โครงการใหม่ Central Walk ที่สถานี Central และอภิมหาโปรเจ็กตึกสูงค่อมชุมทางรถไฟ

นาง Gladys Berejiklian นายกรัฐมนตรีรัฐนิวเซาท์เวลส์ ภาพนี้น่าจะถ่ายเมื่อครั้งที่เธอเป็นร.มต.การขนส่ง : ภาพจากสำนักข่าว News Corp Australia

24 มี.ค. 2017 สถานีรถไฟฟ้า Central ในนครซิดนีย์จะได้รับการปรับปรุงให้ใหญ่โตอลังการภายใต้ชื่อโครงการ Central Walk เพื่อรองรับกับอภิมหาโครงการสร้างหมู่อาคารสูงค่อมชุมทางรถไฟยาวถึง 3 กิโลเมตร

เมื่อวันพุธที่ 22 มีนาคมที่ผ่านมานาง Gladys Berejiklian นายกรัฐมนตรีรัฐนิวเซาท์เวลส์ได้ประกาศโครงการก่อสร้างจุดเชื่อมต่อและที่พักผู้โดยสาร (concourse) ใต้ดินใหม่ให้กับสถานีรถไฟ Central

โครงการปรับปรุงใหม่นี้เรียกว่า Central Walk เพื่อลดความแออัดในการสัญจรเข้าออกและสับเปลี่ยนรถไฟของผู้โดยสารที่ได้ชื่อว่ามีผู้ใช้มากที่สุดในรัฐน.ซ.ว.หรือในประเทศก็ว่าได้ โดยคาดว่าจะมีผู้โดยสารใช้เพิ่มขึ้นจากปัจจุบันวันละ 250,000 คนเป็น 450,000 คนภายใน 20 ปีข้างหน้า

ภาพจำลองโครงการ Central Walk ที่สถานีรถไฟ Central : ภาพจากสำนักข่าว News Corp Australia ต้นฉบับ Urban Growth NSW

จุดเชื่อมต่อและที่หยุดพักผู้โดยสารนี้จะเชื่อมต่อชานชาลาต่าง ๆ ที่ีใช้อยู่ในปัจจุบัน และเส้นทางรถไฟฟ้ารางเบาสาย South East Light Rail ซึ่งกำลังอยู่ในระหว่างการก่อสร้างและโครงการทางรถไฟสาย Sydney City และ South West Metro มูลค่า 11 พันล้านเหรียญที่คาดว่าจะเปิดใช้บริการในปี 2025

อย่างไรก็ตามนาง Berejiklian ยังไม่เปิดเผยถึงงบประมาณในการสร้างอุโมงค์ Central Walk ขนาดความกว้าง 19 เมตรซึ่งจะถูกฝังอยู่ใต้ดิน และจะเป็นการรองรับโครงการก่อสร้างกลุ่มอาคารสูงสร้างเหนือพื้นที่ดังกล่าวที่จะเกิดขึ้นในอนาคต

โดยเชื่อว่าโครงการ Central Walk จะใช้งบประมาณไม่ต่ำกว่าโครงการ Wynyard Walk เชื่อมต่อระหว่างสถานีรถไฟ Wynyard ไปยัง Barangaroo ที่ใช้งบประมาณทั้งสิ้น 300 ล้านเหรียญ

ภาพจำลองจุดเชื่อมต่อและที่พักผู้โดยสาร (concourse) ของโครงการ Central Walk ที่สถานีรถไฟ Central จะมีความอลังการขนาดน้อง ๆ จุดเชื่อมต่อและที่พักผู้โดยสารของสนามบินนานาชาติ : ภาพจากสำนักข่าว News Corp Australia ต้นฉบับ Urban Growth NSW

การประกาศโครงการ Central Walk ไปพร้อมกับการเปิดเผยโครงการอภิมหาโปรเจ็กที่ทำให้นายทุนต้องน้ำลายหก ด้วยโครงการก่อสร้างกลุ่มอาคารสูงค่อมชุมทางรถไฟมูลค่านับหมื่นล้านเหรียญ ด้วยการสร้างอาคารอพาร์ทเมนท์ที่อยู่อาศัย, อาคารสำนักงานในระดับความสูงต่าง ๆ กันไปจนถึง 20 ชั้นมีความยาว 3 กิโลเมตรตั้งแต่สถานี Central ไปยังย่าน Redfern และย่าน Eveleign*

(*ย่าน Eveleign อยู่ในใจกลางเมือง แต่คนซิดนีย์เองอาจไม่รู้จักเพราะส่วนใหญ่เป็นพื้นที่ของการรถไฟซิดนีย์มีขนาดพื้นที่นับจากสถานี Redfern ไปจดสถานี Macdonaldtown สำหรับสายที่ไปชุมทาง Strathfield และสถานี Erskineville สำหรับสายที่ไปชุมทาง Sydenham ย่านนี้มีผู้อยู่อาศัยเพียง 400 คนเศษเท่านั้น แต่หลังจากโครงการนี้เสร็จสิ้นก็จะกลายเป็นย่านที่มีผู้อยู่อาศัยหนาแน่น)

โครงการอภิมหาโปรเจ็กซึ่งขณะนี้เรียกกันว่า Mid-Town Project หรือ Central to Eveleigh Project โดยยังไม่มีชื่ออย่างเป็นทางการจะเป็นโครงการหนึ่งที่จะเข้ามาแก้ปัญหาที่อยู่อาศัยขาดแคลน และจะสร้างรายได้มหาศาลให้กับรัฐบาลรัฐน.ซ.ว. อีกทั้งสามารถประหยัดเงินในการสร้างสาธารณูปโภคตามแผนขยายเมืองไปยังพื้นที่สำรอง (reserve land) อีกด้วย

อย่างไรก็ตามนาง Berejiklian กล่าวว่าโครงการก่อสร้าง Central to Eveleigh เพิ่งจะเสร็จสิ้นในขั้นการปรึกษาสาธารณะไปเมื่อปีที่แล้ว ยังต้องใช้เวลาอีกยาวนาน แต่กล่าวว่าจะเป็นโครงการสร้างอาคารสูงที่ครอบคลุ่มพื้นที่ตั้งแต่สถานีจอดรถประจำทาง, สถานีรถไฟ Central ค่อมชุมทางรถไฟไปจดสถานี Macdonaldtown และสถานี Erskineville

ภาพจำลองแบบหนึ่งของโครงการสร้างอาคารสูง Mid-Town หรือ Central to Eveleigh เหนือชุมทางรถไฟซิดนีย์ ซึ่งเคยเป็นสุสานฝั่งศพในอดีต : ภาพจากนสพ. The Australian ต้นฉบับ Urban Growth NSW

สำหรับโครงการ Central Walk จะเริ่มก่อสร้างในปี 2018 คาดว่าจะเสร็จสิ้นในปี 2021 โดยการก่อสร้างจะไม่กระทบต่อการบริการรถไฟฟ้าแต่อย่างใด

สำหรับสถานีรถไฟ Central ได้สร้างขึ้นบนสุสานเดิม ถูกใช้งานมาตั้งแต่ปี 1855 โดยสถานีในปัจจุบันมีอายุใช้งานมาแล้ว 110 ปี ประกอบด้วย 27 ชานชาลา ไม่รวมถึงชานชาลา 2 แห่งที่อยู่ใต้ดินที่ไม่เคยเปิดใช้เลย

อาคารและหอนาฬิกาของสถานี Central ซึ่งถือเป็นอาคารเก่าแก่ที่สุดอาคารหนึ่งของออสเตรเลีย : ภาพจากสำนักข่าว News Corp Australia

 

jingjonews.com

jingjonews@hotmail.com

จิงโจ้นิวส์เป็นสื่อออนไลน์มีวัตถุประสงค์เพื่อการเผยแพร่ข่าวสาร, บทความและประชาสัมพันธ์เพื่อชุมชน   โดยปลอดจากการโฆษณาในเชิงพาณิชย์



Categories: ข่าวออสเตรเลีย

Tags: , , , , , , , , ,

Leave a Reply

%d bloggers like this: