28 เม.ย. 2018 ศึกซูเปอร์มาร์เก็ตยังไม่จบเมื่อ Aldi ขวัญใจคนจนเดินแผนที่จะทลายกำแพงของ Coles และ Woolworths ด้วยการดึงลูกค้าที่มีฐานะมาเข้าซูเปอร์มาเก็ตของตน ทำให้สองค่ายยักษ์ใหญ่ยังต้องลดราคาเพื่อรักษาส่วนแบ่งของตลาดต่อไป
ข้อความข้างบนเป็นไปตามความเห็นของ Moody สำนักจัดอันดับระดับโลกทำนายว่า Aldi และกลุ่มเครือข่ายร้านขายสินค้าราคาถูก Lodl จากเยอรมนีจะเป็นกลุ่มที่ทำรายได้เพิ่มขึ้นสูงที่สุดมากว่าซุเปอร์มาร์เก็ตอื่น ๆ ทั่วโลก
Moody ทำนายว่า Aldi จะเติบโตอย่างมั่นคงโดยเฉพาะในออสเตรเลีย ที่ซึ่ง Aldi มีส่วนแบ่งของตลาดตามที่ Moody คาดหมายไว้คือ 12% พร้อมการทุ่มเงินลงทุนอย่างหนักหน่วง (สำนัก Morgan Stanley ซึ่งทำการวิเคราะห์ออกมาในช่วงใกล้เคียงกันระบุ Aldi มีส่วนแบ่งของตลาดในขณะนี้ 8% ซึ่งถือเป็นตัวเลขที่ต่างกันมาก)
Aldi เปิดสาขาแรกที่ย่าน Marrickville เขต Inner West นครซิดนีย์ในปี 2001 ถึงขณะนี้ได้ขยายเครือข่ายไปแล้ว 508 สาขา ส่วนใหญ่จะกระจุกตัวอยู่ตามนครหลวงทางฝั่งตะวันออกของประเทศ พร้อมกับมีแผนเปิดสาขาอีกอย่างน้อย 32 แห่งในปีนี้
ทางด้าน Woolworths และ Coles สามารถเพิ่มส่วนแบ่งตลาดในปีที่ผ่านมา และดูท่าปีนี้จะผ่อนคลายการแข่งขันระหว่างกันลง (เริ่มจากการลดราคาไก่ย่าง จากข่าว “กูรูชี้ ‘จุดเปลี่ยนแปลงตามอุตสหกรรม’ Coles-Woolies ขึ้นราคาไก่ย่าง $1” ลงวันที่ 1 เมษายน 2018) แต่ Moody เชื่อว่าห้างขนาดยักษ์ทั้งสองยังคงจะต้องลดราคาต่อไปเพื่อหยุดลูกค้าของตนเปลี่ยนไปเป็นลูกค้าของ Aldi ซึ่งจะส่งผลโดยตรงต่อยอดขายและต่อกำไรของพวกเขา
โดยประเพณีแล้ว Aldi ใช้กลยุทธกำหนดราคาสินค้าต่ำเพื่อดึงดูดลูกค้าระดับล่าง แต่ Moody เห็นว่าการเจาะตลาดที่พัฒนาแล้วอย่างออสเตรเลีย Aldi จำเป็นที่จะต้องเข้าถึงลูกค้ากลุ่มที่มีกำลังซื้อสูงขึ้นไปอีกด้วย
ดังจะเห็นได้จาก Aldi เริ่มเพิ่มชนิดสินค้ามีคุณภาพ, เพิ่มความสดและเพิ่มสินค้าเกษตรอินทรีย์มากขึ้นเพื่อดึงดูดลูกค้ารายได้ระดับกลาง โดยได้อนิสงค์จากอัตรารายได้เพิ่มขึ้นของพวกเขาไม่สูงเท่าที่ควรติดต่อกันมาหลายปี
jingjonews.com
jingjonews@hotmail.com
จิงโจ้นิวส์เป็นสื่อออนไลน์มีวัตถุประสงค์เพื่อการเผยแพร่ข่าวสาร, บทความและประชาสัมพันธ์เพื่อชุมชน โดยปลอดจากการโฆษณาในเชิงพาณิชย์
Categories: ข่าวออสเตรเลีย
Leave a Reply