
นาย Fred และนาง Vanidda Pattison ยังหวังที่จะเห็นน้องบัง-สิริยากร ศิริบูรณ์กลับบ้านอย่างมีชีวิต : ภาพจากนสพ. Herald Sun
5 มิ.ย. 2016 เมื่อห้าปีที่ผ่านมาน้องบังหรือด.ญ. Siriyakorn Siriboon (สิริยากร ศิริบูรณ์ หรือศิริบูลย์) อายุ 13 ปีในขณะนั้นได้เดินออกจากบ้านย่าน Boronia ในนครเมลเบิร์นเพื่อไปโรงเรียนที่ห่างจากบ้านไม่กี่นาที เธอได้หายตัวไประหว่างทางอย่างไร้ร่องรอย
ถึงวันนี้นาง Vanidda Pattison (น่าจะมีชื่อไทยว่า “วนิดา” หรือ “วนิดดา”) มารดาและนาย Fred Pattison พ่อเลี้ยงยังหวังว่า บุตรสาวของพวกเขาจะกลับมาบ้านในวันใดวันหนึ่งอย่างมีชีวิต
ความโศกเศร้าครั้งนี้ใหญ่หลวงนักถึงกับทำให้นาง Vanidda ไม่สามารถทนอยู่ที่บ้านหลังนั้นได้อีกต่อไป เธอได้ย้ายกลับไปอยู่บ้านเกิดที่ประเทศไทย และเมื่อไม่นานมานี้เธอเพิ่งเดินทางกลับมาเยี่ยมบ้านที่นครเมลเบิร์นเพื่อร่วมงานรับปริญญาของบุตรสาวคนโตวัย 25 ปี
ในวันครบรอบ 5 ปีจากการหายตัวไปของน้องบัง สมาชิกของชุมชนย่าน Boronia ได้ร่วมกันจัดพิธีรำลึกวันครบรอบการหายตัวไป ด้วยการชุมนุมจุดธูปและเทียนจนสื่อฯระบุว่าราวกับอยู่ในวัดไทย
ผนวกกับนักเรียนโรงเรียน Boronia K-12 College (โรงเรียนนี้ก่อตั้งในปี 2012 จากการรวมตัวกันของโรงเรียนอนุบาล Allandale Kindergarten, โรงเรียนประถม Boronia Primary School และโรงเรียนมัธยม Boronia Heights College merged เข้าด้วยกัน) ได้ร่วมกันจัดพิธีรำลึกถึงการหายตัวไปของน้องบังผู้เป็นเพื่อนร่วมโรงเรียน ซึ่งหากไม่มีเหตุการณ์วันที่ 2 มิถุนายน 2011 ขณะนี้เธอคงเป็นนักเรียนอยู่ชั้นที่ 12 ของโรงเรียน Boronia K-12 College พอดี
นาย David Rose ผู้อำนวยการโรงเรียนกล่าวว่า เด็กนักเรียนได้ทำแผ่นที่ระลึกติดตั้งไว้ที่หน้าต้นไม้ และจะเปิดไฟในเวลากลางคืน เพื่อเป็นแสงสว่างนำทางให้น้องบังกลับบ้าน
เขากล่าวว่าครูและนักเรียนจะร่วมกันจัดพีธีรำลึกถึงในวันครบรอบการหายไปของน้องบังในสัปดาห์นี้
สำหรับไทม์ไลน์ของการหายตัวไปของน้องบัง-สิริยากรพอสรุปได้ดังนี้
วันที่ 2 มิถุนายน 2011: เวลา 8.20 น. น้องบังได้กล่าวลาบิดามารดาออกจากบ้านที่ถนน Elsie St. ย่าน Boronia เพื่อไปเรียนหนังสือที่โรงเรียน Boronia Heights College ซึ่งใช้เวลาเดินประมาณ 10 นาที
เวลา 8.25 น. มีพยานมองจากหน้าต่างบ้านเห็นน้องบังเดินผ่านไปโรงเรียนในชุดเครื่องแบบนักเรียน ซึ่งต่อมาตำรวจยืนยันว่าเป็นความจริงและเป็นครั้งสุดท้ายที่มีผู้พบเห็นน้องบัง
เวลา 16.30 น. บิดามารดาเข้าแจ้งความหลังจากบุตรสาวไม่กลับบ้าน และพบว่าไม่ได้ไปโรงเรียนในวันนั้น และไม่สามารถติดต่อได้ ตำรวจและอาสาสมัครเริ่มออกติดตามค้นหา
วันที่ 3 มิถุนายน 2011: เวลา 15.00 น. มีผู้พบเห็นนาย Pattison ไปติดป้ายประกาศคนหายภายในและรอบย่านการค้า Boronia Mall
เวลา 16.00 น. สื่อหนังสือพิมพ์ท้องถิ่น Knox Leader เป็นผู้เปิดประเด็นข่าวการหายตัวไปของน้องบังทางออนไลน์เป็นรายแรก ไม่นานข่าวได้แพร่ไปสู่สื่อหนังสือพิมพ์และทีวี
วันที่ 21 มิถุนายน 2011: ตำรวจหน่วยสืบสวนคดีฆาตกรรมเปิดเผยว่าได้ทำการสืบสวนและวิเคราะห์เฟสบุ๊คต้องสงสัยเกี่ยวกับคดีของน้องบังไปแล้วจำนวนหลายร้อยเว็บไซท์ สอบปากคำประชาชนในย่าน Boronia ประมาณ 500 คน เจ้าหน้าที่บรรเทาเหตุฉุกเฉิน (SES) และอาสาสมัครได้ทำการปูพรมค้นหาในรัศมีรอบโรงเรียน Boronia Heights College แต่การทำคดียังมืดแปดด้าน
วันที่ 28 มิถุนายน 2011: หลังจาก 3 สัปดาห์โดยไม่มีคำตอบใด ๆ ตำรวจเชื่อว่าน้องบังมีโอกาสสูงที่จะถูกลักพาตัวไป ในช่วงนี้มีพยานเป็นเด็กนักเรียนหญิงอ้างว่า เธอเห็นคนร้ายสวมหน้ากาก ได้ลักพาน้องบังขึ้นรถไป ซึ่งกลายเป็นข่าวใหญ่อยู่ระยะหนึ่ง
วันที่ 12 กรกฎาคม 2011: เด็กหญิงวัย 11 ปี ที่อ้างว่าเห็นน้องบังถูกชายสวมหน้ากากลักพาตัวไปยอมรับสารภาพว่าเธอแต่งเรื่องขึ้นมา
วันที่ 1 พฤศจิกายน 2011: สำนักงานตำรวจรัฐวิกตอเรียได้ประกาศจัดตั้งหน่วยปฏิบัติการ Taskforce Puma เพื่อทำคดีการหายตัวไปของน้องบัง
วันที่ 3 กรกฎาคม 2012: ตำรวจเปิดเผยว่าน้องบังอาจถูกลักพาโดยคนในท้องถิ่น (เป็นช่วงที่มีคนเข้ามอบตัว แต่ยังอยู่ในระหว่างการสอบปากคำ และไม่เปิดเผยให้สื่อมวลชนทราบ)
วันที่ 13 สิงหาคม 2013: ตำรวจ, เจ้าหน้าที่ SES และอาสาสมัครได้เข้าตรวจค้นพื้นที่ Old Joes Creek Retarding Basin ทุกตารางเซนต์ หลังจากชายท้องถิ่นวัย 24 ปีเข้ามอบตัวว่าเขาเป็นผู้สังหารน้องบังโดยอุบัติเหตุ แต่กลัวความผิด จึงนำศพของน้องบังมาทิ้งลำธารที่นี่ (เป็นช้อมูลจากชายวัย 24 ปีที่เข้ามอบตัว แต่ตำรวจมิได้เปิดเผยให้สื่อมวลชนรับรู้) แต่การค้นหาแบบพลิกแผ่นดินก็ไม่พบศพหรือโครงกระดูกและเงื่อนงำใด ๆ
วันที่ 5 พฤศจิกายน 2013: ตำรวจยุบหน่วยปฏิบัติการ Taskforce Puma แล้วโอนแฟ้มคดีคืนให้หน่วยตำรวจสืบสวนคดีฆาตกรรม
วันที่ 17 ธันวาคม 2013: ตำรวจได้เปิดเผยถึงการปฏิบัติงานที่ผ่านมาว่าได้เคยจับกุมชายวัย 24 ปีคนหนึ่ง 2 ครั้ง ชายคนนี้อ้างว่าเขาเป็นผู้ฆ่าน้องบังโดยอุบัติเหตุทางรถยนต์ แต่จากการสอบปากคำและตามไปเก็บหลักฐานแล้วตำรวจได้ตัดสินใจไม่ตั้งข้อหาและปล่อยเขาไปเพราะขาดหลักฐานสนับสนุน ในช่วงนี้ตำรวจได้ตรวจเช็คและติดตามบุคคลที่มีประวัติความผิดทางเพศในย่าน Boronia และพื้นที่โดยรอบหลายร้อยคน และทำการเคาะประตูสอบถามข้อมูลผู้อยู่อาศัยในพื้นที่จำนวนกว่า 1,000 หลัง
วันที่ กุมภาพันธ์ 2014: ตำรวจประกาศให้รางวัลแก่ผู้ให้ข้อมูลการหายตัวไปของน้องบัง 1 ล้านเหรียญเป็นค่านำจับคนร้ายจนถึงที่สุด ถือเป็นการให้รางวัลมูลค่าที่สูงที่สุดของรัฐวิกตอเรีย ก่อนที่จะให้รางวัลผู้แจ้งเบาะแสนำจับ Mr Cruel ผู้สังหารด.ญ. Karmein Chan บุตรสาวลูกเจ้าของร้านอาหารจีนในปี 1991จำนวน 1 ล้านเหรียญเป็นรายที่สองเมื่อเดือนเมษายน 2016 ที่ผ่านมา
วันที่ 10 มิถุนายน 2014: สามปีหลังจากการหายตัวไปของน้องบัง ตำรวจเปิดเผยว่ามีพยานอ้างว่ามีเด็กหญิงแต่งเครื่องแบบนักเรียน มีรูปร่างหน้าตาตรงกับน้องบัง ถูกพบอยู่ในรถยนต์ขณะรถติดสัญญาณไฟจราจรในตอนเช้าของวันที่เธอหายไป
วันที่ 16 มิถุนายน 2015: สี่ปีหลังจากการหายตัวไปของน้องบัง ตำรวจยอมรับว่า ยังไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้นกับเธอ
วันที่ 6 มิถุนายน 2015: ห้าปีหลังจากการหายตัวไปของน้องบัง ยังไม่มีวี่แวว แต่ตำรวจยังไม่ละความพยายามที่จะตามจับคนร้ายมาลงโทษ
สำหรับผู้ทราบเบาะแส สามารถให้ข้อมูลได้ที่ Crime Stoppers หมายเลข 1800 333 000
หมายเหตุ ๑ ท่านสามารถดูคลิปวีดีโอของเธอได้ที่ “https://www.youtube.com/watch?v=wT3tMr0W4J8” ในชื่อเรื่อง MYSTERY DISAPPEARANCE OF SCHOOLGIRL BUNG SIRIBOON – LITTLE GIRL LOST !
หมายเหตุ ๒ ท่านสามารถอ่านเรื่องราวของน้องบัง-สิริยากร ได้ด้วยการคลิก “สิริยากร ศิริบูรณ์ – น้องบัง” ที่ Tags ด้านล่างครับ
jingjonews.com
jingjonews@hotmail.com
จิงโจ้นิวส์เป็นสื่อออนไลน์มีวัตุถุประสงค์เพื่อการเผยแพร่ข่าวสาร, บทความและประชาสัมพันธ์เพื่อชุมชน โดยปลอดจากการโฆษณาในเชิงพาณิชย์
Categories: ข่าวออสเตรเลีย
Leave a Reply