ตำรวจรื้อคดีเวียนเทียนเบิกเงิน ATM 6,797 ครั้งใหญ่ได้เงินไป $6.3 ล้าน

นาย Quyen Tu Au ผู้ขโมยบัตร ATM ของเพื่อนนักเรียนแลกเปลี่ยนก่อนถูกนำไปเวียนเทียนเบิกเงิน : ภาพจากนสพ. Advertiser ต้นฉบับตำรวจรัฐเซาท์ออสเตรเลีย

นาย Quyen Tu Au ผู้ขโมยบัตร ATM ของเพื่อนนักเรียนแลกเปลี่ยนก่อนถูกนำไปเวียนเทียนเบิกเงิน : ภาพจากนสพ. Advertiser ต้นฉบับตำรวจรัฐเซาท์ออสเตรเลีย

24 ต.ค. 2016 ตำรวจรัฐเซาท์ออสเตรเลียได้รื้อฟื้นคดีเย็นหรือ cold case เพื่อสืบหาการหายตัวไปของนาย Quyen Tu Au ผู้เป็นต้นเหตุของการเวียนเทียนเบิกเงินครั้งใหญ่จำนวนกว่า 6.3 ล้านเหรียญ ซึ่งเชื่อว่าเขาถูกสังหารและนำศพไปซ่อน

เหตุการณ์เวียนเทียนเบิกเงินแบบมาราธอนเริ่มจากนาย Au ได้ขโมยบัตร ATM และหมายเลขรหัสของเพื่อนซึ่งเป็นนักเรียนแลกเปลี่ยนจากฮ่องกงมาเรียนที่นครบริสเบนในวันที่ 19 พฤษภาคมปี 2000 ก่อนเผ่นกลับมายังถิ่นที่อยู่ในนครแอดิเลด

ภายในสามเดือนแรกเขาได้ใช้บัตรเบิกเงินจากตู้ ATM ของธนาคาร NAB ทั่วนครแอดิเลดได้เป็นเงินจำนวน 396,000 เหรียญ

อย่างไรก็ตามนาย Au ได้หายตัวไปอย่างไร้ร่องรอยในวันที่ 15 สิงหาคม 2000 กล้อง CCTV จับภาพเขาใช้บัตร ATM ครั้งสุดท้ายได้ในเวลา 12.35 น. ที่ Port Adelaide ในวันนั้นเขาได้ถอนเงิน 12 ครั้งรวมเป็นเงินทั้งสิ้น 6,000 เหรียญ

หน่วยตำรวจคดีอาชญากรรมใหญ่ (MCIB) เชื่อว่านาย Au ได้ถูกสังหารแล้วนำศพไปทำลายหรือฝังไว้ในที่ลึกลับ โดยแรงจูงใจในการสังหารน่าจะมาจากบัตร ATM ที่เขาขโมยมาจากเพื่อนนักเรียนแลกเปลี่ยน

จากการสืบสวนพบว่านาย Au ได้เบิกเงินรวมทั้งสิ้น 87 วันตกเป็นเงินเฉลียวันละ 4,550 เหรียญ

แต่หลังจากนั้นในวันที่ 16 สิงหาคม 2000 บัตร ATM ได้เปลี่ยนมือมาอยู่ที่นาย An Man Tran เพื่อนของนาย Au เขาได้ใช้บัตร ATM ตระเวนถอนเงินอีก 65 วัน เฉลี่ยวันละ 55 ครั้ง รวมเป็นเงิน 5,930,300 หรือเฉลี่ยวันละ 91,235 เหรียญ

ภาพนาย An Man Tran จากกล้อง CCTV : ภาพจากนสพ. Advertiser ต้นฉบับตำรวจรัฐเซาท์ออสเตรเลีย

ภาพนาย An Man Tran จากกล้อง CCTV : ภาพจากนสพ. Advertiser ต้นฉบับตำรวจรัฐเซาท์ออสเตรเลีย

หลักฐานจากกล้อง CCTV พบว่านาย Tran ได้ใช้บัตรเบิกเงินในระหว่างวันที่ 16 สิงหาคม 2000 ถึงวันที่ 6 ตุลาคม 2000

จากนั้นนาย Tran และนาง Thahn Hau ภรรยาได้เดินทางไปเยี่ยมบ้านเกิดในประเทศเวียดนามในวันที่ 6 ตุลาคม 2000 โดยทิ้งบัตร ATM ไว้กับนาย An Thanh Tran น้องชายของเขา ผู้ซึ่งใช้บัตร ATM ต่อมาอีก 12 วันโดยครั้งสุดท้ายเบิกเงินจากตู้ ATM ที่ศูนย์การค้า Westfield Tea Tree Plaza ย่าน Modbury นครแอดิเลดในวันที่ 19 ตุลาคม 2000 เมื่อบัตรได้ถูกระงับการใช้ หลังจากธนาคาร NAB พบความผิดพลาดจากระบบคอมพิวเตอร์จนปล่อยให้มีการเบิกเงินอย่างผิดกฎหมายหลายพันครั้ง

จากการตรวจสอบพบว่า มีการใช้บัตรเบิกเงินอย่างไม่ชอบด้วยกฎหมาย 6,797 ครั้ง รวมเป็นเงิน 6,326,320 เหรียญ (หรือประมาณ 180 ล้านบาทในสมัยนั้น) โดยการเบิกแต่ละครั้งต่ำกว่าจำนวนขั้นสูงสุดของการเบิกที่ธนาคารกำหนดไว้ในแต่ละวัน

ในจำนวนการเบิกเงินกว่า 6 พันครังนี้ กล้อง CCTV สามารถจับภาพผู้ทำการถอนเงินได้กว่า 1,000 ครั้ง โดยมีผู้เบิกรายย่อยนอกเหนือจากนาย Au, นาย Tan ผู้พี่และนาย Tan ผู้น้องอีกจำนวนหนึ่ง

ส่วนสาเหตุที่ปล่อยให้มีการถอนเงินครั้งมโหฬารเกิดจากความผิดพลาดในกระบวนการเชื่อมต่อคอมพิวเตอร์ระหว่างธนาคาร Bank of East Asia ต้นตอของบัญชีเงินฝาก, Visa และธนาคาร NAB แต่ผู้เป็นบิดาของนักเรียนแลกเปลี่ยนได้แจ้งให้ธนาคาร Bank of East Asia รับทราบถึงบัตร ATM ได้หายไปตั้งแต่สัปดาห์แรกที่นาย Au ขโมยไปจากบุตรชายของเขา แต่กลับเป็นความผิดพลาดของธนาคารที่ไม่มีการติดตามผลของมัน

หลังจากธนาคาร NAB ตรวจพบความผิดพลาดโดยบังเอิญจึงได้เข้าแจ้งความ จากนั้นตำรวจได้ไปสอบปากคำนักเรียนแลกเปลี่ยนชาวฮ่องกง และได้เริ่มตามหาตัวนาย Au และเพื่อน ๆ ของเขา

จนกระทั่งในวันที่ 10 พฤศจิกายน 2000 จึงทำการบุกเข้าตรวจค้นบ้านของนาย An Man Tran ที่ย่าน Kilburn ทางเหนือตอนในของนครแอดิเลด

ตำรวจได้พบใบขับขี่และเอกสารส่วนบุคคลของนาย Au ที่บ้านหลังนั้น และพบเงินสดจำนวน 4.07 ล้านเหรียญซุกซ่อนอยู่ใต้แผ่นกระดานปูพื้นห้องนอนห้องหนึ่ง

ในวันนั้นนั้นตำรวจได้ทำการเข้าตรวจค้นบ้านอีก 16 หลังของกลุ่มที่ร่วมเวียนเทียนเบิกเงิน พบเงินสดอีกจำนวนหนึ่งซ่อนไว้ภายในบ้านหลายหลัง และได้จับกุมผู้ต้องหาจำนวน 5 คนในวันนั้น

ภาพเงินสดในกล่องโลหะและในถุงพลาสติกที่พบซุกซ่อนอยู่ใต้พื้นห้องนอนในบ้านย่าน Kilburn : ภาพจากนสพ. Advertiser ต้นฉบับตำรวจรัฐเซาท์ออสเตรเลีย

ภาพเงินสดในกล่องโลหะและในถุงพลาสติกที่พบซุกซ่อนอยู่ใต้พื้นห้องนอนในบ้านย่าน Kilburn : ภาพจากนสพ. Advertiser ต้นฉบับตำรวจรัฐเซาท์ออสเตรเลีย

สารวัตรนักสืบ Greg Hutchins หัวหน้าหน่วย MCIB กล่าวว่า ตำรวจเป็นผู้ทำรายงานให้นาย Au เป็นบุคคลหายในวันที่ 14 พฤษภาคม 2002 และต่อมาในเดือนกันยายน 2002 ได้ออกมาแถลงถึงหลักฐานที่ตำรวจรวบรวมได้เชื่อว่าเขาได้ถูกฆาตกรรมและศพไปทำลายหรือฝังในที่ยังหาไม่พบ

ตำรวจได้นำอุปกรณ์เรดาร์ตรวจใต้พื้นดินไปตรวจบริเวณบ้านต้องสงสัยรวมถึงบ้านของพี่น้องตระกูล Tran แต่ไม่พบร่องรอยของซากสิ่งมีชีวิตฝั่งอยู่ใต้พื้นดิน

หลักฐานในช่วงท้าย ๆ พบว่านาย Au ได้ซื้อรถมิตซูบิชิ Verada จากตัวแทนจำหน่ายในย่านแอดิเลดเหนือในราคา 18,000 เหรียญโดยจดทะเบียนในชื่อของเขา แต่ในวันที่ 18 สิงหาคม 2000 หรือสามวันหลังจากเขาใช้บัตร ATM ครั้งสุดท้ายเขาได้โอนรถให้กับเพื่อนสนิทคนหนึ่ง แล้วต่อมาในวันที่ 1 กันยายน 2000 เพื่อนสนิทรายนี้ได้ทำการซื้อขายและแลกเปลี่ยนรถคันดังกล่าวมาเป็นรถโตโยต้า LandCrusier คันใหม่

รถทั้งสองคันถูกตำรวจยึดไปตรวจสอบทางนิติวิทยาศาสตร์ แต่ไม่พบหลักฐานถึงความผิดปกติ

ตำรวจพบว่า นาย Au ได้พักอาศัยในที่อยู่หลายแห่ง รวมถึงบ้านของนาย Tran ผู้พี่ที่ย่าน Kilburn ที่พบเงินสด 4.07 ล้านเหรียญ นอกจากนั้นเขายังอาศัยอยู่ที่อพาร์ทเมนท์ย่าน Rosewater ที่ซึ่งเขาทิ้งเสื้อผ้าและทีวีไว้ กล้อง CCTV แสดงให้เห็นว่าเขามาที่นี่ครั้งสุดท้ายในวันที่ 5 สิงหาคม 2000 หรือ 10 วันก่อนที่เขาจะหายตัวไป

ภาพเงินสดในกล่องโลหะที่พบในบ้านย่าน Kilburn : ภาพจากนสพ. Advertiser ต้นฉบับตำรวจรัฐเซาท์ออสเตรเลีย

ภาพเงินสดในกล่องโลหะที่พบในบ้านย่าน Kilburn : ภาพจากนสพ. Advertiser ต้นฉบับตำรวจรัฐเซาท์ออสเตรเลีย

จ่าตำรวจนักสืบ Shaun Osborn แห่งคดีเย็นกล่าวว่า ตำรวจไม่ทราบว่าเงินอีกจำนวน 1.8 ล้านเหรียญที่หายไปอยู่กับใคร บุคคลที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการเวียนเทียนเบิกเงินต่างใช้ชีวิตอย่างคนธรรมดานับจากนั้นมา โดยไม่มีใครแสดงถึงความร่ำรวย

ตำรวจเคยเข้าตรวจค้นบ้านของนาย An Thanh Tran น้องชายของนาย An Man Tran ก็ไม่พบว่ามีเงินสดซุกซ่อน นอกจากตำรวจยึดเงินที่นาย Tran นำไปฝากธนาคารจำนวน 250,000 เหรียญ

ตำรวจตั้งข้อสงสัยว่าเงินจำนวนดังกล่าว อาจถูกบรรจุใส่กระเป๋าเดินทางขึ้นเครื่องไปเวียดนาม เมื่อครั้งนาย Tran ผู้พี่และภรรยาไปเยือนประเทศบ้านเกิด

แม้คดีนี้ตำรวจจะตั้งข้อหาเอาผิดกับผู้ร่วมก่อเหตุจำนวน 5 คน แต่มีนาย An Man Tran เท่านั้นที่ถูกศาลตัดสินจำคุกไปได้ 4 ปี จากนั้นเขาได้ใช้สิทธิขอปล่อยตัวอย่างมีทัณฑ์บนออกจากคุกในปี 2006

จ่านักสืบ Osborn กล่าวว่าคดีการหายตัวไปของนาย Au ยังเปิดอยู่ พร้อมกับสำนักงานตำรวจรัฐเซาท์ออสเตรเลียเสนอรางวัล 200,000 เหรียญแกผู้ให้ข้อมูลถึงที่ซ่อนศพของนาย Quyen Tu Au โดยสามารถให้เบาะแสได้ที่ Crime Stoppers หมายเลข 1800 333 000

 

jingjonews.com

jingjonews@hotmail.com

จิงโจ้นิวส์เป็นสื่อออนไลน์มีวัตุถุประสงค์เพื่อการเผยแพร่ข่าวสาร, บทความและประชาสัมพันธ์เพื่อชุมชน   โดยปลอดจากการโฆษณาในเชิงพาณิชย์



Categories: ข่าวออสเตรเลีย

Tags: , , , , , , , , , , ,

Leave a Reply

%d bloggers like this: