20 เม.ย. 2018 คณะกรรมการไต่สวนแห่งชาติหรือ Royal Commission ในเรื่องกิจการธนาคารพบการกระทำผิดของธนาคารเดอะบิ๊กโฟร์และ AMP ได้ออกมาเปิดเผยถึงการกระทำผิดของธนาคาร Commonwealth เป็นการเรียกน้ำย่อยก่อนถึงวันจริง
เมื่อวานนี้ (19 เมษายน) คณะกรรมการไต่สวนแห่งชาติ* ได้หยิบยกตัวอย่างโดยเลือกกรณีการกระทำผิดของธนาคาร Commonwealth Bank of Australia หรือ CBA ว่าได้คิดค่าธรรมเนียมบริการให้การปรึกษาทางการเงินแก่ลูกค้าที่ล่วงลับเป็นเงินปีละ 1,000 เหรียญเป็นเวลาอีก 10 ปีทั้งที่รู้อยู่เต็มอกว่าลูกค้าได้เสียชีวิตแล้ว
จากเอกสารแสดงให้เห็นว่าเจ้าหน้าที่วางแผนการเงินคนหนึ่งของ Count Financial ซึ่งเป็นนิติบุคคลในเครือของธนาคาร Commonwealth ยอมรับว่าได้รับทราบว่าลูกค้าคนหนึ่งเสียชีวิตมาตั้งแต่ปี 2004 แต่ก็ยังคงคิดค่าธรรมเนียมให้คำปรึกษาเรื่อยมาทุกปีจนกระทั่งสิ้นสุดปี 2015 หลังจากธนาคารสั่งให้มีการตรวจสอบบัญชีภายในครั้งใหญ่ในปีดังกล่าว (เหตุที่ยุติการคิดค่าธรรมเนียมน่าจะเกี่ยวข้องกับรัฐสภากำลังผลักดันกฎหมายเพิ่มอำนาจให้กับคณะกรรมการตลาดหลักทรัพย์และการลงทุนแห่งออสเตรเลียหรือ ASIC และเพิ่มโทษคดีอาญาและคดีแพร่งเอาผิดกับผู้บริหารกิจการธนาคารเจตนาฉ้อโกงลูกค้ามีโทษจำคุก 10 ปีและหรือปรับนิติบุคคลที่กระทำผิดเป็นเงิน 10 ล้านเหรียญตั้งแต่ในปี 2015 แต่กว่าจะผ่านสภาและมีผลทางกฎหมายก็ในเดือนตุลาคมปี 2016)
(*ขออนุญาตเสริม คณะกรรมการไต่สวนแห่งชาติ เป็นคณะกรรมการไต่สวนหาความจริงในระดับสูงสุดของประเทศ แต่งตั้งโดยนายกรัฐมนตรี….หรือรัฐบาลหว่า!… เป็นคณะกรรมการที่เกิดขึ้นไม่บ่อยครั้งนักเพราะต้องใช้งบประมาณจำนวนมากและต้องสรรหาบุคลากรผู้ทรงคุณวุฒิขึ้นเป็นคณะเค้นหาความจริง ผู้ที่ถูกเรียกมาให้ปากคำจะเหมือนกับต้องอาถรรพ์แทบทุกคน พวกเขาจะยอมเปิดเผยทุกเรื่องแบบไม่มีกั๊ก การให้ปากคำเท็จหากจับได้จะมีความผิดอย่างมหันต์ คือจะใหญ่หลวงกว่าการให้พยานเท็จในชั้นศาลเสียด้วยซ้ำไป คณะกรรมการไต่สวนชุดล่าสุดสื่อฯมักจะเรียกว่า the Hayne Inquiry ตามชื่อผู้พิพากษา Kenneth Hayne ประธานคณะกรรมการไต่สวน)
นอกจากนั้นผู้ให้คำปรึกษาทางการลงทุนอีกรายถูกตรวจพบในปี 2015 ว่าได้คิดค่าธรรมเนียมให้คำปรึกษาแก่ลูกค้าที่เสียชีวิตลงในปี 2007 เรื่อยมาแม้ผู้เป็นภรรยาของผู้เสียชีวิตจะทักท้วงในปี 2013 แต่ก็ไม่ได้รับการตอบสนองจนกระทั่งมายุติและยกเลิกการคิดค่าธรรมเนียมในปี 2015
ธนาคาร Commonwealth ได้รับการยกย่องให้เป็น “เจ้าของเหรียญทอง” หรือ “gold medalist” แห่ง “การคิดค่าธรรมเนียมโดยปราศจากการให้บริการ” ในจำนวนกลุ่มธนาคารเดอะบิ๊กโฟร์และ AMP
ผลจากการตรวจสอบในปี 2015 ส่งผลให้ธนาคาร Commonwealth ต้องคืนเงินค่าธรรมเนียมจำนวน 118.5 ล้านเหรียญแก่ลูกค้าที่ใช้บริการของ Commonwealth Financial Planning, Count Financial และ BW Financial Advice ซึ่งรายหลังปิดตัวไปแล้ว จากการเก็บค่าธรรมเนียมที่ไม่ชอบด้วยกฎหมายส่วนใหญ่เกิดขึ้นในระหว่างเดือนกรกฎาคมปี 2007 ถึงเดือนมิถุนายน 2015
ผู้พิพากษา Kenneth Hayne ประธานคณะกรรมการไต่สวนแห่งชาติเรื่องกิจการธนาคาร : ภาพจากสำนักข่าวเอบีซี
ทางด้านนาง Marianne Perkovic ผู้อำนวยการบริหารอาวุโสของธนาคาร Commonwealth ผู้ซึ่งมีหน้าที่รับผิดสอบในสายงานส่วนธุรกิจการให้คำปรึกษาทางการเงินจากปี 2012 ถึงปี 2016 ได้ออกมากล่าวขออภัยในสิ่งที่เกิดขึ้น
ผู้พิพากษา Michael Hodge ผู้ช่วยประธานคณะกรรมการไต่ส่วนแห่งชาติกล่าวว่า นาง Perkovic ยอมรับว่าได้มีการเก็บค่าธรรมเนียมโดยไม่มีการให้บริการ ก่อนที่จะมีผู้ร้องเรียนไปยังคณะกรรมการ ASIC
จากการไต่สวนตอนหนึ่ง ผู้พิพากษา Hodge ได้ถามนาง Perkovic ว่า “คุณรู้มาก่อนใช่ไหม (ว่ามีการคิดค่าธรรมเนียมก่อนที่ ASIC จะได้รับเรื่องร้องเรียน)” เธอตอบว่า “พวกเรารู้ว่ามีผู้ทยอยแยกกันร้องเรียน แต่ไม่ได้เป็นระบบกับสภาพของปี 2014**”
(หมายเหตุ ** อันนี้เธอหมายถึงอะไรไม่ทราบ แต่น่าจะเป็นระบบจากการไต่สวนชุด Murray Financial Systems Inquiry (มีนาย David Murray เป็นประธานการไต่สวน) ในปี 2013 ที่นำมาสู่การออกกฎหมายเพิ่มอำนาจ ASIC และเพิ่มโทษจำคุกผู้บริหารมีผลใช้บังคับในปี 2016 หากผิดพลาดต้องขออภัย)
ผลของการออกมาเปิดเผยของคณะกรรมการไต่ส่วนแห่งชาติเมื่อวานนี้ (19 เมษายน) ได้ส่งผลกระทบต่อธนาคาร Commonwealth, Westpac, NAB, ANZ และ AMP โดยผู้อำนวยการบริหารของ AMP ได้ออกมาประกาศลาออกจากตำแหน่งเป็นรายแรกทันทีที่เรื่องถูกเปิดเผย
สำหรับรายงานของคณะกรรมการไต่สวนแห่งชาติว่าด้วยกิจการธนาคารมีกำหนดรายงานต่อรัฐสภากลางในวันที่ 1 กุมภาพันธ์ปี 2019
jingjonews.com
jingjonews@hotmail.com
จิงโจ้นิวส์เป็นสื่อออนไลน์มีวัตถุประสงค์เพื่อการเผยแพร่ข่าวสาร, บทความและประชาสัมพันธ์เพื่อชุมชน โดยปลอดจากการโฆษณาในเชิงพาณิชย์
Categories: ข่าวออสเตรเลีย
Leave a Reply