กฎจราจรใหม่ผู้ขับรถต้องลดความเร็วเหลือ 40 กม.เมื่อผ่านสัญญาณไฟกระพริบจากรถเหตุฉุกเฉินจอดข้างทาง : ภาพจากจิงโจ้นิวส์ถ่ายจากข่าว 7

8 เม.ย. 2018 ผู้ขับรถยนต์จะต้องชะลอความเร็วเหลือ 40 กม./ชม.เมื่อผ่านรถตำรวจ, รถพยาบาลหรือรถหน่วยบริการฉุกเฉินจอดข้างทางเปิดไฟกระพริบ ตามโครงการใหม่ของรัฐบาลรัฐน.ซ.ว.เพื่อป้องกันอันตรายต่อเจ้าหน้าที่ขณะปฏิบัติงาน

และผู้ขับรถยังคงจะต้องให้ทางแก่ทุกคนที่เดินอยู่บนถนนบริเวณที่มีแสงไฟกระพริบสีแดงหรือสีน้ำเงิน และขับรถด้วยความเร็วต่ำอย่างระมัดระวังจนกระทั่งผ่านจุดนั้นไป และเห็นว่าปลอดภัยแล้วจึงสามารถใช้ความเร็วตามปกติได้

ผู้ที่ฝ่าฝืนจะถูกปรับตามอัตราใหม่ 439 เหรียญและถูกตัดคะแนนสะสม 3 แต้มหรือมีโทษสูงสุดโดยคำตัดสินของศาลที่ 2,200 เหรียญ

การเปลี่ยนแปลงครั้งนี้ เป็นไปตามข้อเรียกร้องของกลุ่มผู้ให้บริการเหตุฉุกเฉินหลังจากเกิดเหตุการณ์คนขับรถพุ่งชนด่านตำรวจตรวจวัดระดับแอลกอฮอล์ในลมหายใจ (RBT site) เป็นผลให้นายตำรวจคนหนึ่งต้องตัดเท้าข้างหนึ่งทิ้ง และมีนายตำรวจอื่น ๆ ได้รับบาดเจ็บจากเศษวัตถุที่ถูกรถชนกระเด็นไปถูก

ภาพจากราชยานยนต์สมาคมแห่งรัฐวิกตอเรียหรือ RACV สามารถนำมาอธิบายถึงกฎระเบียบในการลดความเร็วเมื่อผ่านรถให้สัญญาไฟแดง-น้ำเงิน

กฎจราจรใหม่นี้จะไม่ครอบคลุมถึงผู้ขับรถที่วิ่งมาจากช่องทางการจราจรในฝั่งตรงข้ามโดยมีเกาะกลางถนนหรือสิ่งแบ่งกั้นถนนอื่น ๆ (median strip) ขวางกั้น แต่จะครอบคลุมถึงถนนที่แบ่งช่องทางด้วยการตีเส้นแบ่งกลาง โปรดดูตามภาพ

นาง Melinda Pavey รัฐมนตรีดูแลการทางหลวงของรัฐบาลรัฐน.ซ.ว.กล่าวว่ากฎจราจรใหม่นี้จะเป็นการทดลองใช้เป็นเวลา 12 เดือนโดยจะเริ่มตั้งแต่วันที่ 1 กันยายนปีนี้

มาตรการคล้ายคลึงกันนี้ได้ถูกนำมาใช้ในรัฐวิกตอเรียตั้งแต่วันที่ 1 กรกฎาคมปีที่ผ่านมา (2017) โดยผู้ฝ่าฝืนมีโทษปรับ 277 เหรียญ

jingjonews.com

jingjonews@hotmail.com

จิงโจ้นิวส์เป็นสื่อออนไลน์มีวัตถุประสงค์เพื่อการเผยแพร่ข่าวสาร, บทความและประชาสัมพันธ์เพื่อชุมชน   โดยปลอดจากการโฆษณาในเชิงพาณิชย์

Categories: ข่าวออสเตรเลีย

Tags: กฎจราจร, ข่าวการจราจร, ข่าวรัฐน.ซ.ว., ข่าวรัฐนิวเซาท์เวลส์, ข่าวออสซี่, ข่าวออสเตรเลีย, ประเทศออสเตรเลีย, รัฐน.ซ.ว., รัฐนิวเซาท์เวลส์, ออสเตรเลีย