นครเมลเบิร์น

15 ส.ค. 2015 นครเมลเบิร์นได้แซงหน้ากรุงลอนดอนและซิดนีย์ที่เจอปัญหาค่าเช่าที่พักและค่าครองชีพแพงหูฉี่ขึ้นไปเป็นเมืองที่เหมาะสมต่อการศึกษาในอันดับที่สองของโลกรองจากกรุงปารีสเรียบร้อยแล้ว

จากการจัดอันดับของดัชนี QS Best Student Cities Index ด้วยการพิจารณาจากปัจจัย 18 ประการ เพื่อจัดอันดับ 50 เมืองที่ชาวต่างชาติน่าไปศึกษาหาความรู้ที่สุดของโลก ปัจจัยที่นำมาคำนวณรวมถึงความเป็นเมืองที่มีมหาวิทยาลัยที่น่าเชื่อถือ, มีคุณภาพชีวิตที่ดี, มีโอกาสในการได้ทำงาน, ค่าใช้จ่ายในการดำรงชีพที่ไม่แพงเกินไป และความมีชีวิตชีวาของชุมชนนักศึกษาเป็นต้น

กรุงปารีสยังคงถูกจัดเป็นเมืองที่ดีที่สุดของโลกในการเดินทางไปศึกษาเป็นปีที่สามติดต่อกัน ในขณะที่นครเมลเบิร์นแซงหน้ากรุงลอนดอนและซิดนีย์ขึ้นมาอยู่ในอันดับสอง   โดยมีนครซิดนีย์ตกลงมาอยู่ในอันดับที่สี่

ศจ. Susan Elliott รองอธิการบดีฝ่ายนักศึกษานานาชาติของมหาวิทยาลัยเมลเบิร์นกล่าวว่า การเลื่อนขึ้นมาอยู่อันดับสองรองจากปารีสถือว่าไม่เลวทีเดียว เพราะเมลเบิร์นเป็นที่ชื่อชมและยอมรับในวงกว้าง ในฐานะที่เป็นศูนย์กลางของความหลายหลากทางวัฒนธรรมที่ยิ่งใหญ่ของโลก เป็นสถานที่ต้อนรับความแตกต่างในวัฒนธรรม, เป็นที่ที่มีความหลายหลากในด้านอาหาร, การกีฬา, สิ่งอำนวยสะดวก และเป็นเมืองที่มีความปลอดภัยสูง

สำหรับมหาวิทยาลัยเมลเบิร์น ได้เป็นที่ศึกษาของนักศึกษามาจากประเทศต่าง ๆ กว่า 120 ชาติ

ศจ. Owen Hughes แห่งมหาวิทยาลัย RMIT กล่าวว่าเมลเบิร์นเป็นที่ยอมรับมานานแล้วว่า เป็นเมืองที่ให้ความมีชีวิตชีวาแก่นักศึกษาที่สุดแห่งหนึ่งของโลก ในฐานะที่เมลเบิร์นเป็นศูนย์กลางทางวัฒนธรรมของออสเตรเลีย

เขากล่าวว่าเมลเบิร์นมีคาเฟ่, ถนนสายดนตรี, ร้านอาหาร, เลนเวย์ และมีระบบการขนส่งที่ดี นักศึกษาต่างชาติสามารถหาประสบการณ์การใช้ชีวิตและการทำงานที่หาเมืองอื่น ๆ ในโลกเทียบเท่าได้น้อยมาก

ในปี 2014 ที่ผ่านมานครเมลเบิร์นมีนักศึกษาลงทะเบียนเรียนในมหาวิทยาลัยทั้งสิ้น 109,000 คน ในจำนวนนี้เป็นนักศึกษาต่างชาติจำนวน 32,000 คน

บรรยากาศร้านค้าและทางเดินเท้าในนครเมลเบิร์น จากภาพประชาสัมพันธ์ของ Londale Institue.vic.edu.au

สำหรับสถานที่เหมาะสำหรับการการเดินทางไปศึกษา 20 อันดับแรกของโลกและคะแนนที่ได้รับคือ

1. ปารีส – ฝรั่งเศส 412.0
2. เมลเบิร์น – ออสเตรเลีย 397.0
3. ลอนดอน – สหราชอาณาจักร 392.0
4. ซิดนีย์ – ออสเตรเลีย 388.0
5. ฮ่องกง – ฮ่องกง 387.0
6. บอสตัน – สหรัฐ 386.0
7. โตเกียว – ญี่ปุ่น 385.0
8. มอลทรีล – แคนาดา 380.0
9. โตรอนโต – แคนาดา 375.0
10. โซล – เกาหลีใต้ 372.0
11. ซูริช – สวิตเซอร์แลนด์ 370.0
12. แวนคูเวอร์ – แคนาดา 364.0
13. ชานฟรานซิโก – สหรัฐ 360.0
14. มิวนิค – เยอรมันนี 359.0
15. สิงคโปร์ – สิงคโปร์ 357.0
16. เบอร์ลิน – เยอรมันนี 356.0
17. นิวยอร์ก – สหรัฐ 352.0
18. ชิคาโก – สหรัฐ 347.0
19. บาร์เซโลนา – สเปน 346.0
20. เวียนนา – ออสเตรีย 338.0
21. แคนเบอร์ร่า – ออสเตรเลีย 336.0
22. บริสเบน – ออสเตรเลีย 333.0  (อันดับที่ 23 โปรแกรมไม่ยอมให้แก้)
23. แอดิเลด – ออสเตรเลีย 324.0  (อันดับ 29 โปรแกรมไม่ยอมให้แก้)
24. เพิร์ท – ออสเตรเลีย 310.0  (อันดับ 38โปรแกรมไม่ยอมให้แก้)

jingjonews@hotmail.com

Categories: ข่าวออสเตรเลีย

Tags: ข่าวการศึกษา, ข่าวรัฐวิกตอเรีย, ข่าวออสซี่, ข่าวออสเตรเลีย, รัฐวิกตอเรีย