
นาง My Ut Trinh ขณะถูกนำตัวขึ้นรถไปสอบปากคำที่สถานีตำรวจ : ภาพต้นฉบับจากสำนักข่าวออสเตรเลียหรือ AAP ก่อนที่จะกระจายเผยแพร่ตามสื่อต่าง ๆ
13 พ.ย. 2018 ข้อมูลจากการพิจารณาคดีนาง My Ut Trinh วัย 50 ปีจำเลยในคดีลักลอบใส่เข็มในผลสตรอเบอรี่ทำให้ทราบว่า เธอเป็นลูกจ้างของฟาร์มในตำแหน่งซุปเปอร์ไวเซอร์ดูแลลูกจ้างเก็บผลสตอร์เบอรี่
นาง Trinh ทำงานที่ฟาร์ม Berrylicious/Berry Obsession และฟาร์มอื่น ๆ ในเมือง Caboolture รัฐควีนสแลนด์ได้ถูกศาลแขวงนครบริสเบนปฏิเสธการให้ประกันตัวเมื่อวานนี้ที่ 12 พฤศจิกายน
จากสำนวนฟ้องของตำรวจอัยการระบุว่านาง Trinh ได้นำเข็มเย็บผ้าแอบซุกซ่อนในผลสตรอเบอรี่ในเวลาที่ไม่ทราบแน่ชัด แต่อยู่ในระหว่างวันที่ 2 ถึง 5 กันยายน 2018 โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อให้เกิดความเสียหายทางเศรษฐกิจต่อเจ้าของฟาร์ม
มีลูกค้าพบเข็มในผลสตรอเบอรี่ครั้งแรกในวันที่ 9 กันยายน นาง Trinh กลายเป็นบุคคลต้องสนใจของตำรวจมาตั้งแต่วันที่ 11 กันยายน (การสืบสวนในออสเตรเลียตำรวจจะเริ่มจาก “บุคคลต้องสนใจ” ถ้ามีเค้าก็จะกลายเป็น “บุคคลต้องสงสัย” ก่อนที่จะเป็น “ผู้ต้องหา”)
การพิจารณาคดีมีความล้าช้าเล็กน้อยเนื่องจากนาง Trinh ได้ขอล่ามแปลภาษาเวียดนาม ซึ่งหลานสาวของนาง Trinh ได้เข้าทำหน้าที่เป็นล่ามแปลภาษาให้เธอ ในขณะที่ล่ามแปลภาษาเวียดนามของฝ่ายตำรวจได้มาที่ศาลด้วย
นาย Michael Cridland ตัวแทนทางกฎหมายของนาง Trinh ได้ยื่นขอประกันตัว แต่ได้เปลี่ยนใจขอถอนการยื่นขอประกันตัวออกไป หลังจากผู้พิพากษาหญิง Christine Roney แนะนำว่าคำยื่นขอ “เร็วเกินไป” เนื่องจากแรงจูงใจที่อยู่เบื้องหลังการแอบใส่เข็มในสตรอเบอรี่ยังไม่ปรากฎชัด
โดยเธอกล่าวว่า “คดีนี้ยังถูกมองถึงแรงจูงใจของจำเลยมาจากการต่อสู้บางอย่างหรือ(ไม่ก็)การล้างแค้น”
ในขณะที่นายตำรวจอัยการคัดค้านการประกันตัวโดยอ้างว่า การให้ประกันตัวอาจมีความเสี่ยงต่อการคุกคามพยานที่อยู่ภายในชุมชนชาวเวียดนาม และความเสี่ยงต่อการจองเวรจากผู้เสียหายที่อาจมีต่อจำเลย
ทำให้นาง Trinh อดีตผู้ลี้ภัยจากเวียดนามใต้ด้วยการลงเรือเข้ามาในน่านน้ำออสเตรเลียเมื่อกว่าสองทศวรรษที่ผ่านมาจำต้องถูกนำตัวไปฝากขังจนกว่าจะถึงกำหนดมาขึ้นศาลครั้งต่อไปในวันที่ 22 พฤศจิกายน
นาย Jon Wacker ผู้บังคับการตำรวจนักสืบจากกลุ่มงานยาเสพติดและอาชญากรรมร้ายแรง (DSCG) ของสำนักงานตำรวจรัฐควีนสแลนด์กล่าวว่า ตำรวจได้เริ่มทำการสอบสวนในเดือนกันยายนเมื่อมีการพบเข็มเย็บผ้าในผลสตรอเบอรี่เป็นครั้งแรก ก่อนที่จะเกิดพฤติกรรมเลียนแบบทั่วประเทศต่อไปอีก 230 เหตุการณ์ ส่งผลกระทบต่อสตรอเบอรี่ 68 ยี่ห้อ โดย 49 ยี่ห้อและ 77 เหตุการณ์เกิดขึ้นในรัฐควีนสแลนด์
เขากล่าวว่าการสอบสวนยังไม่จบสิ้น ถ้านาง Trinh หรือ Judy ถูกศาลตัดสินมีความผิดเธอจะเผชิญโทษจำคุกถึง 10 ปี
มีรายงานข่าวว่านาง Trinh มีความเจ็บแค้นนายจ้างเจ้าของฟาร์ม Berrylicious/Berry Obsession ถึงกับบอกคนบางคนว่าเธอ “ต้องการทำให้พวกมันล่มจม” และ “ทำให้พวกมันออกไปจากธุรกิจ”
ในวันที่มีการพบเข็มซุกซ่อนอยู่ในผลสตรอเบอรี่บรรจุกล่องของฟาร์ม Berrylicious/Berry Obsession ที่ซื้อจากซูเปอร์มาร์เก็ต Woolworths ในเมือง Geelong รัฐวิกตอเรีย (จิงโจ้นิวส์ไปค้นข่าวเก่าพบว่าเป็นวันที่ 13 กันยายน) ก่อนที่จะมีรายงานข่าวออกมานาง Trinh ได้พูดกับแรงงานเก็บผลสตรอเบอรี่ในความดูแลว่าฟาร์มแห่งนี้จะไม่ต้องการพวกเขาอีกต่อไป(ในเร็ว ๆ นี้)
แต่หลักฐานที่สามารถมัดนาง Trinh จนนำไปสู่การจับกุมก็คือ DNA ที่เก็บได้จากเข็มในผลสตรอเบอรี่ที่พบในตอนแรก ๆ ตรงกับ DNA ของนาง Trinh
วิกฤตการณ์สตรอเบอรี่ถูกเข็มและของมีคมเจือปนได้กดดันให้นาย Scott Morrison นายกรัฐมนตรีออกมาประกาศแก้ไขกฎหมายเพิ่มโทษจำคุกแก่ผู้เจอปนอาหารจากเดิมสูงสุดไม่เกิน 10 ปีเป็น 15 ปี
หมายเหตุ ท่านสามารถอ่านข่าวที่เกี่ยวเนื่องกับวิกฤติการผลไม้สตรอเบอรี่ได้ด้วยการกดคลิก “วิกฤติการณ์เข็มในผลไม้” ที่ Tags ท้ายข่าวนี้
jingjonews.com
jingjonews@hotmail.com
จิงโจ้นิวส์เป็นสื่อออนไลน์มีวัตถุประสงค์เพื่อการเผยแพร่ข่าวสาร, บทความและประชาสัมพันธ์เพื่อชุมชน โดยปลอดจากการโฆษณาในเชิงพาณิชย์
Categories: ข่าวออสเตรเลีย
Leave a Reply