นสพ. the Advertiser ฉบับ 1 ก.ค. 2015 เป็นหนึ่งในหนังสือพิมพ์หลักที่เสนอข่าวเหตุการณ์จลาจลภายในเรือนจำในนครเมลเบิร์น

1 ก.ค. 2015 เมื่อตอนบ่ายของวันที่ 30 มิถุนายนที่ผ่านมา ตำรวจปราบจลาจลรัฐวิกตอเรียพร้อมอาวุธหนักได้เขาระงับเหตุนักโทษก่อความวุ่นวายภายในศุยน์ฝากขังในระหว่างรอพิจารณาคดี Metropolitan Remand Centre (MRC) ที่ Ravenhall ในนครเมลเบิร์น (ปัจจุบันใช้เป็นที่ขังนักโทษด้วย) โดยเชื่อว่า มีมูลเหตุมาจากพวกเขาต่อต้านกฎห้ามสูบบุหรี่ที่จะมีผลในวันรุ่งขึ้น

ทั้งนี้นักโทษจำนวนประมาณ 300 คนภายในศูนย์ฝากขังที่ใหญ่ที่สุดในรัฐวิกตอเรียได้ก่อเหตุวุ่นวาย ด้วยการใช้เศษไม้มากองแล้วจุดไฟ ในขณะที่นักโทษอีกประมาณ 50 คนพร้อมอาวุธมีทั้งแท่งโลหะและท่อนไม้เข้าพังประตูและหน้าต่างเพื่อยึดอาคาร เป็นผลให้เจ้าหน้าที่เรือนจำและผู้เข้าเยี่ยมต้องเผ่นหนีเอาชีวิตรอดออกมา

ตำรวจปราบจลาจลได้ถูกส่งมาเผชิญหน้ากับกลุ่มนักโทษ จนกระทั่งเวลา 15.30 น.จึงสามารถคุมสถานการณ์ส่วนใหญ่ไว้ได้ แต่ยังมีนักโทษอีกจำนวนหนึ่งยังคงไม่ยอมจำนน   กว่าจะคุมสถานการณ์ได้โดยสิ้นเชิงก็ใช้เวลาล่วงไปถึง 23.30 น.

ตำรวจได้ปฏิบัติการสยบนักโทษก่อการจลาจลด้วยการใช้แก๊สน้ำตากับกลุ่มนักโทษที่เข้ายึดห้องควบคุมภายในอาคารรวม และฉีดน้ำความดันสูงสลายกลุ่มนักโทษที่ต่อต้านอยู่ภายนอก

การปรามปรามจบลงด้วยเจ้าหน้าที่เรือนจำ 3 คนและนักโทษ 5 คนได้รับบาดเจ็บเล็กน้อย ในจำนวนนี้รวมถึงนักโทษสองคนถูกสุนัขตำรวจกัด

เป็นที่เข้าใจว่านักโทษที่เป็นสมาชิกแก๊งไบกี้ Hells Angels และแก๊ง Comancheros ที่ถูกแยกแดนกัน ต่างรื้อรั้วกั้นระหว่างกัน คราวนี้แก๊งไบกี้คู่อริต่างมีเป้าหมายเดียวกันคือต่อต้านคนของทางการ

ที่เรือนจำ Port Phillip ใน Truganina ซึ่งอยู่ใกล้เคียงกัน ได้มีคำสั่งให้นักโทษทุกคนเข้าห้องขังของตัวเองและใส่กุญแจล็อก แต่ก็มีนักโทษคนหนึ่งจุดไฟภายในห้องขังของเขา

นาง Jan Shuard ผู้อำนวยการทัณฑสถานรัฐวิกตอเรียกล่าวว่า การก่อการจลาจลครั้งนี้ ถือเป็นครั้งใหญ่ที่สุดเท่าที่เธอเคยเห็นมา

นาง Shuard เชื่อว่าการก่อจลาจลอาจมาจากการโต้ตอบที่เรือนจำออกกฎห้ามสูบบุหรี่ที่จะมีผลในวันรุ่งขึ้นที่ 1 กรกฎาคม

เธอกล่าวว่า ทัณฑสถานรัฐวิกตอเรียได้วางแผนห้ามสูบบุหรี่มาเป็นเวลา 1ปี 6 เดือนก่อนหน้านี้ โดยจะเริ่มมีผลบังคับใช้ในวันพรุ่งนี้ ( 1 กรกฎาคม) ในขณะที่เจ้าหน้าที่เรือนจำมีกฎห้ามสูบบุหรี่อยู่แล้ว

ผู้บริหารและเจ้าหน้าที่เรือนจำไม่ได้คาดว่า นักโทษจะใช้ความรุนแรงประท้วงนโยบายห้ามสูบบุหรี่ในเรือนจำทั้งหมด 13 แห่งทั่วรัฐวิกตอเรีย

จุดประสงค์ของการสั่งห้ามสูบบุหรี่ก็เพื่อปกป้องสุขภาพให้กับเจ้าหน้าที่และนักโทษในเรือนจำ และป้องกันภาระหนี้สินที่อาจเกิดขึ้นในอนาคต * ซึ่งเป็นมาตรการห้ามสูบบุหรี่อย่างเดียวกับที่ทัณฑสถานรัฐนิวเซาท์เวลส์จะนำมาใช้ โดยมีผลตั้งแต่วันที่ 10 สิงหาคมเป็นต้นไป

นาง Shuard ให้คำมั่นว่าจะมีการสอบสวนอย่างเต็มรูปแบบถึงสาเหตุของการก่อจลาจลว่าเกิดขึ้นได้อย่างไรและนักโทษครอบครองอาวุธได้อย่างไร

แหล่งข่าวกล่าวว่า ร้านขายของเล็กน้อยภายในโรงอาหารของศูนย์ฝากขัง MRC ได้ถูกนักโทษกว้านซื้อบุหรี่ไปหมดตั้งแต่หนึ่งสัปดาห์ก่อนหน้านี้

ในปัจจุบันศูนย์ฝากขัง MRC มีเจ้าหน้าที่ 100 นาย มีขีดความสามารถในการรับและดูแลนักโทษได้ 1,000 คน

หมายเหตุ * ในปี 2001 ได้เกิดคดีนาง Marlene Sharp วัย 62 ปีเป็นโจทย์ยื่นฟ้องสโมสร Kembla RSL ในเมือง Wollongong ผู้เป็นอดีตนายจ้างในข้อหาประมาทเลินเล่อและบกพร่องต่อการทำหน้าที่ดูแลพนักงาน จนทำให้เธอเป็นโรคมะเร็งที่คอ จากการได้สูบดมควันบุหรี่จากแขกที่มาเที่ยวสโมสรในขณะทำงานเป็นพนักงานเสิร์ฟ   นาง Sharp อ้างว่า เธอไม่เคยสูบบุหรี่และไม่เคยนำพาตัวไปสู่ที่มีความเสี่ยงใด ๆ ยกเว้นในสถานที่ทำงาน

ศาลฎีการัฐนิวเซาท์เวลส์ตัดสินให้เธอเป็นผู้ชนะคดี โดยได้รับเงินค่าเสียหาย 466,000 เหรียญ โชคดีที่เธอสามารถผ่าตัดเอาเนื้อร้ายออกได้   มิฉะนั้นมูลหนี้ค่าเสียหายจะสูงกว่านี้มาก  

คดีของนาง Sharp ถือเป็นคดีแรกของโลก ที่ลูกจ้างสามารถชนะคดีนายจ้าง จากการล้มป่วยด้วยการสูบควันบุหรี่ในสถานที่ทำงาน โดยที่เธอไม่ได้เป็นผู้สูบ หรือ passive smoking

jingjonews@hotmail.com

Categories: ข่าวออสเตรเลีย

Tags: ข่าวทัณฑสถาน, ข่าวรัฐวิกตอเรีย, ข่าวออสซี่, ข่าวออสเตรเลีย, นักโทษก่อจลาจล, รัฐวิกตอเรีย, เรือนจำในออสเตรเลีย