21 ส.ค. 2015 หญิงชราวัย 93 ปีที่ช่วยเหลือตัวเองไม่ได้ ได้รับความช่วยเหลือให้ออกจากบ้านพักของเธอเอง หลังจากบุตรชายซึ่งอาศัยอยู่กับเธอ อ้างว่ามารดาของเขาจะอดอาหารประท้วง หากหน่วยงานของรัฐไม่ยอมโอนอำนาจให้เขาควบคุมการเงินของมารดา
แต่เมื่อวันที่ 21 กรกฎาคมที่ผ่านมาคณะอนุญาโตตุลาการด้านพลเรือนและการจัดการของรัฐควีนสแลนด์ (QCAT) กลับมีคำสั่งให้ PG หรือผู้ปกครองสาธารณะ (Public Guardian) ใช้อำนาจตามกฎหมายเท่าที่มีในการนำหญิงชราออกจากบ้านเพื่อนำไปดูแล เพราะพิจารณาแล้วเห็นว่าเธออยู่ในสถานภาพเสี่ยงจากการคุกคามหรือเลินเล่อจากผู้เป็นบุตร
ทางด้านตำรวจกล่าวแก่ PG ว่า ผู้เป็นบุตรซึ่งได้รับการปกปิดชื่อตามกฎหมาย เป็นผู้ที่ตำรวจรู้จักดี (หมายถึงมีประวัติทางคดีอาญา) และเชื่อว่าเขาอาจมีอาวุธปืนอยู่ในบ้าน
สำหรับหญิงชราผู้นี้มีปัญหาทางการเคลื่อนไหวลำบากตามอายุขัย, มีตาที่พร่ามัวและหูตึง เธอมีบ้านเป็นคนตนเอง, มีรายได้จากการให้เช่าอสังหาริมทรัพย์หลายหลัง และมีเงินลงทุนอีก 824,000 เหรียญ
ก่อนหน้านี้ในเดือนธันวาคม 2014 คณะอนุญาโตตุลาการ QCAT ได้สั่งให้ผู้ปกครองสาธารณะเข้ารับผิดชอบในการจัดการที่พัก, ดูแลการรักษาพยาบาลและจัดการบริการต่าง ๆ เท่าที่จำเป็น ซึ่งเป็นครั้งแรกที่ PG ยื่นมือเข้ามาช่วยเหลือในคดีนี้
จากนั้นทรัสตีสาธารณะหรือผู้จัดการมรดกสาธารณะ (PT) ได้ถูกแต่งตั้งให้เข้ามาจัดการเรื่องการเงินทุกอย่างของหญิงชรา หลังจากตรวจพบบุตรชายเล่นแร่แปรธาตุโอนถ่ายเงินของมารดาไปอย่างไม่ชอบด้วยกฎหมาย เช่นทำใบเสร็จค่าซ่อมแซมปลอมเพื่อถอนเงินออกไป ในขณะที่ PG ยังไว้ใจที่จะให้หญิงชราอาศัยอยู่กับบุตรชาย
ในวันนี้ 2 มิถุนายน ผู้เป็นบุตรชายได้บอกกับ PG ว่า ถ้าเขาไม่ได้ควบคุมการเงินตามที่เขาต้องการ มารดาของเขาจะอดอาหารประท้วง จึงทำให้เรื่องกลับคืนสู่การตัดสินใจของคณะอนุญาโตตุลาการ QCAT อีกครั้งหนึ่ง
ในระหว่างการพิจารณา ผู้เป็นมารดาได้ให้ปากคำว่า เธอมีความประสงค์จะให้บุตรชายเป็นผู้ดูแลการเงินของเธอ และการตัดสินใจของเธอไม่ได้อยู่ภายใต้อิทธิพลหรือแรงกดดันใด ๆ
แต่พยานจากฝ่ายเจ้าหน้าที่สังคมสงเคราะห์กล่าวว่า บุตรชายได้ยุติการพามารดาไปโรงพยาบาลแม้ว่าเธอมีอาการเจ็บปวดทรมาน และกีดกันไม่ให้เธอไม่ได้รับการช่วยเหลือใด ๆ ในที่พักอาศัย
ในขณะนั้นผู้เป็นมารดาจำต้องพึ่งบุตรชายทุกประการ รวมถึงเรื่องของอาหาร ทางด้านผู้ปกครองสาธารณะเชื่อว่าการอดอาหารประท้วงมาจากแรงกดดันจากผู้เป็นบุตรชาย
คณะอนุญาโตตุลาการ QCAT กล่าวว่า การออกหมายเข้าบ้านและนำบุคคลออกมาจากบ้านเป็นสิ่งจำเป็น หลังจากประเมินถึงความปลอดภัยของหญิงชราว่า เป็นความเสี่ยงต่อภัยคุกคามที่ต้องเข้าช่วยเหลืออย่างเร่งด่วน เนื่องจากผู้เป็นบุตรไม่ยอมให้เจ้าหน้าที่ของ PG และหน่วยงานบริการอื่น ๆ เข้าไปพบหญิงชราโดดเด็ดขาด
และด้วยเงื่อนไขของการอดอาหารประท้วงแสดงให้เห็นว่า ผู้เป็นบุตรชายเต็มใจที่จะใช้การอดอาหารของมารดาเป็นเครื่องต่อรองเพื่อให้ได้ในสิ่งที่เขาต้องการ
jingjonews.com
jingjonews@hotmail.com
จิงโจ้นิวส์เป็นสื่อออนไลน์มีวัตุถุประสงค์เพื่อการเผยแพร่ข่าวสาร, บทความและประชาสัมพันธ์เพื่อชุมชน โดยปลอดจากการโฆษณาในเชิงพาณิชย์
Categories: ข่าวออสเตรเลีย
Leave a Reply