8 ธ.ค. 2015 มารดาผู้บังคับให้บุตรสาววัย 5 ขวบออกไปยืนหน้าร้านอาหารบังคับให้เอาแขนชูขึ้นบนอากาศเป็นเวลาอย่างน่้อยครึ่งชั่วโมง และตีเธอซ้ำแล้วซ้ำอีก เพียงแค่เธอไม่ยอมกินอาหารมื้อกลางวันเท่านั้น ถูกศาลตัดสินมีความผิด แต่ลดโทษจำให้รอลงอาญา 1 ปี 6 เดือน

คดีนี้ถือเป็นอุทาหรณ์สำหรับผู้อพยพที่มาจากต่างวัฒนธรรมพึงทำความเข้าใจ เพราะเมื่อเกือบ 20 ปีที่ผ่านมาเคยเกิดขึ้นกับมารดาชาวไทย เมื่อบุตรสาวของเธอพูดออกมาตามภาษาเด็กกับครูประจำชั้นว่า “เมื่อวานหนูถูกแม่ตี” เท่านั้นเองครูประจำชั้นได้รายงานไปถึงครูใหญ่ ครูใหญ่ได้รายงานไปยังกระทรวงบริการชุมชน จากนั้นเจ้าหน้าที่กระทรวงก็มารับเด็กไปอยู่ในความดูแล กว่าเรื่องจะเคลียร์ให้ทางการยอมอนุญาตให้เด็กกลับมาอยู่ในอ้อมอกแม่ชาวไทยก็ต้องเสียเวลาพักใหญ่ ซึ่งข่าวนี้เคยรายงานในหนังสือพิมพ์ไทย-ออสนิวส์มาแล้ว

สำหรับเรื่องล่าสุดผู้เป็นมารดาชาวเกาหลีใต้วัย 40 ปี ผู้ซึ่งถูกนำตัวขึ้นศาลท้องถิ่น Newtown ในเขตซิดนีย์ตอนใน โดยใช้ล่ามแปลภาษา เธออยู่ในอาการร่ำไห้เมื่อผู้พิพากษา Robert Williams ตัดสินว่าเธอมีความผิดฐานทำร้ายร่างกายสมาชิกภายในครอบครัว หลังจากเธอยอมรับสารภาพผิดต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในเดือนกรกฎาคมที่ผ่านมา

ก่อนหน้านี้เธอถูกดำเนินคดีทั้งสิ้น 6 ข้อหา แต่ข้อหาทำร้ายร่างกายบุตรอีก 6 ข้อหาได้ถูกถอนออกไป

ผู้พิพากษา Williams กล่าวว่า แม้จำเลยจะรู้สึกเสียใจ และเข้าสู่กระบวนการแข้ไขพฤติกรรมของตนให้ถูกต้องโดยผ่านหลักสูตรการเลี้ยงดูบุตรและเข้าอบรมการจัดการอารมณ์ แต่คดีของเธอถือว่าร้ายแรงระดับสูงต่อการทำร้ายบุตรผู้อยู่ในวัยที่เปราะบาง

สตรีชาวเกาหลีผู้ได้รับการปิดบังชื่อและสกุลเพื่อผลประโยชน์ของเด็กหญิงถูกศาลตัดสินให้รอลงอาญาเป็นเวลา 18 เดือนและปรับเป็นเงิน 1,200 เหรียญ

ในระหว่างพิจารณาคดีศาลได้รับฟังว่า มารดารายนี้ได้สั่งให้บุตรสาวออกไปยืนชูแขนภายนอกร้านอาหารของครอบครัวเป็นเวลาอย่างน้อย 30 นาทีเนื่องจากเด็กหญิงมัวแต่สาละวนอยู่กับชุดซ้อมบัลเล่ต์ของเธอมากกว่ากินอาหารกลางวัน

ในขณะที่เด็กหญิงยืนชูแขนอยู่ภายนอกผู้เป็นมารดาได้เอามือตีท้องเธอหลายทีแล้วเอากำปันทุบหลังบุตรสาว ในขณะที่เธอตะโกนด้วยภาษาเกาหลีใส่เด็กคนหนึ่งมี่ผ่านมาและล้อเลียนเธอ แรงทุบตีทำให้ร่างของเด็กหญิงโย้ไปข้างหน้าและโย้ไปข้างหลัง

เมื่อเด็กพยายามจะโผเข้ากอดมารดา เธอก็ขัดขืนและจับแขนของบุตรสาวให้ชูขึ้นต่อไป พยานเข้ามาเห็นเหตุการณ์ทนเห็นเด็กถูกทารุณไม่ได้ จึงใช้โทรศัพท์มือถือทำการถ่ายภาพนิ่งและบันทึกวีดีโอไว้ก่อนโทรศัพท์เรียกตำรวจ

ตำรวจมาถึงในอีกสองชั่วโมงเศษต่อมาในขณะที่เด็กเข้าเรียนว่ายน้ำ ผู้เป็นมารดาให้การว่าเธอลงโทษบุตรสาวเพียง 5 นาทีเท่านั้น แต่เมื่อตำรวจหลอกถามเด็กหญิง เธอตอบตามภาษาซื่อออกมาเป็นชุดว่า “มัมมี่ให้หนูยืนชูมือตั้งนาน มัมมี่ทำโทษหนู มัมมี่ตีท้องหนูด้วยมือ เพราะหนูไม่ยอมกินอาหาร”

นาง Athena Touriki เนติบัณฑิตผู้ทำหน้าที่ว่าต่างแทนผู้เป็นมารดากล่าวว่า การลงโทษดังกล่าวถือเป็นการลงโทษทางวินัยที่ปฏิบัติกันทั่วไปในประเทศเกาหลี และลูกความของเธอก็เคยถูกลงโทษเช่นนี้มาก่อน

แต่ผู้พิพากษา Williams ไม่รับฟังข้อแก้ต่าง ซึ่งนาง Touriki นำขึ้นมาอ้างเพื่อขอให้ศาลละเว้นจากการบันทึกในประวัติอาชญากรรม และไม่เห็นด้วยกับการเอาข้ออ้างทางวัฒนธรรมมาเป็นข้อหักล้างความผิดทำร้ายร่างกาย

มารดาของเด็กวัย 5 ขวบขณะอยู่ภายนอกศาลท้องถิ่น Newtown

jingjonews@hotmail.com

จิงโจ้นิวส์เป็นสื่อออนไลน์มีวัตุถุประสงค์เพื่อการเผยแพร่ข่าวสาร, บทความและประชาสัมพันธ์เพื่อชุมชน   โดยปลอดจากการโฆษณาในเชิงพาณิชย์ 

Categories: ข่าวออสเตรเลีย

Tags: การทารุณกรรมเด็ก, การใช้ความรุนแรงภายในครอบครัว, ข่าวรัฐน.ซ.ว., ข่าวออสซี่, ข่าวออสเตรเลีย, รัฐน.ซ.ว., รัฐนิวเซาท์เวลส์, เกาหลีใต้