คนส่งอาหารของ Menulog ซึ่งก็เหมือนกับเดลิเวอรีรายอื่น ๆ จะต่างกันที่สีเครื่องแบบและแบรนด์เท่านั้น : ภาพจาก Travel & Lifestyle

30 ม.ค. 2018 เจ้าของร้านอาหารถูกบีบให้ต้องร่วมทำธุรกิจกับ “หุ้นส่วนที่พวกเขาไม่ต้องการ” ที่เป็นยักษ์ใหญ่ทางเดลิเวอรีออนไลน์อย่าง Uber Eats และ Menulog ทั้งที่รู้ว่าพวกเขาจะขโมยเอาลูกค้าขาประจำและกำไรไปอย่างหน้าตาเฉย

(อันที่จริงข่าวนี้ถูกรายงานมาตั้งแต่วันที่ 18 มกราคม แต่วันนี้ไม่มีข่าวที่ชอบ จึงต้องขออนุญาตเอากลับมานำเสนอโดยสังเขปดังนี้)

ในยุคปัจจุบันธุรกิจที่เรียกว่า food aggregators เข้าทำหน้าที่เป็นตัวกลางระหว่างร้านอาหารกับผู้บริโภคโดยผ่านสื่อสังคมออนไลน์ (ต่อไปขออนุญาตเรียกทับศัพท์ว่า “ฟูด-แอกกริเกเตอร์”) กำลังเติบโต ส่งผลให้ร้านอาหารและฟาสต์ฟูดหลายแห่งเหมือนถูกมัดมือชกให้ต้องร่วมทำธุรกิจกับศตรูที่จำต้องเป็นมิตร (frenemies) อย่าง Uber Eats, Foodora, Menulog และ Deliveroo ทั้งนี้ก็เพื่อความอยู่รอดเนื่องจากรูปแบบของการทำธุรกิจร้านอาหารได้เปลี่ยนไปตามโลกยุคดิจิตอล

จากการศึกษาของ Morgan Stanley ระบุว่าตลาดเทคอะเวย์ออนไลน์ได้เติบโตขึ้นถึง 30% ในปี 2017 (เยอะนะเนี่ย) พร้อมทำนายว่ามันจะเติบโตจาก 1.5 พันล้านเหรียญในปัจจุบันไปเป็น 4.2 พันล้านเหรียญภายในปี 2025

ธุรกิจฟูด-แอกกริเกเตอร์ยักษ์ใหญ่ทั้งสี่รายตามที่เอ่ยมาแล้วได้ทำสัญญากับร้านอาหารเพื่อให้ลูกค้าสั่งอาหารผ่านพวกเขาทางออนไลน์ทั้งเลือกสั่งแล้วมารับที่ร้านด้วยตัวเองหรือให้จัดส่งเดลิเวอรีไปถึงบ้าน ซึ่งส่วนใหญ่จะใช้คู่สัญญาที่สามเป็นผู้จัดการส่งอาหารตามบ้านลูกค้า โดยผู้ทำสัญญาร่วมค้าจะต้องมียานพาหนะเป็นของตนเองไม่ว่าจะเป็นจักรยาน, มอเตอร์ไซค์หรือรถยนต์ โดยได้ค่าจ้างต่อเดลิเวอรี

ซึ่งผู้รับทำหน้าที่เดลิเวอร์มีทั้งผู้อพยพคนท้องถิ่น, ชาวต่างชาติถือวีซ่า 417 (ทำงาน-ท่องเที่ยว) และผู้ถือวีซ่านักเรียน

คนส่งอาหารของ Deliveroo ส่วนใหญ่น่าจะใช้แรงงานชาวต่างชาติถือวีซ่า 417 ทำงาน-ท่องเที่ยว : ภาพจากนสพ. The Telegraph

แต่สำหรับร้านอาหารแล้วมันเหมือนกับดาบสองคมคือยอดขายเพิ่มขึ้น แต่สัดส่วนของกำไรลดลง

นาย Robert Galati เจ้าของร้านอาหารอิตาลี Fratelli & Co และร้านอาหารไทย Baywok ที่ย่าน Concord เขต City of Canada Bay นครซิดนีย์กล่าวว่า เขาใช้บริการของ Eat Now และของ Menulog

เขากล่าวว่า การใช้ฟูด-แอกกริเกเตอร์จะเป็นผลดีต่อลูกค้าของเขา แต่สำหรับธุรกิจของเขามันไม่ได้ช่วยเพิ่มลูกค้า, ขยายพื้นที่เดลิเวอรีและเพิ่มยอดการขาย

นาย Galati กล่าวถึง Menulog ว่าเป็นหุ้นส่วนทางธุรกิจที่เขาไม่ต้องการ เพราะไม่เพียงแต่พวกเขาจะเอาลูกค้าที่มีอยู่เดิมไปแล้วยังมาเก็บค่าธรรมเนียมจากการขายให้ลูกค้าเก่าของเขา

เขากล่าวว่า ลูกค้าเหล่านี้เคยมาที่ร้านหรือสั่งซื้อโดยตรงจากเว็บไซท์ของร้านหรือโทรศัพท์สั่ง แต่เดี๋ยวนี้พวกเขาสั่งผ่าน Menulog เพราะมีความสะดวก ลูกค้าเหล่านี้ 100% เป็นลูกค้าของเรา แต่เดี๋ยวนี้พวกเขาสั่งผ่าน Menulog ทำให้เงินขายค่าอาหารที่ควรได้เต็ม ๆ ก็ต้องแบ่งไปให้กับ Menulog

นาย Robert Galati เจ้าของร้านอาหารอิตาลี Fratelli & Co และร้านอาหารไทย Baywok : ภาพชั่วคราวจากนสพ. The SMH

รายงานของ Morgan Stanley กล่าวว่า ฟูด-แอกกริเกเตอร์รับส่วนแบ่งการสั่งซื้ออออนไลน์ไปในมูลค่า 1.5 พันล้านเหรียญ จากธุรกิจเทคอะเวย์ทั้งตลาดในมูลค่า 18 หันล้านเหรียญหรือ 8.33%

และคาดว่าการสั่งซื้ออาหารทางออนไลน์ในออสเตรเลียจะเพิ่มขึ้นเป็น 23% ของยอดขายภายในปี 2025 จากในปัจจุบันที่อยู่ในอัตรา 10%

jingjonews.com

jingjonews@hotmail.com

จิงโจ้นิวส์เป็นสื่อออนไลน์มีวัตถุประสงค์เพื่อการเผยแพร่ข่าวสาร, บทความและประชาสัมพันธ์เพื่อชุมชน   โดยปลอดจากการโฆษณาในเชิงพาณิชย์

Categories: ข่าวออสเตรเลีย

Tags: ข่าวรัฐน.ซ.ว., ข่าวรัฐนิวเซาท์เวลส์, ข่าวร้านอาหาร, ข่าวออสซี่, ข่าวออสเตรเลีย, ธุรกิจเดลิเวอรีอาหาร, ประเทศออสเตรเลีย, ฟูด-แอกกริเกเตอร์, รัฐน.ซ.ว., รัฐนิวเซาท์เวลส์, วีซ่า 417, ออสเตรเลีย