาวจีนที่เดินทางเข้ามาในออสเตรเลียได้ยื่นขอสถานภาพเป็นผู้ขอลี้ภัยได้เพิ่มขึ้นเป็นสามเท่าตัวภายในปีเดียวเท่านั้น
กระทรวงกิจการภายในประเทศได้เปิดเผยข้อมูลแสดงตัวเลขชาวจีนที่เดินทางเข้ามาในออสเตรเลียจำนวน 9,315 คนได้ยื่นขอลี้ภัยในปีการเงิน 2017-18 ถือเป็นยอดเพิ่มขึ้นถึง 311% จากปี 2016-17 ซึ่งมียอดผู้ยื่นขอจำนวน 2,269 คน
สำหรับเหตุผลยอดฮิตในการยื่นขอมีด้วยกันต่าง ๆ นานาเช่นเป็นสมาชิกของกลุ่มที่ทางการจีนต้องการกวาดล้าง, มีบุตรกับผู้ที่ไม่ได้แต่งงานด้วยหรือจะหมายความว่า…บุตรนอกสมรส!! (มาจากคำว่า having a love child หากให้ความหมายผิดต้องขออภัยด้วย) และเป็นบุคคลเภท LGBTQQ (เลสเบี้ยน, เกย์, เสือไบ, บุคคลข้ามเพศ, เควียร์และเพศที่ยังระบุไม่ได้)
นาย Joye Chia ผู้อำนวยการฝ่ายนโยบายของสภาผู้ลี้ภัยแห่งออสเตรเลีย (RCA) กล่าวว่า ชาวจีนผู้ประสบความสำเร็จในการยื่นขอสถานภาพผู้ลี้ภัยหลายคนเป็นผู้เข้ามาออสเตรเลียโดยวีซ่านักเรียนและวีซ่าท่องเที่ยว
เป็นที่เชื่อว่าความสำเร็จของชาวจีนที่ยื่นขอลี้ภัยก่อนหน้านี้ ได้เป็นตัวกระตุ้นให้ชาวจีนคนอื่น ๆ แห่กันยื่นตาม โดยใช้เหตุผลที่คนอื่นใช้ประสบความสำเร็จมาแล้ว
นาง Mary Anne Kenny ผู้ช่วยศาสตราจารย์แห่งคณะนิติศาสตร์มหาวิทยาลัยเมอร์ดอชกล่าวว่า เมื่อชาวต่างชาติเดินทางเข้ามาในประเทศไม่ว่าจะเดินทางเข้ามาภายใต้วีซ่านักเรียนและวีซ่านักท่องเที่ยว หากพวกเขาขอวีซ่าคุ้มครอง พวกเขาก็จะมีสิทธิ์ได้รับวีช่าชั่วคราว (bridging visa วีซ่าที่รัฐบาลออกให้ก่อนที่จะเปลี่ยนสถานะเป็นวีซ่าอื่น ๆ วีซ่านี้มาจากแนวความคิดของนาง Pauline Hanson หัวหน้าพรรควันเนชั่น)
ผศ. Kenny กล่าวว่า “ด้วยชนิดของวีซ่าชั่วคราว (มัน) อาจให้สิทธิผู้ถือในการทำงานและใช้เวลาช่วงหนึ่ง (ในระหว่างขบวนการพิจารณา) ขึ้นอยู่กับกระทรวงจะใช้เวลายาวนานแค่ไหนในการพิจารณาคำขอ”
ณ วันที่ 30 สิงหาคมปีนี้ (2018) มีชาวต่างชาติถือวีซ่าชั่วคราวในออสเตรเลียประมาณ 176,000 คน ได้เพิ่มขึ้นอย่างฮวบฮาบจากยอด ณ วันที่ 30 สิงหาคมปี 2017 ซึ่งมีอยู่ที่ประมาณ 40,000 คน
ทางด้านโฆษกของกระทรวงกิจการภายในประเทศกล่าวว่า ออสเตรเลียถือข้อตกลงในเรื่องภารผูกพันธ์ระหว่างประเทศอย่างจริงจัง
การประเมินสถานภาพของผู้ลี้ภัยจะกระทำอย่างรอบคอบและอย่างมีประสิทธิภาพเป็นรายบุคคลไป
jingjonews.com
jingjonews@hotmail.com
จิงโจ้นิวส์เป็นสื่อออนไลน์มีวัตถุประสงค์เพื่อการเผยแพร่ข่าวสาร, บทความและประชาสัมพันธ์เพื่อชุมชน โดยปลอดจากการโฆษณาในเชิงพาณิชย์
Categories: ข่าวออสเตรเลีย
Leave a Reply