นสพ. the Telegraph ฉบับ 29 พ.ค. เสนอข่าวนาง Bianca Hayward ชนะคดีมารดาได้เป็นผู้บริหารกองทุนทรัสต์ที่เป็นของเธอและพี่น้อง
29 พ.ค. 2015 ศึกสายเลือดระหว่างแม่ลูกตระกูลที่รวยที่สุดในออสเตรเลียในการเป็นผู้ดูแลกองทุนทรัสต์ที่ผู้เฒ่า Lang Hancock บิดานาง Gina Rinehart จัดตั้งไว้ให้หลานตาสี่คนมูลค่า 4 พันล้านเหรียญ บัดนี้ศาลได้ตัดสินให้นาง Bianca Hope Hayward เป็นผู้ชนะคดีมารดาได้เป็นผู้บริหารทรัสต์เป็นที่เรียบร้อยแล้ว
คดีศึกสายเลือดซูเปอร์ไฮโซของประเทศ มีจุดเริ่มต้นในปี 1988 เมื่อผู้เฒ่า Lang Hancock เป็นห่วงหลาน ๆ ทั้ง 4 คนที่เกิดจากนาง Gina Rinehart บุตรสาวของเขา จึงจัดตั้งกองทุนทรัสต์ในนาม Hope Margaret Hancock Trust (ตามชื่อภรรยาคนแรกของเขาและเป็นมารดาของนาง Rinehart) เพื่อให้กับหลานทั้งสี่ โดยให้บุตรสาวเป็นผู้บริหาร โดยจะแบ่งแยกผลประโยชน์ในกองทุนทรัสต์เมื่อน.ส. Ginia Rinehart หลานตาคนเล็กมีอายุครบ 25 ปีบริบูรณ์ซึ่งตรงกับเดือนกันยายน 2011
แต่พอถึงในเดือนกันยายน 2011 สิ่งที่บุคคลภายนอกรับรู้ตามที่สื่อมวลชนในขณะนั้นรายงานได้ก็คือมีบุตรหนึ่งในสี่คนได้ยื่นฟ้องนาง Rinehart ผู้เป็นมารดา (คนฟ้องคือนาง Hope (Rinehart) Walker บุตรคนที่สามของนาง Rinehart)
และสิ่งที่สังคมยังไม่ได้รู้ก็คือ สามวันก่อนถึงวันเกิดปีที่ 25 ของน.ส. Ginia Rinehart, นาง Rinehart ได้แอบแก้เงื่อนไขวันสิ้นสุดการดูแลกองทุนทรัสต์จากปี 2011 เป็นปี 2068 หรือจะสิ้นสุดเมื่อบุตรชายคนโตมีอายุ 95 ปีและบุตรสาวคนสุดท้องมีอายุ 81 ปี)
จนกระทั่งในเดือนตุลาคม คราวนี้นาย John (Hayward) Hancock บุตรคนโต, น.ส. Bianca Hope Hayward บุตรคนที่สอง และนาง Hope (Rinehart) Walker บุตรคนที่สามได้ยื่นฟ้องขออำนาจศาลสั่งให้ถอดถอนผู้เป็นมารดาออกจากผู้ดูแลทรัสต์ ในขณะที่น.ส. Ginia Rinehart บุตรคนที่สี่ยืนอยู่ข้างมารดา
หมายเหตุนาง Rinehart มีสามีสองคน บุตรสองคนแรกเกิดจากนาย Greg Hayward (1973-83 สิ้นสุดโดยการหย่า) สองคนหลังเกิดจากนาย Frank Rinehart (1983 – 1990 สิ้นสุดโดยการเสียชีวิต)
ในเดือนกุมภาพันธ์ 2012 นาง Rinehart ได้แพ้คดีต่อการขอให้ศาลสั่งปกปิดการเปิดเผยรายละเอียดของคดีต่อสาธารณชน
ในเดือนมีนาคม 2012 บุตรทั้งสามได้ออกมาเปิดเผยว่ามารดาของพวกเขาได้แอบเปลี่ยนวันที่เธอจะหมดหน้าที่ ดูแลทรัสต์จากปี 2011 เป็นปี 2068
นาง Rinehart ได้ออกมาให้เหตุผลถึงสิ่งที่ทำลงไปว่า เธอมีเจตนาดีเพราะเกรงว่ากองทุนทรัสต์อาจจะล้มละลายตากการเจอภาษีกำไรจากทรัพย์สิน (capital-gain tax) หลายร้อยล้านเหรียญ แต่จากการตรวจสอบของสำนักงาน PricewaterhouseCoopers กลับพบว่าข้ออ้างของเธอไม่เป็นความจริง
ในเดือนตุลาคม 2013 นาง Rinehart แก้เกมด้วยการลาออกจากการเป็นผู้ดูแลทรัสต์ โดยเธอได้มอบงานให้กับผู้ที่เธออ้างว่าเป็นผู้บริหารอิสระเข้ามาดูแลทรัสต์แทน
ในเดือนมีนาคม 2014 นาง Hope Walker ได้ขอถอนตัวออกจากการฟ้องร้องมารดา โดยให้เหตุผลว่า “ตอนนี้เธอมีเงินเหลืออยู่แค่ 60,000 เหรียญ) และต่อมาเธอได้รับเงินปลอบขวัญจากมารดาในรูปแบบของการกู้ยืมเงินเป็นจำนวน 45 ล้านเหรียญ
ในเดือนมิถุนายน 2014 การพิจารณาคดีศึกสายเลือดระหว่างมารดากับบุตรสองคนที่เกิดจากสามีคนแรกได้เปิดฉากขึ้น
นาง Bianca Hayward อ้างว่าเธอคือบุคคลที่เหมาะสมที่สุดที่จะดูแลกองทุนทรัสต์ โดยมีนาย John Hancock พี่ชายคนโตให้การสนับสนุน
และในวันที่ 28 พฤษภาคม 2015 ผู้พิพากษา Paul Brereton แห่งศาลฎีกาได้ตัดสินให้น.ส. Bianca Hayward เป็นผู้ดูแลทรัสต์ซึ่งมีมูลค่า 23.45% ของกิจการเหมืองแร่หรือประมาณ 4 พันล้านเหรียญ
ศาลพบว่า แม้นาง Rinehart ได้ลงจากการเป็นผู้บริหารทรัสต์แล้ว แต่เธอก็ยังมีอำนาจในการควบคุมทรัสต์ทั้งทางตรงและทางอ้อม
ในระหว่างการดำเนินคดีศาลได้รับฟังว่า นาง Bianca Hayward ได้รับจดหมายจากส.ว. Barnaby Joyce (ร.มว.เกษตร) และส.ส. Alby Schultz (ส.ว.เขต Hume รัฐน.ซ.ว.) ขอให้เธอยุติการฟ้องร้องมารดา และพบว่านาง Rinehart ได้ขู่จะถอนการประกันภัยการลักพาเพื่อเรียกค่าไถ่ (kidnap ransom and extortion insurance) สำหรับตัวนาง Bianca Hayward และบุตรชายของเธอ
อย่างไรก็ตามศึกการฟ้องร้องระหว่างแม่กับลูกยังไม่จบลง เพราะยังมีคดีความที่ศาลสูง โดยนาย John Hancock และนาง Bianca Hayward กล่าวหามารดาว่ายักย้ายสินทรัพย์ออกไปจากกองทุนทรัสต์ ซึ่งถ้าศาลตัดสินนาง Rinehart ผิดจะทำให้กองทุนทรัสต์มีสัดส่วนในกิจการเหมืองแร่ 49% และส่วนของนาง Rinehart จะลดลงเหลือ 51% เท่านั้น
นสพ. SMH ฉบับ 29 พ.ค. เสนอข่าวนาง Bianca Hayward ชนะคดีมารดาได้เป็นผู้บริหารกองทุนทรัสต์ของเธอและพี่น้อง
jingjonews@hotmail.com
(หมายเหตุ จิงโจ้นิวส์เพิ่งทราบว่า followers ของจิงโจ้นิวส์ได้ถูกลบหายไปหมด ขอให้สมาชิกเดิมเข้ามาเป็น Followers ใหม่นะครับ)
Categories: ข่าวออสเตรเลีย
Leave a Reply