5 สิ่งที่คุณควรทำก่อนเช่าที่อยู่อาศัย ในประเทศออสเตรเลีย (บทความ)

ผู้ต้องการเช่าบ้านกำลัง inspection บ้านให้เช่าในย่าน Newtown : ภาพจาก news.com.au

ผู้ต้องการเช่าบ้านกำลัง inspection บ้านให้เช่าในย่าน Newtown : ภาพจาก news.com.au

11 ก.ค. 2016 ประชาชนในออสเตรเลียส่วนใหญ่จะต้องเช่าที่อยู่อาศัยในช่วงใดช่วงหนึ่งของชีวิต ไม่ว่าจะเป็นการย้ายออกจากบ้านบิดามารดาเมื่อเข้าสู่วัยหนุ่มสาว, หรือต้องไปทำงานในต่างเมือง หรือในระหว่างสร้างครอบครัวที่ยังไม่มีความพร้อมพอที่จะมีบ้านเป็นของตนเอง

ไม่ว่าจะด้วยเหตุผลใด ผู้เช่าที่อยู่อาศัยควรมีบัญชีลำดับความสำคัญที่ผู้เช่าจะต้องทำก่อนที่จะตัดสินใจลงนามในสัญญาเช่า

ต่อไปนี้เป็นรายการที่สมควรตรวจเช็ค 5 จุด ซึ่งถ้าคุณเตรียมมันไว้ก่อนลงนามในสัญญาเช่า มันอาจจะเป็นรางวัลให้กับการใช้ชีวิตช่วงหนึ่งของคุณ และมันอาจทำให้คุณอยู่ห่างไกลความกดดันใด ๆ จากการเช่าที่อย่อาศัยดังนี้

  1. ทำการสำรวจขั้นต้น

เริ่มจากคำถามง่าย ๆ คือ “คุณต้องการอยู่ที่ใด?”

แต่ความต้องการนั้นต้องมีขอบเขตจำกัด คือต้องดูสารรูปและแก่นแท้ของตัวเอง ไม่ใช่ต้องการเช่าบ้านริมอ่าวซิดนีย์ แต่รายได้ทั้งปียังไม่พอเช่าอยู่อาศัยได้หนึ่งสัปดาห์ อย่างนี้เขาเรียกกว่า “ไม่เจียมกะลาหัว”

คุณมีสิทธิเลือกเช่าที่อยู่อาศัยได้อย่างมากมายตราบใดที่คุณมีกำลังทรัพย์พอที่จะจ่ายค่าเช่า หากมีกำลังทรัพย์จำกัดก็ต้องใช้เวลาเสาะหาที่พักที่จะพออยู่ได้ในระยะยาวโดยไม่ผิดสัญญาเช่า

สถานที่หนึ่งที่ชาวออสเตรเลียไม่นิยมอยู่อาศัยคือพื้นที่ที่ได้รับผลกระทบต่อเสียงดังจากเครื่องบินขึ้นลง แม้ว่ามันจะเป็นบ้านหรืออพาร์ทเมนท์ระดับเกรดเอก็ตาม   แต่ถ้าคุณเป็นคนชอบเสียบหูฟังเพลงตลอดทั้งชาติ ก็อาจเป็นโอกาสดี เพราะค่าเช่าที่อยู่อาศัยประเภทนี้จะถูกมาก

หากคุณเป็นเช่นสามัญชนทั่วไป สถานที่อยู่ควรเป็นที่ชอบส่วนบุคคล บ้างคนอาจชอบอยู่ใกล้ตัวเมืองเพื่อสามารถเดินไปยังย่านบันเทิง, ร้านค้าและร้านอาหาร แต่บางคนอาจจะชอบอยู่ติดสวนสาธารณะ, บางคนชอบอยู่ติดทะเลหรือบนภูเขา, บางคนต้องการที่พักใกล้ที่ทำงาน, ส่วนครอบครัวที่มีบุตรในวัยเรียนก็อาจจะเลือกบ้านเช่าที่ใกล้โรงเรียนของรัฐที่มีชื่อเสียง เพื่อเป็นหลักประกันว่าบุตรของพวกเขาจะได้เรียนในโรงเรียนที่มีชื่อเสียง

ส่วนผู้ที่ต้องการเช่าอยู่ด้วยตัวเองไม่ว่าจะอยู่ในยูนิตตามอพาร์ทเมนท์หรือร่วมแชร์บ้านกับคนอื่นที่เป็นกลุ่มอายุเดียวกัน หรือมีความสนใจในเรื่องเดียวกัน   ก็ควรตรวจตราให้แน่นอนเสียก่อน เพื่อคุณจะสามารถเช่าอยู่กับคนอื่นได้อย่างสงบสุข

  1. ก่อนลงนามสัญญา

เมื่อพบที่อยู่ในใจว่าเหมาะกับคุณแล้ว ขั้นต่อไปก็คือการตรวจสอบสถานที่หรือ “inspection” ซึ่งมันมีสองสามเรื่องที่จะต้องเคลียร์กันก่อนที่จะทำข้อตกลง

คือตรวจแรงดันของน้ำประปา, ลองกดน้ำชักโครก และฝักบัวอาบน้ำ ถ้าน้ำไหลอ่อนก็ต้องบอกแลนด์ลอร์ดทำการซ่อมให้แล้วเสร็จก่อนที่คุณจะย้ายเข้าไปอยู่ ถ้าสถานที่เช่ามีอุปกรณ์ติดบ้านเช่นเครื่องซักผ้าและตู้เย็นก็ต้องตรวจสอบว่ามันยังใช้งานได้ดีหรือไม่

และถ้าตัวบ้านมีสวนและสนามหญ้ารอบบ้าน จะต้องตกลงกันก่อนว่า ใครเป็นผู้รับผิดชอบในการดูแล

  1. พิจารณาด้านความปลอดภัย

ถ้าคุณย้ายเข้าไปอยู่ในบ้านที่แชร์อยู่รวมกัน ต้องสอบถามให้แน่ใจว่ามีกุญแจล็อคประตูหรือไม่ หากไม่มีจะอนุญาตให้ติดตั้งกุญแจประตูหรือไม่ และใครเป็นคนจ่ายค่าติดตั้ง

นอกจากห้องนอนส่วนตัวแล้ว มีส่วนอื่นของบ้านที่เป็นส่วนกลาง รวมถึงที่เก็บของส่วนตัว   และที่สำคัญสำหรับคนมีรถยนต์ก็คือมีที่จอดรถริมถนนหน้าบ้านสามารถจอดได้ตลอด 24 ชั่วโมงหรือจำกัดเวลา คุณจะมีปัญหาทันทีหากคุณเช่าบ้านแล้วพบว่าไม่มีที่จอดรถ

ต่อมาก็คือเนื้อหาในสัญญาอนุญาตให้คุณมีสัตว์เลี้ยงได้ไหม? อย่าทำพลาดด้วยการลงนามในสัญญาโดยไม่เช็คเสียก่อน หากคุณต้องนำแมวหรือหมาย้ายเข้ามาอยู่ด้วย   และส่วนผู้ที่ไม่ชอบสัตว์เลี้ยงก็ต้องดูว่า บ้านที่แชร์อยู่อาศัยมีแมวหรือหมาเป็นสมาชิกร่วมบ้านหรือไม่ เพราะบ้านที่มีสัตว์เลี้ยงโดยเฉพาะสุนัข เวลาเดินเข้าไปจมูกจะสัมผัสถึงกลิ่นเหม็นอับจริง ๆ ครับ #และประการสุดท้ายก่อนลงนามในสัญญา ควรตรวจดูด้วยว่า หากคุณทนอยู่ไม่ไหว หรือมีสถานการณ์เปลี่ยนแปลง ทำให้คุณต้องการฉีกสัญญา (ศัพท์วงการฟุตบอล) ต้องแน่ใจว่าคุณจะไม่โดนปรับอย่างหนัก

4. ทำบัญชีรายการสิ่งของ

คุณและแลนด์ลอร์ดของคุณควรที่จะทำข้อตกลงในสภาพของสิ่งของและสภาพที่อยู่อาศัยก่อนที่จะย้ายเข้าไปอยู่ เพราะเมื่อคุณย้ายออกจะได้มีการประเมินอย่างยุติธรรมว่าคุณควรจะได้เงินวางประกัน (bond) คืนหรือไม่

ตรวจดูให้แน่ใจว่าทุกอย่างอยู่ในสภาพสะอาด สัญญาเช่าส่วนใหญ่จะมาพร้อมกับบัญชีรายการสิ่งของเพื่อทำการตรวจเช็คและคุณจะต้องลงนามก่อนย้ายออก

ดังนั้นก่อนที่คุณจะย้ายเข้า อย่าทำเหนียมอาย คุณควรเป็นฝ่ายรุก ในการขอให้แลนด์ลอร์ดแก้ไขและทำความสะอาดก่อนที่คุณจะย้ายเขา และถ้าเป็นไปได้คุณควรทำบัญชีรายการสิ่งของของคุณเองและขอให้แลนด์ลอร์ดเป็นฝ่ายลงนาม

ถือเป็นสิ่งจำเป็นที่คุณควรทำการบันทึกถึงรายการเสียหาย, ของที่ขาดหาย, พรมที่มีรอยเลอะเทอะเปรอะเปื้อน, หน้าต่างมีรอยร้าว และอื่น ๆ ตามสภาพก่อนที่คุณจะย้ายเข้า เพื่อไม่ให้เกิดปัญหาความขัดแย้งเมื่อถึงคราวที่คุณจะต้องย้ายออก

อันนี้ถือเป็นแนวความคิดที่ดีในการถ่ายภาพพื้นที่เช่าโดยรอบ, รวมถึงสวนรอบบ้าน เพราะมันสามารถเป็นหลักฐานยืนยันเมื่อสัญญาเช่าสิ้นสุดลง

5. หลีกเลี่ยงเหตุการณ์ช็อกทางการเงิน

เมื่อคุณแฮปปี้กับการเช่าที่อยู่อาศัยของคุณ เพราะอยู่ในทำเลที่คุณปรารถนา, อัตราค่าเช่าที่พอใจ, คุณเข้ากันได้กับผู้ร่วมอยู่อาศัย และมีเพื่อนบ้านที่ดี

แต่ท้ายที่สุดที่จะต้องไม่ลืมก็คือเรื่องของ “การเงิน” คุณควรจะรู้ถึงนโยาบการขึ้นค่าเช่าในอนาคต เพื่อหลีกเลี่ยงการเผชิญกับเหตุการณ์ช็อก เมื่อสัญญาณเช่าครบ 6 เดือนแล้วพบว่าแลนด์ลอร์ดขอเพิ่มค่าเช่าแบบมหาโหด เพราะโดนกันมานักต่อนักแล้วครับ….

 

หมายเหตุ ๑ ข่าววันที่ 11 กรกฎาคม มีแต่ข่าวเลือกตั้งใหญ่และข่าวการเมืองอื่น ๆ จิงโจ้นิวส์จึงขอกลับไปเอาบทความ “5 สิ่งที่คุณควรทำก่อนเช่าที่อยู่อาศัยในออสเตรเลีย” ในวันที่ 22 มิถุนายน 2016 จากหนังสือพิมพ์ the Courier Mail นำมาเรียบเรียงใหม่เพื่อนำเสนอแทน

หมายเหตุ ๒ จิงโจ้นิวส์ยังไม่สามารถโพสต์ข่าวและบทความได้โดยตรง ต้องอาศัยโพสต์ผ่านระบบแมนนวล  ซึ่งเป็นเรื่องปกติของโปรแกรม wordpress แต่ขณะนี้สามารถใช้ edit ได้แล้ว จึงเรียนมาเพื่อทราบครับ

jingjonews.com

jingjonews@hotmail.com

จิงโจ้นิวส์เป็นสื่อออนไลน์มีวัตุถุประสงค์เพื่อการเผยแพร่ข่าวสาร, บทความและประชาสัมพันธ์เพื่อชุมชน   โดยปลอดจากการโฆษณาในเชิงพาณิชย์



Categories: ข่าวออสเตรเลีย, บทความทั่วไป

Tags: , , , , ,

Leave a Reply

%d