โรงพยาบาลให้ทารกกินนมผิดแม่ลูก หวุดหวิดเกือบเข้าคอร์สตรวจโรคชุดใหญ่

โรงพยาบาล North Shore Private : ภาพจากข่าวทีวี 7

โรงพยาบาล North Shore Private : ภาพจากข่าวทีวี 7

31 ต.ค. 2015 ได้เกิดการรั่วไหลของข่าวว่ามีโรงพยาบาลแห่งหนึ่งในซิดนีย์ได้มอบทารกเกิดใหม่ให้กับผู้เป็นมารดาสลับกัน ซึ่งอาจส่งผลต่อความเสี่ยงทางสุขภาพและผลทางอารมณ์ของผู้เป็นบิดามารดาของทั้งสองฝ่าย

หลังจากข่าวนี้ถูกสถานีวิทยุ 2UE เผยแพร่ออกไป โรงพยาบาลเอกชน North Shore Private ที่ย่าน St Leonards ทางซิดนีย์เหนือตอนล่างได้ออกมายอมรับว่า มีการมอบเด็กทารกให้กับมารดาผิดคนอยู่คู่หนึ่ง แต่ได้พบถึงความผิดพลาดในเวลาอันสั้น และได้จัดการแก้ไขก่อนที่มารดาทั้งสองจะให้นมทารก ซึ่งเหตุการณ์นี้เกิดขึ้นมาสามสี่เดือนก่อนหน้านี้ (ผู้รายงานข่าวใช้คำว่า some months ago)

นาง Judith Kiejda ผู้ช่วยเลขาธิการสมาคมพยาบาลและพยาบาลผดุงครรภ์แห่งรัฐนิวเซาท์เวลส์ (NNMA) กล่าวว่าการสลับเด็กทารกเป็นเหตุการณ์ที่มีโอกาสเกิดขึ้นน้อยมาก แต่การเกิดหนึ่งครั้งก็ถือว่ามากเกินพอ และไม่ควรจะเกิดขึ้น   แต่โชคดีที่มีการพบความผิดพลาดและแก้ไขในเวลาอันรวดเร็ว

เธอกล่าวว่า หากทารกทั้งสองได้กินนมจากผู้ที่ไม่ใช่มารดาที่แท้จริง ทารกทั้งสองก็จะต้องเข้าสู่ขบารการตรวจเลือดชุดใหญ่

ศจ. Hannah Dahlen แห่งภาควิชาการผดุงครรภ์มหาวิทยาลัยเวสเทิร์นซิดนีย์ (WSU) กล่าวว่า แม้กรณีมารดาที่ติดเชื้อเอชไอวีจะพบไม่มากนัก และความเสี่ยงต่อการติดเชื้อโดยผ่านการดื่มน้ำนมจากมารดาที่ติดเชื้อแทบไม่มี หรือความเสี่ยงจากการดื่มน้ำนมที่มารดาติดเชื้อไวรัสลงตับชนิด C ซึ่งก็มีความเสี่ยงต่ำมากเช่นกัน   แต่ตามระเบียบปฏิบัติงานก็จำเป็นต้องมีการตรวจเลือดทุกครั้งหากมีการให้ทารกกินนมสลับมารดา

ศจ. Dahlen กล่าวว่าความเสี่ยงที่จะเกิดขึ้นกับเหตุการณ์นี้ก็คือบาดแผลทางอารมณ์ (emotional trauma) ที่จะเกิดกับผู้เป็นมารดาและบิดาของทั้งสองฝ่าย ที่จะต้องเสียความรู้สึกต่อการที่บุตรของตนไปกินน้ำนมของคนอื่น

เธอกล่าวว่า ทารกทุกคนมีความฉลาดโดยธรรมชาติ พวกเขารับรู้ถึงกลิ่นสัมผัสของมารดา แต่ก็อาจยอมรับการกินนมจากอกของผู้ที่ไม่ใช่มารดาที่มาจ่อให้ถึงปาก

jingjonews@hotmail.com

จิงโจ้นิวส์เป็นสื่อออนไลน์มีวัตุถุประสงค์เพื่อการเผยแพร่ข่าวสาร, บทความและประชาสัมพันธ์เพื่อชุมชน   โดยปลอดโฆษณาในเชิงพาณิชย์  



Categories: ข่าวออสเตรเลีย

Tags: , , , , ,

Leave a Reply

%d bloggers like this: