คนหูหนวกก่อเหตุสยองเผาทั้งเป็น พนักงานขับรถประจำทางในบริสเบน

นสพ. The Courier Mail ฉบับ 29 ต.ค. 2016 "เหตุน่าสะพรึงกลัวบนสาย 125" พนักงานขับรถบัสถูกจุดไฟเผาทั้งเป็นโดยไม่มีโอกาสหลบหนี

นสพ. The Courier Mail ฉบับ 29 ต.ค. 2016 “เหตุน่าสะพรึงกลัวบนสาย 125” พนักงานขับรถบัสถูกจุดไฟเผาทั้งเป็นโดยไม่มีโอกาสหลบหนี

29 ต.ค. 2016 พนักงานขับรถประจำทางในวัยหนุ่มได้ถูกคนร้ายเผาทั้งเป็นคาพวงมาลัย หลังจากผู้โดยสารคนหนึ่งให้อุปกรณ์ในการวางเพลิงทำการสังหารเขาอย่างไม่ทันตั้งตัว

ผู้เสียชีวิตรายนี้คือนาย Manmeet Shama วัย 29 ปี (สื่อบางสำนักระบุอายุ 25 ปี) เสียชีวิตอย่างอนาถในขณะทำหน้าที่ขับรถประจำทางสาย 125 ผ่านย่าน Moorooka ของนครบริสเบน

สำนักงานตำรวจรัฐควีนสแลนด์ได้ออกแถลงข่าวเมื่อคืนวานนี้ (28 ต.ค. 2016) ว่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเป็นการสุ่มลอบทำร้ายโดยไม่ได้เจาะจงบุคคล และไม่มีส่วนเกี่ยวข้องใด ๆ กับการก่อการร้าย

ผู้เห็นเหตุการณ์กล่าวว่า นาย Shama พนักงานขับรถประจำทางได้หยุดรถอย่างกระทันหันในเวลาประมาณ 9.00 น.ของวันศุกร์ที่ 28 ตุลาคม หลังจากรู้ตัวว่าถูกชายคนหนึ่งต่อมาทราบนามว่านาย Anthony O’Donohue วัย 48 ปีซึ่งเป็นผู้โดยสารเอาน้ำมันเชื้อเพลิงราดตัวเขา เขาดับเครื่องยันต์แล้วพยายามหลบหนีออกทางประตูนิรภัยสำหรับคนขับ แต่สายเกินไปไฟได้ถูกจุดติดน้ำมันก่อนที่เขาจะแตะลูกบิดประตูเสียอีก

นาย O’Donohue ยังคงยืนดูเปลวไฟที่ลุกท่วมตัวนาย Shama ซึ่งติดอยู่ภายในกระจกนิรภัยล้อมรอบที่นั่งคนขับอย่างไม่มีทางหนีไปไหน

ควันไฟจากรถประจำทางสามารถเห็นได้ในระยะไกล : ภาพชั่วคราวจากนสพ. The Courier Mail

ควันไฟจากรถประจำทางสามารถเห็นได้ในระยะไกล : ภาพชั่วคราวจากนสพ. The Courier Mail

ในขณะเดียวกันผู้เห็นเหตุการณ์ที่อยู่ภายนอกรถประจำทางนำโดยพนักงานขับรถแท็กซี่นายหนึ่งได้ช่วยกันถีบประตูด้านข้างรถจนเปิดออก เพื่อช่วยผู้โดยสาร 6 คนที่ยังติดอยู่ด้านหลังรถประจำทางซึ่งตอนนั้นเต็มไปด้วยควันไฟสีดำทั้งคัน

ทั้ง 6 คนและผู้โดยสารที่สามารถหลบออกมาได้ทางประตูหน้าอีก 5 คนได้รับการปฐมพยาบาลจากการสูดควันพิษและบางคนได้รับบาดแผลไฟไหม้เล็กน้อย

นาง Clair Savage ซึ่งเห็นเหตุการณ์กล่าวว่า หนึ่งในผู้ที่ติดอยู่ในรถประจำทางบอกกับเธอว่า ควันไฟได้เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วจนพวกเขาไม่สามารถเห็นกล่องนิรภัยเพื่อเปิดประตูฉุกเฉิน

อย่างไรก็ตามภายในไม่กี่นาทีเจ้าหน้าที่ดับเพลิงได้ดับไฟได้หมด ก่อนที่จะนำตำรวจเข้าไปจับกุมตัวนาย O’Donohue ออกมาจากรถ แต่พวกเขาไม่สามารถช่วยชีวิตนาย Shama ไว้ได้

นาย Aguek Nyok ฮีโร่ในเหตุการณ์ หลังจากช่วยผู้โดยสารติดภายในรถประจำทาง 6 คนออกมา : ภาพจากข่าว 7 News

นาย Aguek Nyok พนักงานขับแท็กซี่ฮีโร่ในเหตุการณ์ หลังจากช่วยผู้โดยสารติดภายในรถประจำทาง 6 คนออกมา : ภาพจากข่าว 7 News

นาย Aguek Nyok พนักงานขับรถแท็กซี่ผู้กลายเป็นฮีโร่ช่วยชีวิตผู้โดยสารที่ติดอยู่บนรถ 6 คนกล่าวว่า ตอนนั้นเข้าเพิ่งจอดรถเพื่อจะไปตัดผม ได้เห็นรถประจำทางมีควันไฟที่ด้านหน้าคนขับ จากนั้นเห็นผู้โดยสารวิ่งลงมาจากรถ โดยมีคนหนึ่งวิ่งออกมามีไฟลุกติดเสื้อด้วย เขามองไปที่รถยังเห็นผู้โดยสารส่วนหนึ่งไปรวมกันอยู่ที่ด้านหลังรถ พวกเขาพยายามจะทุบกระจก เขาจึงตัดสินใจเข้าไปช่วยและเป็นผู้ถีบประตูจนมันสามารถเปิดออก

ตำรวจจากหน่วยคดีระเบิดและฆาตกรรมได้เข้าทำการสอบสวนที่เกิดเหตุเพื่อหาหลักฐานและสาเหตุการฆาตกรรม

นาย Jim Keogh ผู้บังคับการตำรวจพื้นที่บริสเบนใต้กล่าวว่าไฟได้ลุกไหม้อย่างรวดเร็วและรุนแรง ทำให้นาย Shama ไม่มีโอกาสป้องกันตัวเอง เขาได้เสียชีวิตในขณะทำหน้าที่

ส่วนนาย O’Donohue ถูกจับกุมนำตัวไปทำบาดแผลไฟไหม้และตรวจเลือดที่โรงพยาบาล ก่อนนำตัวมาสอบปากคำที่วอชเฮาส์ ซึ่งเขาได้ต่อว่าถึงเหตุที่ตำรวจจับกุมเขา จนกระทั่งในตอนค่ำของวันศุกร์ที่ 28 ตุลาคมตำรวจจึงตั้งข้อหาวางเพลิง, ฆ่าคนตายและพยายามฆ่าอีก 11 คดี

อย่างไรก็ตามนาย Adam Magill นักกฎหมายผู้ทำหน้าที่ให้กับนาย O’Donohue กล่าวว่า ลูกความของเขาแท้จริงเป็นคนหูหนวก (แต่พูดได้) และสงสัยว่าจะมีอาการทางจิต เขามีความจำเป็นต้องเข้าประเมินทางสภาพจิตใจ

สำหรับนาย Shama เป็นผู้อพยพมาจากประเทศอินเดีย ชุมชนชาวอินเดียในนครบริสเบนและเทศบาล Brisbane City ได้ร่วมกันจัดพิธีไว้อาลัยเขา ณ จุดเกิดเหตุในเวลา 17.30 น. ของวันนี้ (29 ตุลาคม)

เจ้าหน้าที่นำผ่าสีเขียวมาปิดกระจกด้านหน้ารถประจำทางที่เกิดอุบัติเหตุ : : ภาพชั่วคราวจากนสพ. The Courier Mail

เจ้าหน้าที่นำผ่าสีเขียวมาปิดกระจกด้านหน้ารถประจำทางที่เกิดอุบัติเหตุ : : ภาพชั่วคราวจากนสพ. The Courier Mail

 

jingjonews.com

jingjonews@hotmail.com

จิงโจ้นิวส์เป็นสื่อออนไลน์มีวัตุถุประสงค์เพื่อการเผยแพร่ข่าวสาร, บทความและประชาสัมพันธ์เพื่อชุมชน   โดยปลอดจากการโฆษณาในเชิงพาณิชย์



Categories: ข่าวออสเตรเลีย

Tags: , , , , , , , , ,

Leave a Reply

%d bloggers like this: