นาย Fred Pattison และนางวนิดดาภายในห้องนอนของน้องบัง สิริยากร : ภาพจากนสพ. Herald Sun

30 ก.ค. 2017 “ใบหน้าและชื่อของเธอเป็นที่คุ้นเคยของชาววิกตอเรียหลายคน สาวน้อยร่างผอมบางมีผมสีเข้มยาวและมีรอยยิ้มอบอุ่น เธอคือ Siriyakorn “Bung” Siriboon…….” ข้อความนี้ได้ปรากฎอยู่ในหนังสือชื่อ Too Short Stories ที่เล่าเรื่องของ 1 ใน 9 บุคคลที่หายตัวไปเป็นเวลานาน เกิดจากการเขียนเรื่องสั้นระหว่างนักเขียนกับครอบครัวของผู้ที่สูญเสียคนที่พวกเขารัก

พร้อมกับศิลปินได้จัดทำงานศิลป์จากภาพต้นฉบับของบุคคลสูญหายแต่ละคน โดยหนังสือจะเริ่มเปิดตัวไปพร้อมกับวันสัปดาห์บุคคลหายสาบสูญแห่งชาติหรือ National Missing Persons Week ซึ่งได้เริ่มขึ้นในวันจันทร์ที่ 30 กรกฎาคม

เรื่องราวของน้องบัง ศิริยากร ศิริบูรณ์ (หรือศิริบูลย์) ได้ถูกใช้เป็นตัวประชาสัมพันธ์ตามสื่อมวลชน เธอได้เดินออกจากบ้านเพื่อไปโรงเรียนในตอนเช้าของวันที่ 2 มิถุนายนปี 2011 ถึงทุกวันนี้นาง Vanidda (วนิดดา) มารดาและนาย Fred Pattison พ่อเลี้ยงยังคงเฝ้ารอเธอกลับมาบ้าน

เธอหายไปจากบ้านไปเมื่ออายุ 13 ปี หากเธอกลับมาบ้านในวันนี้ น้องบังก็จะเป็นสาวในวัย 19 ปี

น.ส. Loren O’Keeffe ผู้ก่อตั้ง MPAN : ภาพจากนสพ. The Age

ข้อมูลจากศูนย์ความร่วมมือตามหาคนหายแห่งชาติ (NMPCC) ระบุว่าในแต่ละปีจะมีการแจ้งความคนหายเฉลี่ย 38,000 คน กว่า 95% จะพบคนหายภายในหนึ่งสัปดาห์ แต่มีคนหายปีละ 1,600 คนอยู่ในกลุ่มคนหายสาบสูญระยะยาว

หนังสือ Too Short Stories มาจากความติดริเริ่มของเครื่อข่ายผู้สนันสนุนการตามหาบุคคลสูญหาย (MPAN) และ Grey Australia

เครือข่าย MPAN ก่อตั้งโดยน.ส. Loren O’Keeffe และครอบครัวซึ่ง Dan (Daniel James O’Keeffe) น้องชายของเธอได้หายไปจากบ้านที่ตำบล Highton เมือง Geelong รัฐวิกตอเรียในวันที่ 15 กรกฎาคม 2011

น.ส. O’Keeffe ได้ใช้สื่อสังคมออนไลน์ช่วยตามหาน้องชายของเธอจนเกิดการรณรงค์ภายใต้ชื่อ Dan Come Home กระจายบนสื่อออนไลน์

แต่การตามหา Dan ต้องจบลงด้วยโศกนาฎกรรมในเดือนมีนาคม 2015 เมื่อนาย Des O’Keeffe ผู้เป็นบิดาพบโครงกระดูกของ Dan อยู่ใต้บ้านของครอบครัวที่ตำบล Highton นั่นเอง

ในระหว่างตามหา Dan ครอบครัว O’Keeffe ได้รับการติดต่อจากครอบครัวที่มีคนสูญหายเช่นกัน เป็นผลให้เกิดการก่อตั้งเครือข่าย MPAN ขึ้นเป็นรายแรกของโลกที่ให้คำแนะนำแก่ครอบครัวที่ต้องสูญเสียคนรัก และ Too Short Stories ก็เป็นความคิดริเริ่มเพื่อสร้างความตระหนักแก่ครอบครัวทั่วไปและสนับสนุนครอบครัวที่ต้องสูญเสียสมาชิกไปจากการหายสาบสูญ

ภาพงานศิลป์ของน้องบัง สิริยากรที่อยู่ในหนังสือ Too Short Stories : ภาพจาก MPAN

สำหรับเรื่องราวของน้องบัง สิริยากร หนึ่งเดือนหลังจากเธอหายไปจากบ้านย่าน Boronia เขต City of Knox ทางตะวันออกของนครเมลเบิร์นนางวินิดดาได้ตัดสินใจเดินทางกลับประเทศไทย โดยทิ้งให้ Pang (ปาง หรือปัง) บุตรสาวคนโตอยู่กับพ่อเลี้ยงเพื่อศึกษาต่อจนสำเร็จปริญญาตรีด้านธุรกิจ

ในปี 2014 รัฐบาลรัฐวิกตอเรียได้เสนอรางวัล 1 ล้านเหรียญให้กับผู้ที่พบน้องบัง สิริยากร ซึ่งถือเป็นรางวัลที่สูงที่สุดสำหรับการติดตามคนหายสาบสูญ ก่อนที่จะมีการเสนอรางวัลในจำนวนเดียวกันเกิดขึ้นในรัฐวิกตอเรียและรัฐนิวเซาท์เวลส์ตามมาอีก 2 ราย

หนังสือ Too Short Stories ขายในราคาเล่มละ 25 เหรียญ สามารถสั่งซื้อได้จาก MPAN.COM.AU, หรือที่ Readings Carlton and St Kilda, ที่ Brunswick Street Bookstore และที่ The Grumpy Swimmer

หมายเหตุ ท่านสามารถอ่านข่าวย้อนหลังคดีการหายตัวไปของน้องบัง-สิริยากรได้ด้วยการกดคลิก “สิริยากร ศิริบูรณ์-น้องบัง” ที่ Tags ท้ายข่าวนี้

jingjonews.com

jingjonews@hotmail.com

จิงโจ้นิวส์เป็นสื่อออนไลน์มีวัตถุประสงค์เพื่อการเผยแพร่ข่าวสาร, บทความและประชาสัมพันธ์เพื่อชุมชน   โดยปลอดจากการโฆษณาในเชิงพาณิชย์

Categories: ข่าวคนไทยในออสเตรเลีย, ข่าวออสเตรเลีย

Tags: ข่าวคนไทย, ข่าวคนไทยในออสเตรเลีย, ข่าวรัฐวิกตอเรีย, ข่าวออสซี่, ข่าวออสเตรเลีย, ข่าวอาชญากรรม, คดีเด็กหาย, บัง-สิริยากร ศิริบูรณ์, ประเทศออสเตรเลีย, รัฐวิกตอเรีย, สิริยากร ศิริบูรณ์ - น้องบัง, ออสเตรเลีย, ให้รางวัล 1 ล้านเหรียญ คดีฆ่าเด็กไทย