จิงโจ้ล้นรัฐเซาท์ออสเตรเลีย องค์กรเกษตรร้องขอรัฐบาลทำแผนลดแบบยั่งยืน

ผู้ขับรถระยะทาง 73 กม.ระหว่างเมือง Quorn และเมือง Craddock พบจิงโจ้ขวางถนนนับได้ 354 ตัว : ภาพจากนสพ. The Advertiser

22 ม.ค. 2018 องค์กรเกษตรในรัฐเซาท์ออสเตรเลียได้เรียกร้องให้รัฐบาลเปิดไฟเขียวให้ประชาชนทั่วไปยิงจิงโจ้ทิ้ง หลังจากสัตว์สายพันธุ์มาร์ซูเพียลเพิ่มจำนวนอย่างรวดเร็วกว่า 5 ล้านตัว ในขณะที่รัฐมีพลเมืองเพียง 1.7 ล้านคน

#สภาพอากาศแบบผสมและฝนตกในปริมาณสูงทำให้เหมาะสำหรับการขยายพันธุ์และการลดลงของธุรกิจเนื้อและหนังจิงโจ้เพื่อการพาณิชย์ทำให้ประชากรจิงโจ้เพิ่มขึ้นเป็นสองเท่าจากปี 2012 ส่งผลกระทำต่อพื้นที่ทำการเพราะปลูกและเลี้ยงสัตว์ของเกษตรกร

นาย Rob Kerin ประธานองค์กร Primary Producers SA กล่าวว่ารัฐบาลรัฐเซาท์ออสเตรเลียควรจะต้องอนุญาตให้ประชาชนทั่วไปสามารถยิงจิงโจ้ทิ้งเป็นเกมกีฬา

เขากล่าวว่า ในการประชุมเพื่อแก้ปัญหาจิ้งโจ้เพิ่มประชากรคุกคามระหว่างผู้แทนเกษตรกร, ผู้นำอุตสาหกรรมและฝ่ายรัฐบาล พบว่าทางเลือกที่ดีที่สุดก็คือการเปิดโอกาสให้ประชาชนยิงจิงโจ้ทิ้งเป็นเกมกีฬา ในขณะที่ฝ่ายรัฐบาลยังมีแนวความคิดในเชิงอนุรักษ์จิงโจ้

ภายใต้กฎหมายล่าสุดที่ใช้มาตั้งแต่ปี 2016 จิงโจ้ทั้งหมดภายในรัฐเซาท์ออสเตรเลียได้รับความคุ้มครอง ยกเว้นจิงโจ้สามสายพันธุ์คือจิงโจ้แดง (red kangaroo), จิงโจ้เทาตะวันตก (western grey kangaroo) และจิงโจ้ยูโร (euro หรือ common wallaroo) มีการอนุญาตให้ฆ่าได้ภายใต้แผนการจัดการเพื่อการพาณิชย์แห่งรัฐเซาท์ออสเตรเลีย (SA Commercial Kangaroo Management Plan)

ในขณะเดียวกันได้ออกกฎหมายอนุญาตให้เกษตรกรสามารถยิงจิงโจ้บุกรุกทำลายฟาร์มได้ปีละไม่เกิน 400 ตัว โดยเพิ่มจากเดิมกำหนดไว้ที่ไม่เกิน 200 ตัว

ภายใต้โควต้าปี 2016 รัฐบาลได้อนุมัติให้ทำการสังหารจิงโจ้เพื่อการพาณิชย์เป็นจำนวน 684,600 ตัว แต่มีการสังหารจริงเพียงแค่ 14% หรือประมาณ 96,000 ตัวเท่านั้น

นี่คือเหตุผลหนึ่งที่แผนการจัดการควบคุมประชากรจิงโจ้ของรัฐบาลรัฐเซาท์ออสเตรเลียไม่ได้ความสำเร็จ และส่งผลให้จิงโจ้แพร่กระจายไปทั่วในหลายพื้นที่ของรัฐ รวมถึงการอพยพเข้ามายังถิ่นที่อยู่อาศัยของมนุษย์

ในขณะที่รัฐเซาท์ออสเตรเลียประสบปัญาหาจิงโจ้เพิ่มประชากร แต่ที่ West Pains ในรัฐน.ซ.ว.กลับเจอปัญหาจำนวนจิงโจ้ลดลง โดยเฉพาะที่ Narrabri จำนวนจิงโจ้ลดจาก 2.2 ล้านตัวในปี 2016 เหลือ 1.2 ล้านตัวในปี 2017 : ภาพจากนสพ. The Australian

นาย Richard Warwick ผู้ซึ่งครอบครัวของเขาเป็นเจ้าของฟาร์มที่สถานี Holowiliena Station หนึ่งในพื้นที่ที่ได้รับผลกระทบจากจิงโจ้หนักที่สุดของภูมิภาค Flinders Ranges กล่าวว่า เพื่อนบ้านของเขาได้ขับรถระหว่างเมือง Quorn และเมือง Craddock ระยะทาง 73 กม.สามารถนับจิงโจ้ตามทางผ่านได้ถึง 354 ตัวทีเดียว

เขากล่าวว่า จำนวนจิงโจ้ขวางถนนได้เพิ่มมากขึ้น ทำให้ทุกคนต้องหยุดใช้รถในเวลากลางคืน

เพื่อนของเขาคนหนึ่งได้ขับรถไปงาน Carrieton Rodeo ทางเหนือของเมือง Orroroo เขาไม่สามารถขับรถได้เกินกว่า 60 กม.ต่อชม.บนทางด่วนในเวลากลางคืน เนื่องจากมีจิงโจ้ขวางถนน เพื่อนของเขาเป็นคนในพื้นที่มาตลอดชีวิต เขาบอกว่าไม่เคยประสบเหตุการณ์เช่นนี้มาก่อน

นาย Warwick กล่าวว่า ที่ฟาร์มของเขาเองตอนนี้มีจิงโจ้มากกว่าแกะที่เขาเลี้ยงไว้ถึง 2.5 เท่า หากใครมาที่ฟาร์มของเขาคงนึกว่าเป็นอุทยานแห่งชาติ มากกว่าเป็นฟาร์มปศุสัตว์

 

jingjonews.com

jingjonews@hotmail.com

จิงโจ้นิวส์เป็นสื่อออนไลน์มีวัตถุประสงค์เพื่อการเผยแพร่ข่าวสาร, บทความและประชาสัมพันธ์เพื่อชุมชน   โดยปลอดจากการโฆษณาในเชิงพาณิชย์



Categories: ข่าวออสเตรเลีย

Tags: , , , , , , , ,

Leave a Reply

Discover more from jingjonews

Subscribe now to keep reading and get access to the full archive.

Continue reading