3 พ.ย. 2018 สำนักงานสถิติแห่งออสเตรเลีย (ABS) ได้รายงานถึงยอดการใช้จ่ายการสินค้าปลีกของชาวออสเตรเลียในเดือนกันยายนเพิ่มขึ้นเพียง 0.2% เท่านั้น ต่ำกว่าที่คาดคิด โดยมีภาคอาหารชำ, คาเฟ่, ร้านอาหารและเทคอะเวย์เป็นตัวฉุดไม่ให้ยอดตกลงไปมากกว่านี้
รายงานที่ออกมาในวันศุกร์ที่ 2 พฤศจิกายน หลังจากปรับตามฤดูกาลยอดรายจ่ายสินค้าและบริการปลีกในเดือนกันยายนอยู่ที่ 26.89 พันล้านเหรียญ สูงกว่าเดือนสิงหาคมซึ่งอยู่ที่ 26.87 พันล้านเหรียญแค่ 20 ล้านเหรียญ
ก่อนหน้านี้สำนัก ABS คาดว่าอัตราการจับจ่ายสินค้าและบริการปลีกในเดือนกันยายนจะเพิ่มขึ้นที่ 0.3% หรือต่ำกว่าคาดหมาย 0.1% ส่งผลให้ค่าเงินดอลล่าร์ออสเตรเลียไม่เคลื่อนไหวใด ๆ คงอยู่ที่ 72.08 เซนต์สหรัฐ
(ข้อมูลด้านบนเอามาจากสำนักข่าว SBS เขารายงานห้วน ๆ เพียงเท่านี้ ส่วนสื่อฯอื่นที่เสนอข่าวนี้จิงโจ้นิวส์ใช้บริการอ่านฟรีเต็มโควต้าแล้วเขาเลยไม่ให้เข้าไปดู)
อย่างไรก็ตามก่อนหน้านี้หนึ่งวันในวันพฤหัสฯที่ 1 พฤศจิกายนสำนักงานสถิติแห่งชาติได้รายงานถึงยอดดุลการค้าเดือนกันยายนออกมาเกินดุลถึง 29% ด้วยการเกินดุล 3.017 พันล้านเหรียญ ตัวช่วยในการส่งออกก็คือการเพิ่มขึ้นของราคาสินแร่เหล็ก, แร่ต่าง ๆ และเชื้อเพลิง
โดยรวมแล้วการส่งออกสินค้าและบริการในเดือนกันยายนเพิ่มสูงขึ้น 283 ล้านเหรียญ มาอยู่ที่ 37.496 พันล้านเหรียญ
ผลของมันทำค่าเงินดอลล่าร์ออสเตรเลียทะยานขึ้นจาก 70.90 เซนต์สหรัฐมาเป็น 71.12 เซนต์สหรัฐในเวลา 12.20 น.ตามเวลาทางภาคตะวันออกของออสเตรเลียก่อนที่จะทยานผ่านจุด 72 เซนต์สหรัฐ
นักเศรษฐศาสตร์กล่าวว่า ยอดการนำเข้าสินค้าในเดือนกันยายนลดลง 1.0% ได้มีส่วนในการเกินดุลของเดือนกันยายนเพิ่มสูงขึ้น
โดยยอดนำเข้าได้ลดลง 392 ล้านเหรียญหรือ 1% มาอยู่ที่ 34.479 พันล้านเหรียญ มาจากการนำเข้าเครื่องจักร, อุปทานทางอุสาหกรรมและฟาร์มเกษตรลดลงนั่นเอง
หมายเหตุ อัตราแลกเปลี่ยนเงินตราระหว่างประเทศในวันที่ 3 พฤศจิกายน 2018 เงิน 1 ดอลลาร์ออสเตรเลียเท่ากับ 72 เซนต์สหรัฐและเท่ากับ 23.68 บาท
jingjonews.com
jingjonews@hotmail.com
จิงโจ้นิวส์เป็นสื่อออนไลน์มีวัตถุประสงค์เพื่อการเผยแพร่ข่าวสาร, บทความและประชาสัมพันธ์เพื่อชุมชน โดยปลอดจากการโฆษณาในเชิงพาณิชย์
Categories: ข่าวออสเตรเลีย
Leave a Reply