Coke Life กำลังหายไปจากแผงขาย ในออสเตรเลียหลังยุติการผลิต

Coca-Cola Life ที่ได้ยุติการผลิตและจำหน่ายในออสเตรเลียตั้งแต่เดือนมกราคม โดยจะปล่อยให้สินค้าที่วางขายค่อย ๆ หมดไปจากตลาด : ภาพจากนสพ. The Age

29 เม.ย. 2017 บริษัท Coca-Cola ได้ยกเลิกการวางขาย Coca-Cola Life จากแผงขายทั่วออสเตรเลียหลังจากใช้เวลา 2 ปีกับการทุ่มเงินหลายล้านดอลล่าร์ในเครื่องดื่มลดแคลอรี่ เพื่อความพยายามปรับเข้าสู่ตลาดน้ำอัดลมเพื่อสุขภาพให้มากขึ้น

บริษัทผลิตน้ำอัดลมรายใหญ่ของโลกได้ผลิตเครื่องดื่ม Coca-Cola Life หรือ Coke Life โดยใช้ความหวานจากหญ้าหวาน หรือ stevia เริ่มวางตลาดในออสเตรเลียมาตั้งแต่เดือนกุมภาพันธ์ปี 2015 เพื่อหวังจะดึงยอดลูกค้ากลับคืนมา โดยวางสินค้าไว้ในจุดที่ไม่ดีต่อสุขภาพน้อยกว่าน้ำอัดลมโคคา-โคล่าทั่วไปและมีรสชาติดีกว่า Coke Zero และ Diet Coke

การเปิดตัวของ Coke Life ถูกโต้ตอบด้วยการลดราคาอย่างกระหน่ำของคู่แข่งและน้ำอัดลมจากค่าย Coca-Cola ด้วยกันตามซูเปอร์มาร์เก็ตขนาดใหญ่

ภายในหนึ่งปีบริษัท Coca-Cola และ Coca-Cola Amatil บริษัทผู้ผลิตและจำหน่ายในออสเตรเลียได้เริ่มทดลองปรับปรุงสูตรใหม่ด้วยการลดน้ำตาลลงไปอีก หลังจากพบว่ายอดขายของ Coke Life ไม่ได้ตามเป้าอย่างที่คาดไว้ แถมสินค้ากลับไม่ติดตลาด

ในที่สุดจึงตัดสินใจหยุดผลิตสินค้าในเดือนมกราคมที่ผ่านมา โดยจะปล่อยให้ Coke Life ค่อย ๆ หายไปจากท้องตลาด

อย่างไรก็ตามแบรนด์ Coke Life จะถูกแทนที่ด้วยสินค้าใหม่เรียกว่า Coca-Cola with Stevia ซึ่งจะมีน้ำตาลน้อยกว่าเครื่องดื่มโคคา-โคล่าทั่วไป 50% หรือประมาณ 4 ช้อนชาต่อกระป๋องขนาด 375 มล.แทนที่จะเป็น 9 ช้อนชา ในขณะที่ Coke Life เวอร์ชั่นสุดท้ายมีน้ำตาลน้อยกว่าโคคา-โคล่าทั่วไป 35%

โฆษกของ Coca-Cola ภาคพื้นแปซิฟิกใต้กล่าวว่า บริษัทได้เปลี่ยนชื่อจาก Life มาเรียกว่า Stevia ก็เพื่อการสื่อสารที่ดีขึ้นแก่ผู้บริโภคว่า มันจะเป็นทางเลือกสำหรับเครื่องดื่มที่มีน้ำตาลต่ำกว่า โดยสูตรล่าสุดเป็นการรักษาดุลระหว่างรสชาติกับระดับน้ำตาล

สำหรับ Coca-Cola Life ขณะนี้ได้ทำการยุติการจำหน่ายในออสเตรเลียและสหราชอาณาจักร แต่ยังคงวางขายในสหรัฐอเมริกาและในประเทศอื่น ๆ

 

jingjonews.com

jingjonews@hotmail.com

จิงโจ้นิวส์เป็นสื่อออนไลน์มีวัตถุประสงค์เพื่อการเผยแพร่ข่าวสาร, บทความและประชาสัมพันธ์เพื่อชุมชน   โดยปลอดจากการโฆษณาในเชิงพาณิชย์



Categories: ข่าวออสเตรเลีย

Tags: , , , , , ,

Leave a Reply

%d bloggers like this: