กฎใหม่ผู้ขับรถในรัฐน.ซ.ว.ผ่าน สัญญาณไฟฉุกเฉินต้องชะลอความเร็ว 40 กม.ต่อชม.

ขับรถผ่านรถบรรเทาเหตุฉุกเฉินจอดข้างทางให้สัญญาณแดง-น้ำเงินจะต้องชะลอความเร็วเหลือ 40 กม.ต่อชม. : ภาพประชาสัมพันธ์จาก NSW Government

30 ส.ค. 2018 กฎจราจรใหม่ในรัฐนิวเซาท์เวลส์ที่จะมีผลตั้งแต่วันเสาร์ที่ 1 กันยายนเป็นต้นไป มีวัตถุประสงค์เพื่อป้องกันเจ้าหน้าที่บริการเหตุฉุกเฉินในขณะที่พวกเขาจอดรถข้างทางเพื่อให้ความช่วยเหลือผู้ประสบเหตุ

ผู้ที่ขับรถผ่านรถบริการเหตุฉุกเฉินที่รวมถึงรถตำรวจ, รถดับเพลิง, รถบรรเทาสาธารณภัยและรถพยาบาลจอดข้างทางพร้อมแสดงสัญญาณไฟกระพริบสีแดงและน้ำเงินจะต้องชะลอความเร็วลงเหลือ 40 กม.ต่อชม.และเตรียมพร้อมที่จะเบรคได้ทันทีหากมีสิ่งใด ๆ ก้าวออกมาตัดหน้ารถ

ผู้ที่ฝ่าฝืนกฎไม่ปฏิบัติตามจะถูกปรับเป็นเงิน 448 เหรียญ (10,700 บาท*) และตัดคะแนนสะสม 3 คะแนน (ค่าปรับเปลี่ยนแปลงจากที่จิงโจ้นิวส์เคยเสนอข่าวไปแล้วในวันที่ 8 เมษายน 2018 ที่ระบุค่าปรับ 439 เหรียญ)

กฎนี้ยังบังคับใช้กับรถยนต์ที่วิ่งมาจากเส้นทางตรงกันข้าม ยกเว้นแต่จะเป็นทางหลวงที่มีเกาะกลางถนน

นาย Bernard Carlon ผู้อำนวยการศูนย์ความปลอดภัยบนท้องถนนรัฐน.ซ.ว. (NCRS) กล่าวว่า กฎหมายใหม่จะเพิ่มการคุ้มกันพิเศษแก่เจ้าหน้าที่ระงับเหตุฉุกเฉินและอาสาสมัครทุกฝ่ายที่มีส่วนในเหตุการณ์รถชนและอุบัติเหตุอื่น ๆ ที่เกิดเหตุบนท้องถนน

เขากล่าวว่า เมื่อผู้ขับรถผ่านมาพบรถบริการเหตุฉุกเฉินจอดอยู่ข้างทางและเปิดสัญญาณไฟกระพริบ ผู้ขับรถจะต้องชะลอความเร็วลงเหลือ 40 กม.ต่อชม.และรักษาระดับความเร็วนี้ไปจนกว่าจะผ่านจุดนั้นไป

กฎนี้จะถูกนำมาปฏิบัติใช้ทั่วรัฐน.ซ.ว.เป็นเวลา 12 เดือน ก่อนที่ทางการจะตัดสินใจออกเป็นกฎหมายบังคับใช้อย่างถาวร

ขณะนี้รัฐวิกตอเรีย, รัฐเวสเทิร์นออสเตรเลียและรัฐเซาท์ออสเตรเลียได้นำกฏระเบียบที่คล้ายคลึงกันมาใช้เรียบร้อยแล้ว โดยรัฐเซาท์ออสเตรเลียมีความแตกต่างจากรัฐอื่นด้วยการกำหนดความเร็วที่ 25 กม.ต่อชม.

ในขณะที่รัฐบาลรัฐควีนสแลนด์ปฏิเสธที่จะนำกฎหมายดังกล่าวมาบังคับใช้

หมายเหตุ *อัตราแลกเปลี่ยนเงินตราระหว่างประเทศในวันที่ 30 สิงหาคม 2018 เงิน 1 ดอลลาร์ออสเตรเลียเท่ากับ 73 เซนต์สหรัฐและ 23.81 บาท

 

jingjonews.com

jingjonews@hotmail.com

จิงโจ้นิวส์เป็นสื่อออนไลน์มีวัตถุประสงค์เพื่อการเผยแพร่ข่าวสาร, บทความและประชาสัมพันธ์เพื่อชุมชน   โดยปลอดจากการโฆษณาในเชิงพาณิชย์



Categories: ข่าวออสเตรเลีย

Tags: , , , , , , , , , , ,

Leave a Reply

%d bloggers like this: