
นสพ. NT News ฉบับ 22 ต.ค. 2015 ลงข่าวการสังหารแม่ลูกจากเมืองอลิซสปริงส์ ผู้เป็นลูกถูกใส่ในกระเป๋าเดินทางไปทิ้งในรัฐเซาท์ออสเตรเลีย ส่วนมารดาถูกฝังอยู่ในป่ารัฐน.ซ.ว.
23 ต.ค. 2015 ข่าวนี้กลายเป็นคดีเปิดปมต่อเนื่องจากข่าวใหญ่ขึ้นหน้าหนึ่งในหนังสือพิมพ์หลายฉบับถึงการพบซากโครงกระดูกเด็กเล็กภายในกระเป๋าเดินทางที่ถูกทิ้งไว้ริมทางหลวงในรัฐเซาท์ออสเตรเลียเมื่อเดือนกรกฎาคมที่ผ่านมา ตรวจพบมี DNA แสดงความเป็นแม่ลูกกับหญิงสาวผู้ถูกพบโครงกระดูกฝังห่างกัน 1,137 กม.ในป่าลึกรัฐน.ซ.ว.เมื่อเดือนสิงหาคม 2010 จนนำไปสู่คำถามที่ว่าสองแม่ลูกนี้คือใคร และใครฆ่าทั้งสอง
การขยายผลของปริศนาศพนิรนามเกิดขึ้นเมื่อ มีผู้ไปพบโครงกระดูกของเด็กหญิงอยู่ในกระเป๋าใส่เสื้อผ้าสำหรับเดินทาง (weathered suitcase ) ที่มีผู้นำมาทิ้งไว้ข้างทางด่วน Karoonda Highway ห่างจากเมือง Wynarka ในรัฐเซาท์ออสเตรเลียประมาณ 1.5 กม. เมื่อวันที่ 14 กรกฎาคม 2015 ที่ผ่านมา
ก่อนหน้านี้ในระหว่างวันที่ 13 เมษายน ถึง 26 พฤษภาคม 2015 มีผู้พบเห็นชายชราคนหนึ่งถือกระเป๋าเดินทางอย่างเดียวกันออกจากเมือง Wynarka

นสพ. Herald Sun ฉบับ 18 กรกฎาคม 2015 แสดงภาพชุดแต่งกายเด็กหญิงติดกระดุม รองเท้าสีชมพูปักรูปผีเสื้อ และกระเป๋าเดินทางที่ใช้ใส่ร่างอันไร้วิญญาณของนางฟ้าตัวน้อย
หลังจากซากโครงกระดูกของเด็กน้อยถูกพบในวันที่ 14 กันยายน 2015 สื่อมวลชนได้เสนอข่าวนี้อย่างต่อเนื่องถึงปริศนาที่มาของเด็กคนนี้ หนังสือพิมพ์ Herald Sun ฉบับ 18 กรกฎาคม 2015 ได้ขึ้นหน้าหนึ่งด้วยข้อความ “ตำรวจออกปฏิบัติการตามหาทั่วประเทศเพื่อพิสูจน์เอกลักษณ์เด็กและควานหาฆาตกร” พร้อมกับพาดหัวตัวใหญ่ว่า “นางฟ้าในกระเป๋าเดินทาง” หรือ “Angel In A Suitcase” และคำว่า Angel นี่เองเกิดไปสอดคล้องกับชื่อที่ตำรวจตั้งให้กับหญิงสาวลึกลับคนหนึ่งที่พบแต่โครงกระดูกกลางป่า Belanglo State Forest ในรัฐน.ซ.ว.เมื่อวันที่ 29 สิงหาคมปี 2010 เธอถูกตั้งชื่อว่า Angel ตามภาพพิมพ์ที่ปรากฎบนเสื้อยืดสีขาวมีภาพหัวใจสีชมพูมีปีกสีขาว, มีดอกกุหลาบสีขาว และคำว่า Angelic
ความพยายามติดตามหาว่า Angle เป็นใคร ไม่ได้ตามหาเพียงในออสเตรเลีย แต่ตำรวจออสเตรเลียได้ขอความร่วมมือไปยังตำรวจสากลและเผยแพร่ภาพสเก็ตของ Angel โพสต์ออนไลน์ไปทั่วโลก รวมถึงสื่อนสพ.ไทย-ออสนิวส์และจิงโจ้นิวส์ได้นำเสนอข่าวนี้มาอย่างต่อเนื่อง โดยขั้นแรกเชื่อว่า Angel เป็นสตรีชาวเอเชียที่เข้ามาโดยวีซ่านักเรียนหรือนักท่องเที่ยว แต่ผลการพิสูจน์ด้วยเทคโนโลยี่ที่ทันสมัยขึ้น ในเวลาต่อมาทำให้เชื่อว่าเธอเป็นชาวคอเคเชียน
แต่ Angel ในป่าลึกกับนางฟ้าน้อยในกระเป๋าเดินทางก็ไม่น่าจะเกี่ยวข้องกัน เพราะจุดที่พบศพอยู่คนละรัฐและห่างกันถึง 1,137 กม. แต่ผลการตรวจ DNA จากศพทั้งสองกลับพบสิ่งที่เหลือเชื่อก็คือ ทั้งสองเป็นแม่ลูกกันโดยสายเลือด
เมื่อไขปริศนาได้เปราะหนึ่ง ตำรวจเกือบมาถึงทางตันเมื่อไม่ทราบว่า สองแม่ลูกนางฟ้าคือใคร เพราะไม่มีประวัติการแจ้งความสองแม่ลูกในวัยประมาณ 20 ปี (บวกลบ 3 ปี) และ 2 ขวบหายตัวไป
แต่เป็นเพราะความขยันของตำรวจในการขยายไปตรวจแฟ้มคดี “ขอถอนแจ้งความ” จึงพบคดีแจ้งความคนหายในวันที่ 4 กันยายนปี 2009 โดยมารดาของนาง Karlie Jade Pearce Stevenson เข้าแจ้งความว่า บุตรสาวและด.ญ. Khandalyce หลานยายของเธอหายตัวไป แต่ในอีก 6 วันต่อมาผู้เป็นมารดาได้มาขอถอนแจ้งความ โดยบอกว่าได้รับการติดต่อกลับมาจากบุตรสาวแล้ว
จากข้อมูลของตำรวจพบว่านาง Stevenson และ Khandalyce บุตรสาวได้ออกเดินทางจากบ้านที่เธออยู่อาศัยกับมารดาที่ Alice Springs (เมืองนี้อยู่ในใจกลางทวีปออสเตรเลียในดินแดนนอร์เทิร์นเทร์ริทอรี (NT) ห่างจากเมืองดาร์วิน 1,499 กม.และจากนครแอดิเลด 1,532 กม.)
มีผู้พบเห็นเธอและลูกครั้งสุดท้ายในวันที่ 8 พฤศจิกายนปี 2008 เมื่อเธอถูกตำรวจทางด่วนเรียกตรวจในขณะขับรถมาตามทางด่วน Stuart Highway บริเวณเมือง Coober Pedy ในขณะนั้นนาง Stevenson อายุ 20 ปีและบุตรสาวของเธออายุ 2 ขวบ
ในปี 2009 ความพยายามตามหานาง Stevenson และบุตรได้เกิดขึ้นเพื่อต้องการให้เธอกลับมาเยี่ยมมารดาที่ป่วย แต่พอมารดาของเธอเสียชีวิตในปี 2010 ชุมชนห่างไกลในเมือง Alice Springs ก็ไม่ได้ความสนใจในการตามหาเธอและลูกอีกเลย
ขณะนี้ตำรวจเหลืออยู่เพียงปริศนาสุดท้ายคือ ใครเป็นฆาตกรในคดีนี้

ภาพแสดงจุดที่พบมารดาและบุตรครั้งสุดท้ายที่ Coober Pedy ในรัฐเซาท์ออสเตรเลีย, จุดพบศพบุตรสาวข้างทางด่วน Karoonda Highway รัฐเซาท์ออสเตรเลีย, และศพของผู้เป็นมารดาที่ป่า Belanglo State Forest รัฐน.ซ.ว. (ภาพชั่วคราวจากนสพ. NT News)
หมายเหตุ ท่านสามารถอ่านข่าวเกี่ยวเนื่องกับการเสียชีวิตของสองแม่ลูก Karlie และ Khandalyce ได้ด้วยการกดคลิกที่ “คดี Angel” ที่ Tags ท้ายข่าวนี้
jingjonews.com
jingjonews@hotmail.com
จิงโจ้นิวส์เป็นสื่อออนไลน์มีวัตุถุประสงค์เพื่อการเผยแพร่ข่าวสาร, บทความและประชาสัมพันธ์เพื่อชุมชน โดยปลอดจากการโฆษณาในเชิงพาณิชย์
Categories: ข่าวออสเตรเลีย
Leave a Reply