60 ร้านค้าฟ้องรัฐบาลน.ซ.ว. โครงการ “รถรางเบาชาติหน้า” ทำธุรกิจป่นปี้

ข่าวออนไลน์ของสำนักข่าว ABC พาดหัวข่าว “ตำนานโครงการรถรางเบายังมีต่อ เมื่อธุรกิจ 60 แห่งฟ้องรัฐบาลน.ซ.ว.” ในภาพเป็นร้านค้า 1 ใน 20 ร้านค้าของย่าน Surry Hills จำต้องปิดตัวลงเพราะการก่อสร้างทำให้ลูกค้าไม่เข้าร้าน

29 ส.ค. 2018 ธุรกิจกว่า 60 แห่งได้ร่วมกันฟ้องร้องเรียกค่าเสียหายเป็นเงินกว่า 40 ล้านเหรียญ (956 ล้านบาท) เป็นค่าธุรกิจหยุดชะงักจากโครงการก่อสร้างรถรางเบาผ่านใจกลางนครซิดนีย์หรือที่เรียกกันว่า “โครงการชาติหน้าเสร็จ”

โครงการรถรางเบาจากใจกลางนครซิดนีย์ไปยังพื้นที่ทางภาคตะวันออกของซิดนีย์ได้เริ่มก่อสร้างมาตั้งแต่ปี 2015 และเป็นปีแรกที่มีการปิดถนน George St. ซึ่งเป็นถนนสายหลักผ่าใจกลางนครซิดนีย์เพื่อการก่อสร้างมานับตั้งแต่ปีนั้น

เจ้าของธุรกิจอ้างว่าการบริหารงานโครงการที่ผิดพลาดของรัฐบาลรัฐนิวเซาท์เวลส์เป็นผลให้ธุรกิจของพวกเขาได้รับความเสียหาย, มีคนตกงาน ทำให้หลายครอบครัวต้องประสบปัญหา บางคนถึงกับต้องสูญเสียบ้านที่จำนองไว้กับธนาคาร

กลุ่มผู้เสียหายได้ร่วมกันยื่นฟ้องต่อศาลฎีการัฐน.ซ.ว.เมื่อวันอังคารที่ 28 สิงหาคมที่ผ่านมา ซึ่งศาลประทับรับฟ้องเป็นที่เรียบร้อย

นาย Rick Mitry ตัวแทนทางกฎหมายของกลุ่มผู้ยื่นฟ้องกล่าวว่า เขาได้พบเจ้าของธุรกิจหลายรายประสบปัญหาธุรกิจต้องติดขัด ธุรกิจถูกทำลาย หลายคนอยู่ในสภาพได้รับความกดดันทางจิตใจ

พวกเขาได้รับการบอกกล่าวว่า การก่อสร้างทางผ่านหน้าร้านของพวกเขาจะใช้เวลาเพียง 6 ถึง 9 เดือน แต่เอาเข้าจริงปาเข้าไป 3 ปีแล้ว และจะยืดเยื้อไปอีกเป็นปี (โครงการชาติหน้าจริง ๆ)

นาง Angela Vithoulkas หนึ่งในผู้ร่วมฟ้องและเจ้าของร้านคาเฟ่ที่ถนน George St. กล่าวว่าเธอเพิ่งปิดร้าน Vivo Cafe ของเธอหลังจากเปิดดำเนินกิจการมากว่า 30 ปี เนื่องจากไม่มีรายได้มาจ่ายค่าเช่าและค่าแรงงานได้อีกต่อไป

เธอกล่าวว่า เธอและเพื่อนนักธุรกิจร้านค้าถนน George St. ได้เจรจากับรัฐบาลรัฐน.ซ.ว.และรัฐมนตรีการขนส่งถึงปัญหาที่ผู้ทำธุรกิจได้รับผลกระทบจากโครงการก่อสร้าง แต่ปัญหาก็ไม่ได้รับการแก้ไขเท่ามีควร

ภาพข่าวออนไลน์จากสำนักข่าว SBS ระบุโครงการรถรางเบาจะล่าช้าออกไปอีกถึงปี 2020 ในภาพเป็นการปิดถนน George St. ถนนสายหลักที่ผ่านใจกลางนครซิดนีย์ ปิดมาเกือบสามปีแล้ว

นาง Sophie Hunt เจ้าของร้านเครื่องหนัง Hunt Leather ที่ศูนย์การค้า Stand Arcade กล่าวว่า เมื่อแรกเริ่มโครงการรถรางเบา เธอรู้สึกตื่นเต้นกับมัน

แต่ตลอดเวลา 2 ปีครึ่งที่ถนนถูกปิดกั้น เสียงเครื่องเจาะดังลั่นตลอดเวลา, พนักงานต่างป่วยด้วยอาการปวดหัวไมเกรน, เลือดกำเดาไหลและมีอาการหืดหอบ…. ในขณะที่เธอประสบปัญหาไม่มีลูกค้าเข้าร้านมาเป็นเวลาเกือบสามปี

นาง Hunt กล่าวว่าเงินช่วยเหลือค่าเช่าที่รัฐบาลให้ไม่เพียงพอต่อการสูญเสียรายได้ที่มากกว่าหลายพันเท่า

ซึ่งขณะนี้เธอจำต้องปลดพนักงานออกไปส่วนหนึ่ง และต้องใช้หลักทรัพย์เดิมกู้เงินเพิ่มเติมเพื่อแก้ปัญหาสภาพคล่อง

สภาพจิตใจของเธอย่ำแย่มาก เธอนอนไม่หลับ เพราะเธอได้ใช้เงินสำรองและสินทรัพย์ทั้งหมดไปกับธุรกิจ ขณะนี้ได้แต่หวังว่าเธอจะไม่สูญเสียบ้านไปกับความผิดพลาดของรัฐบาล

ทางด้านนาย Andrew Constance รัฐมนตรีการขนส่งของรัฐบาลรัฐน.ซ.ว.ผู้รับผิดชอบโครงการกลาวว่า ขณะนี้เขายังไม่เห็นเอกสารจากศาล และกล่าวว่าเขารู้สึกเสียใจที่ถูกฟ้องร้อง

และกล่าวว่าตลอดเวลารัฐบาลได้เปิดกว้างสำหรับการให้เงินช่วยเหลือค่าเช่า ถึงตอนนี้ได้จ่ายเงินช่วยเหลือไปแล้วกว่า 9 ล้านเหรียญ (215 ล้านบาท)

โครงการรถรางเบาจากใจกลางนครซิดนีย์ไปยังย่าน Randwick และ Kingsford ควรเสร็จเรียบร้อยไปแล้วตามเป้าหมายเดิม แต่ได้เลื่อนกำหนดเวลาเปิดบริการมาในปี 2019 แต่ล่าสุดได้ขอขยายเวลาเสร็จออกไปอีกในเดือนมีนาคมปี 2020

หมายเหตุ อัตราแลกเปลี่ยนเงินตราระหว่างประเทศในวันที่ 29 สิงหาคม 2018 เงิน 1 ดอลลาร์ออสเตรเลียเท่ากับ 73 เซนต์สหรัฐและ 23.89 บาท

 

jingjonews.com

jingjonews@hotmail.com

จิงโจ้นิวส์เป็นสื่อออนไลน์มีวัตถุประสงค์เพื่อการเผยแพร่ข่าวสาร, บทความและประชาสัมพันธ์เพื่อชุมชน   โดยปลอดจากการโฆษณาในเชิงพาณิชย์



Categories: ข่าวออสเตรเลีย

Tags: , , , , , , , , , ,

Leave a Reply

%d bloggers like this: