นสพ. Herald Sun ฉบับ 22 พ.ค. 2017 พาดหัวข่าวเซ็กซ์, โกหกและโคเคน ในที่สุด Cassie ยอมรับเธอคือผู้ขนยาเสพติด ขณะเดียวกับการเปิดเผยเรื่องราวโสมมว่าเธอมีอดีตเป็นนางโทรศัพท์
22 พ.ค. 2017 น.ส. Cassandra Sainsbury หรือ Cassie ผู้ต้องหาถูกจับคดีโคเคนในประเทศโคลัมเบียกลับมาขึ้นหน้าหนึ่งอีกครั้งเมื่อเธอถูกกล่าวหาว่าเธอเคยทำงานเป็นโสเภณีที่ซ่องทางตะวันตกของนครซิดนีย์อยู่ระยะหนึ่ง
การออกมาแฉเกิดขึ้นในเวลาใกล้เคียงกับที่เธอได้เปลี่ยนเรื่องวิบากกรรมของเธอ มาเป็นเธอถูกขบวนการค้ายาเสพติดข้ามชาติข่มขู่เอาชีวิตเธอและคนในครอบครัวถ้าเธอไม่ร่วมมือในการลักลอบขนยาเสพติด
Cassie วัย 22 ปีได้กลายเป็นข่าวช็อกเมื่อเธอถูกกล่าวหาว่า เคยทำงานเป็นโสเภณีอยู่ที่ซ่องทางตะวันตกของซิดนีย์ ก่อนที่จะตัดสินใจเดินทางไปประเทศโคลัมเบีย
ผู้ที่ออกมาแฉคือโสเภณีอดีตเพื่อนร่วมงานของ Cassie ได้ให้สัมภาษณ์ผ่านรายการข่าว Nine News ว่า Cassie เคยทำงานเป็นโสเภณีที่ Club 220 Gentlemen’s Club ใกล้กับเขต Penrith และกล่าวหาว่าเธอเป็นจอมโกหกจนเป็นนิสัย โดยครั้งหนึ่งอ้างว่ามารดาของเธอเสียชีวิตด้วยโรค MS (โรคมัลติเพิลสเกลอโรซิสหรือโรคปลอกประสาทเสื่อมแข็ง)
โสเภณีผู้ออกมาแฉกล่าวว่า “ฉันไม่คิดว่า Cassandra จะเป็นสาวน้อยผมบลอนด์ที่ใสซื่ออย่างที่หลายคนคิด เธอคือคนโกหกที่ร้ายกาจ”
เธอได้หลอกลวงให้เพื่อนร่วมงานว่ามารดาของเธอกำลังจะตาย ทำให้เธอและเพื่อน ๆ ลงขันกันเพื่อนำที่ได้มาเงินช่วยเหลือมารดาของเธอ
จากคำให้การของโสเภณีรุ่นพี่กล่าวว่า Cassie ใช้ชีวิตอยู่ในสองสถานะ เธอหากินเป็นโสเภณีด้วยการไป ๆ มา ๆ ระหว่างซิดนีย์กับแอดิเลดในช่วงระหว่างเดือนสิงหาคมถึงเดือนธันวาคมเมื่อปีที่ผ่านมา
โดยเธอใช้ชื่อว่า Claudia และตามโฆษณาทางสื่อออนไลน์ได้อ้างสรรพคุณของเธอว่า “สาววัย 19 มีคลาส, ขี้เล่นและพร้อมที่จะทำความประทบใจให้” พร้อมลงภาพเธอสวมชุดชั้นในสีแดงตั้งแต่คางลงมาถึงโคนขา (ตามภาพหน้าหนึ่งนสพ. Herald Sun ด้านบน)
อดีตเพื่อร่วมงานตัดสินใจออกมาแฉ เพราะโกรธแค้นเมื่อทราบว่่าเธอถูก Cassie หลอกว่าแม่เสียชีวิตแล้ว เมื่อเธอเห็นมารดาของ Cassie ออกสื่อปกป้องบุตรสาวและเดินทางไปโคลัมเบียกับทีมถ่ายทำของรายการ 60 Minutes ของทีวี 9
คลับ 220 Gentleman’s Club ใกล้ Penrith ที่ถูกอ้างว่า Cassie เคยทำงานเป็นโสเภณี : ภาพจากนสพ. The Telegraph
เรื่องราวการเป็นโสเภณีของ Cassie เกิดขึ้นในเวลาใกล้เคียงกับข่าวการออกมาเรียกร้องให้ทางการโคลัมเบียและตำรวจสอบสวนกลาง (AFP) ของออสเตรเลียคุ้มครองและกันเธอไว้ในฐานะพยายาน
โดยเธออ้างเหตุเนื่องมาจากทนายความของเธอประสบความล้มเหลวในการยื่นคัดค้านไม่ให้รายการ Sunday Night เผยแพร่การสัมภาษณ์นาย Scott Broadbridge แฟนหนุ่มของเธอออกอากาศทางทีวี 7
ตามเอกสารที่ยื่นต่อศาลสหพันธ์กลางกล่าวว่า Cassie ได้ตกเป็นเครื่องมือของแก๊งค้ายาเสพติดข้ามชาติผู้ซึ่งข่มขู่เอาชีวิตเธอและสมาชิกในครอบครัวของเธอถ้าเธอไม่ยอมทำตามความต้องการของพวกเขา และขอให้ทางการของทั้งสองประเทศให้ความคุ้มครองและกันเธอไว้ในฐานะพยาน
โดยตอนหนึ่งกล่าวว่า “การเปิดเผย, การตีพิมพ์เผยแพร่, หรือการออกอากาศเทปบันทึกของผู้ยื่นขอ (Cassie) หรือบุคคลใด, หน่วยงาน หรือ องค์กรอาจทำให้เธอและครอบครัวเสี่ยงต่อชีวิต”
นสพ. The Telegraph ฉบับ 22 พ.ค. 2017 พาดหัวว่า ตะขอตกปลา (โสเภณี), สายเบ็ดตกปลา, ที่กำลังจมดิ่ง
ในคดีนี้ Cassie ถูกจับกุมในวันที่ 12 เมษายนที่สนามบินนานาชาติ El Dorado พร้อมโคเคนของกลางหนัก 5.8 กก. บรรจุอยู่ในห่อพลาสติกสีดำ 18 ห่อ แรกทีเดียวเธอให้การว่าถูกชายชาวโคลัมเบียที่พูดภาษาอังกฤษได้หลอก ก่อนที่จะเปลี่ยนเรื่องแบบหน้ามือเป็นหลังมือว่า เธอขนยาจริงแต่ทำไปเพราะถูกแก๊งค้ายาข้ามชาติข่มขู่
เรื่องราวล่าสุดมาจากการบอกเล่าของนาย Scott Broadbridge คู่หมั้นของเธอผู้ที่รายการ Sunday Night ทางทีวี 7 ซื้อลิขสิทธิในการสัมภาษณ์และพาเขาไปเยี่ยม Cassie ถึงคุกในประเทศโคลัมเบีย
นาย Scott Broadbridge ว่า Cassie ได้รับการว่าจ้างจากบุคคลคู่หนึ่งในอัตราสัปดาห์ละ 1,800 เหรียญเพื่อทำงานให้กับธุรกิจทำความสะอาดของทั้งสอง แต่หลังจากถูกจับกุม Cassie ก็ไม่สามารถติดต่อกับทั้งสองได้ ซึ่ง Cassie รู้จักทั้งสองแต่เพียงชื่อว่า Karen กับ June Folshok เท่านั้น
นาย Broadbridge ยังอ้างอีกว่าบุคคลที่ว่าจ้าง Cassie คู่นี้ได้ซื้อธุรกิจคลีนเนอร์มาจากนาย Neil Sainsbury อา (หรือลุง) แท้ ๆ ของ Cassie
นาย Neil Sainsbury อาของ Cassie ผู้ออกมาปฏิเสธข้ออ้างของหลานสาว : ภาพจาก News.com.au
ต่อมานาย Neil Sainsbury ที่จู่ ๆ ถูกดึงมาพัวพันด้วยจึงออกมาปฏิเสธข้ออ้างดังกล่าว และบอกว่าเขาไม่เคยมีธุรกิจคลีนเนอร์เสียด้วยซ้ำ
นาย Sainsbury ผู้เป็นอากล่าวว่า Cassie เป็นคนที่ชอบเปลี่ยนเรื่องไปมา เมื่อจนมุมเรื่องหนึ่งก็จะเปลี่ยนไปอีกเรื่องหนึ่ง และโดยสัตย์จริงแล้วเขาไม่เชื่อว่าเธอเป็นคนไร้เดียงสาอย่างที่บางคนคิด
ทางด้านนาย Stuart Sainsbury ผู้เป็นบิดาของ Cassie ตั้งข้อสงสัยรายการซึ่งขัดกันเองว่า บุตรสาวของเขาได้วางแผนการเดินทางตั้งแต่เดือนมกราคม แล้วทำไมจึงมีการเดินทางปุบปับที่จัดการให้โดยนายและนาง Folshok
นาง Lisa Evans และ น.ส. Khala Sainsbury ขณะเดินทางกลับถึงนครแอดิเลดพร้อมกับความร่ำรวยขึ้น 1 ล้านเหรียญจากค่าลิขสิทธิ์ : ภาพชั่วคราวจากสำนักข่าว AAP
วันที่ 23 พฤษภาคม มาดาม Pmela Feranchi แม่เล้าผู้ดูแลซ่องออกมายืนยันว่า Cassie เคยทำงานเป็นโสเภณีที่ Club 220 Gentlemen’s จริง ครั้งหนึ่งเธอได้ร้องหม่ร้องไห้บอกว่าแม่ของเธอได้เสียชีวิต จนทำให้เพื่อนโสเภณีที่คลับและที่สาขาอื่นช่วยกันเรี่ยไรเงินให้ Cassie เป็นค่าทำศพมารดาในนครแอดิเลด
ในวันเดียวกันทางเรือนจำหญิง El Buen Pastor ในประเทศโคลัมเบียได้ตัดสินใจแยก Cassie ออกมาขังเดี่ยวเพื่อป้องกันอันตราย ตามที่เธอยื่นขอให้กันตัวเป็นพยานและกล่าวอ้างว่าเธออยู่ในอันตรายหลังจากทนายของเธอไม่ประสบความสำเร็จในการคัดค้านการเผยแพร่เทปสัมภาษณ์นาย Scott Broadbridge แฟนหนุ่มของเธอออกอากาศทางทีวี 7
ทางด้านนาย Broadbridge ออกมากล่าวว่าเขายอมให้ทีวี 7 สัมภาษณ์ออกรายการ Sunday Night โดยไม่คิดค่าลิขสิทธิใด ๆ ทั้งสิ้น นอกจากการออกค่าเดินทางและที่พักไปกลับโคลับเบีย อีกทั้งการสัมภาษณ์ก็เป็นความยินยอมของ Cassie ผิดจากมารดาของเธอที่ตกลงเซ็นสัญญากับรายการ 60 Minutes โดยไม่ได้ขอความยินยอมจากบุตรสาว
ส่วนค่าลิขสิทธิที่นาง Lisa Evans และ น.ส. Khala Sainsbury พี่สาวของเธอได้รับจากรายการ 60 Minutes ของทีวี 9 ได้รับ สื่อมวลชนเปิดเผยว่าเป็นตัวเลขที่ 1 ล้านเหรียญ
ซึ่งเป็นอัตราเดียวกับที่ 60 Minutes เคยจ่ายเป็นค่าลิขสิทธิ์เพื่อสัมภาษณ์เหยื่อในเหตุการณ์นาย Man Maron Monis ผู้ก่อการร้ายบุกยึดร้าน Lindt Chocolate Cafe ที่ Martin Place ในใจกลางนครซิดนีย์ในเดือนธันวาคมปี 2014 จำนวน 8 คน ซึ่งผู้ให้สัมภาษณ์ส่วนใหญ่เป็นพนักงานของ Lindt Café
หมายเหตุ ท่านสามารถติดตามข่าวเกี่ยวเนื่องของคดีนี้ได้ด้วยการกดคลิกที่ “คดีน.ส. Cassandra Sainsbury” ที่ Tags ด้านล่างข่าวนี้ครับ
jingjonews.com
jingjonews@hotmail.com
จิงโจ้นิวส์เป็นสื่อออนไลน์มีวัตถุประสงค์เพื่อการเผยแพร่ข่าวสาร, บทความและประชาสัมพันธ์เพื่อชุมชน โดยปลอดจากการโฆษณาในเชิงพาณิชย์
Categories: ข่าวออสเตรเลีย
Leave a Reply