แก๊งสแกมเมอร์เล่นไม่ยาก ให้เหยื่อร่วมสร้างฉากถูกลักพาขู่เงินพ่อแม่

เหยื่อถูกบอกให้เอามือไขว้หลังแล้วถ่ายภาพเหมือนถูกลักพาตัว ภาพนี้ถูกปิดบังใบหน้าด้วยวงกลมสีดำ : ภาพจากสำนักงานตำรวจรัฐวิกตอเรีย

6 มิ.ย. 2018 เรื่องราวของแก๊งสแกมเมอร์จัดฉากจับนักศึกษาจีนเรียกค่าไถ่ ได้เป็นข่าวต่อเนื่องแทบทุกวัน จิงโจ้นิวส์ขอนำเสนอรายงานข่าวล่าสุด เริ่มจากเด็กนักเรียนโรงเรียนมัธยมเอกชนวัย 18 ปีหายไม่กลับบ้านพักในนครเมลเบิร์น ตามด้วยบิดามารดาในประเทศจีนได้รับภาพของเธอถูกมัดมือมัดเท้าเพื่อเรียกค่าไถ่

รายงานข่าวนี้มาจากนสพ. The Age เป็นหลักเนื้อหาระบุว่าผู้ทำการลักพาตัวเธอต้องการเงินค่าไถ่ 100,000 เหรียญเพื่อแลกกับการปล่อยตัวเธออย่างปลอดภัย ซึ่งบิดามารดาในประเทศจีนยอมโอนเงินเข้าในบัญชีธนาคารในประเทศจีน

ในเวลาเดียวกันเพื่อนของเธอคนหนึ่งได้เข้าแจ้งความกับตำรวจรัฐวิกตอเรีย หลังจากพบว่าเธอหายไป การสอบสวนคดีคนหายได้ปรับเปลี่ยนมาเป็นคดีลักพาตัวทันทีหลังจากตำรวจได้พูดคุยกับบิดามารดาของนักเรียนหญิงวัย 18 ปี พร้อมส่งภาพที่แก๊งคนร้ายนำมาใช้ในการข่มขู่

ต่อมาตำรวจได้พบนักเรียนหญิงที่โรงแรมแห่งหนึ่งทางตะวันออกของเมลเบิร์น เธออยู่ตามลำพังในโรงแรม ขณะกำลังนั่งดูทีวีอยู่บนเตียงอย่างไม่วิตกทุกข์ร้อนใด ๆ

ตำรวจพบว่าเธอเป็นเหยื่อของการสแกมทำการข่มขู่ให้เธอร่วมมือกับแก๊งอาชญากรต่างประเทศ ซึ่งเชื่อมโยงกับคอลเซ็นเตอร์ในต่างประเทศ ด้วยการร่วมแสดงเป็นผู้ถูกลักพาตัว เพื่อหลอกเรียกค่าไถ่ตัวจากผู้ปกครองที่อยู่ในประเทศจีน ในขณะที่นักเรียนหญิงก็จะพ้นจากข้อกล่าวหาที่แก๊งอาชญากรอุปโลกน์ขึ้นมา

IDCARE ซึ่งเป็นหน่วยงานสนับสนุนด้านความมั่นคงทางไซเบอร์แห่งชาติกล่าวว่าหน่วยงานของตนได้รับโทรศัพท์ขอความช่วยเหลือกว่า 700 รายนับตั้งแต่เดือนตุลาคมปีที่ผ่านมา

ในนครเมลเบิร์นนับจากเดือนธันวาคมปี 2017 มีเหยื่อสแกมอย่างน้อย 32 รายที่ตำรวจรับทราบ ในจำนวนนี้ 22 รายได้จ่ายเงินตามคำข่มขู่เป็นจำนวนรวมกันทั้งสิ้นประมาณ 3 ล้านเหรียญ นักเรียนนักศึกษาที่ถูกข่มขู่ส่วนใหญ่ถูกขู่ว่าจะถูกเนรเทศหรือถูกดำเนินคดีอาญาร้ายแรงถ้าไม่ยอมจ่ายเงิน

หยื่อสาวเอาเทปใสพันขาตัวเองเพื่อถ่ายภาพสแกมเรียกค่าไถ่ : ภาพจากสำนักงานตำรวจรัฐวิกตอเรีย

เหยื่ออีกรายเป็นนักศึกษาชายถูกแจ้งว่าบัตรเครดิตของเขาเป็นหนี้ 400,000 เหรียญและเขาถูกพบมีความเกี่ยวข้องกับแก๊งอาชญากรชาวจีน ผู้ที่โทรเข้ามาอ้างเป็นตำรวจจากทบวงตำรวจสาธารณรัฐประชาชนจีนแจ้งให้ทราบว่าเขาจำเป็นต้องเปลี่ยนโทรศัพท์ใหม่เพราะมือถือที่ใช้ปัจจุบันไม่ปลอดภัย

จากนั้นตำรวจเก๊รายนี้ได้บอกให้นักศึกษาไปเข้าพักที่โรงแรมแห่งหนึ่งในย่าน Frankston เขต City of Frankston ห่างจากเมลเบิร์น CBD ไปทางตะวันออกเฉียงใต้ 55 กม. หลังจากทราบว่าเหยื่อไม่มีเงิน จำเป็นต้องถ่ายภาพทำเหมือนถูกแก๊งคนร้ายจับตัวไปเรียกค่าไถ่ เพื่อไปตกทรัพย์เอากับบิดามารดาในประเทศจีน

แผนของแก๊งคนร้ายต้องล้มเหลว เพราะนักศึกษารายนี้ไม่เล่นตามกฎที่ถูกวางไว้ เขาได้โทรศัพท์ติดต่อไปยังบิดา จึงทราบว่าตกเป็นเหยื่อของกลุ่มสแกมเมอร์ เขาจึงตัดสินใจรีบแจ้งตำรวจ

ภาพเดียวกับภาพแรก แต่ถ่ายในแนวตั้ง : ภาพจากสำนักงานตำรวจรัฐวิกตอเรีย

นาย Henry Foo นักศึกษาชาวจีนผู้สำเร็จการศึกษาด้านเทคโนโลยีสารสนเทศ (IT) ขณะนี้อาศัยอยู่ในนครเมลเบิร์นกล่าวว่า เมื่อวันพฤหัสฯที่ 30 พฤษภาคมผ่านมาเขาได้รับโทรศัพท์จากชายคนหนึ่งอ้างว่าเป็นเจ้าหน้าที่สถานทูตจีนในกรุงแคนเบอร์รา แจ้งว่ามีพัสดุไปรษณีย์ในชื่อของเขาถูกยึดไว้เนื่องจากภายในมีบัตรเครดิตปลอม 70 ฉบับ

ขณะนี้เรื่องดังกล่าวได้ถูกส่งไปที่ทบวงตำรวจสาธารณรัฐประชาชนจีน ซึ่งกำลังรวบรวมข้อมูลของเขา รวมถึงหนังสือเดินทางและการเตรียมออกหมายจับ

นาย Foo กล่าวว่า “พวกเขาได้พูดย้ำว่า ถ้าผมไม่ร่วมมือกับพวกเขา พวกเขาจะส่งผมกลับไปกรุงปักกิ่ง ที่ซึ่งผมจะถูกขังยาว (ในระหว่างสอบสวน)”

บัณฑิต IT รายนี้กล่าวว่า พวกเขาได้พูดหวาดล้อมจนเขาคิดว่าเป็นเรื่องจริง ทำให้เขารู้สึกหวาดกลัวเมื่อนึกถึงคุกที่รออยู่ พวกเขายังสั่งไม่ให้บอกใคร แม้กระทั่งบิดามารดาของเขาเอง

เพื่อหลีกเลี่ยงไม่ให้เขาตกเป็นผู้ต้องหา เจ้าหน้าที่สถานทูตเก๊รายนี้ได้ขอให้เขาโอนเงินเข้าบัญชีเป็นเงินหยวนจำนวน 100,000 เหรียญ แต่เขาไม่มีเงิน เจ้าหน้าที่สถานทูตเก๊จึงขอให้เขาไปหยิบยืมเงินจากเพื่อนหรือจากลุงของเขาแทน การเจรจาต่อรองกินเวลายืดยาว จนสแกมเมอร์เริ่มมีอารมณ์ฉุนกล่าวทิ้งท้ายหากเทียบเป็นคำพูดไทยก็ใกล้เคียงกับ “อ้ายสาาาดมึงทำให้กูเสียเวลา” ก่อนที่พวกเขาบอกให้รู้ว่าเป็นการสแกม แล้วยุติการติดต่อ

อีกภาพหนึ่งของนักเรียนวัย 18 ปี ถูกหลอกให้แสดงเป็นผู้ถูกลักพาตัวเรียกค่าไถ่ : ภาพจากสำนักงานตำรวจรัฐวิกตอเรีย

ตำรวจรัฐวิกตอเรียเชื่อว่าแก๊งอาชญากรแก๊งเหล่านี้น่าจะใช้คอลเซนเตอร์จากประเทศจีนหรือไต้หวันในการสแกม โดยเลือกเหยื่อที่มาจากครอบครัวที่ร่ำรวย

ผู้ทำการโทรศัพท์ติดต่อจะนั่งอยู่ในห้องพร้อมสคลิปที่จะให้พูด ด้วยการอ้างว่าเป็นการโทรศัพท์มาจากสถานทูตจีน, หรือจากตำรวจจีน และจากพนักงานอัยการ ซึ่งเป็นการติดต่อโดยใช้ภาษาจีนกลางทั้งสิ้น

นาย David Laccy แห่ง IDCARE กล่าวว่าวิธีสแกมที่คล้ายกันนี้เคยถูกนำมาใช้ในสิงคโปร์ในช่วงปี 2016-17 ขณะนี้ได้ถูกนำมาใช้ในออสเตรเลียและนิวซีแลนด์ ซึ่งการโทรส่วนใหญ่จะเริ่มด้วยข้อความบันทึกไว้ล่วงหน้าที่ขอให้เหยื่อกดหมายเลขเพื่อให้การสื่อสารคงดำเนินต่อไป

การปราบปรามแก๊งอาชญากรเป็นสิ่งที่กระทำได้ยาก เนื่องจากคนร้ายปฏิบัติการอยู่ในต่างประเทศ

พวกเขามีจิตวิทยาให้การทำให้คนเกิดวิตกกังวล พวกเขาสามารถสร้างความรู้สึกหวาดกลัว จนเหยื่อรู้สึกว่าไม่มีทางเลือกอื่น นอกจากยอมทำตาม

นาย Laccy กล่าวว่า วิธีชนะแก๊งสแกมเมอร์ก็คืออย่าตอบสนองพวกเขาและอย่ากลัวพวกเขา

 

jingjonews.com

jingjonews@hotmail.com

จิงโจ้นิวส์เป็นสื่อออนไลน์มีวัตถุประสงค์เพื่อการเผยแพร่ข่าวสาร, บทความและประชาสัมพันธ์เพื่อชุมชน   โดยปลอดจากการโฆษณาในเชิงพาณิชย์



Categories: ข่าวออสเตรเลีย

Tags: , , , , , , , , , , , ,

Leave a Reply

Discover more from jingjonews

Subscribe now to keep reading and get access to the full archive.

Continue reading