27 พ.ค. 2015 หญิงสาวชาวมุสลิมเจอข้อหาหนักถึงอาจติดคุก เหตุเกิดในระหว่างกองกำลังตำรวจร่วมปราบปรามการก่อการร้ายบุกเข้าตรวจค้นบ้านเป้่าหมาย เธอได้ชกหน้าตำรวจชายคนหนึ่ง และขู่จะเฉือดคอตำรวจหญิงอีกคนหนึ่ง
ในเหตุการณ์ครั้งนี้สตรีวัย 24 ปีที่ได้รับการปกปิดชื่อด้วยเหตุผลทางกฎหมายถูกกล่าวหาว่าได้ทำร้ายตำรวจชาย ในขณะที่เขาพยายามเข้าช่วยตำรวจหญิงคนหนึ่งที่พยายามค้นตัวเธอ แต่ถูกเธอขัดขืนและแสดงท่าทีใช้กำลังโต้ตอบ
ในการพิจารณาคดีที่ศาลแขวง Parramatta เมื่อวานนี้ที่ 26 พฤษภาคม จำเลยวัย 24 ปีได้ปฏิเสธที่จะยืนเคารพผู้พิพากษาหญิง Margaret McGlynn ผู้เข้าทำหน้าที่พิจารณาคดีที่เธอเป็นจำเลยต่อข้อกล่าวหาทำร้ายร่างกาย, ข่มขู่ และหมิ่นประมาทเจ้าพนักงานในขณะปฏิบัติหน้าที่
นาย Steven Boland เนติบัณฑิตประจำตัวเธอกล่าวว่า จำเลยไม่ได้มีเจตนาทำร้ายตำรวจ อีกทั้งเธอไม้ได้เป็นบุคคลเป้าหมายตามหมายค้น แต่ถูกตรวจค้นหลังจากตำรวจสังเกตเห็นจำเลยซุกซ่อนสิ่งของต้องสงสัย (ที่แท้คือโทรศัพท์มือถือ) ไว้ภายในชุดบูร์กาที่เธอสวมใส่ (burqa ชุดที่ปิดทุกส่วนของร่างกายยกเว้นช่องตา)
นาง Stacie Gwyn นายตำรวจลาดตระเวนอาวุโสกล่าวว่า เมื่อเธอพยายามที่จะขอตรวจโทรศัพท์มือถือจากจำเลย จำเลยได้ต่อสู้ขัดขืนเธอ หญิงสาวชาวมุสลิมพูดขึ้นว่า “อย่าแตะต้องโทรศัพท์ของฉัน, อีนังกระหรี่, แกมันพวกศาสนาคริสต์, แกจะตกนรกหมกไหม้ แกจะเป็นคนแรกในชุดเครื่องแบบที่จะถูกเฉือดคอ”
เธอพยายามจะใช้กำลังตอบโต้ เพื่อแย้งโทรศัพท์คืน แต่นายตำรวจชายได้เข้าจับแขนเธอไว้
พลฯ Shaun Temur นายตำรวจลาดตระเวนทดลองงานกล่าวว่า ในขณะที่เขาเข้าไปจับแขนซ้ายของจำเลย เธอก็ได้ยกกำปั้นมือขวาเสยตรงขึ้นมาชกที่จมูกเขาทันที ทำให้ตำรวจต้องจับเธอใส่กุญแจมือ และต่อมาตำรวจได้ปล่อยตัวเธอไปหลังจากออกหมายให้มาปรากฎตัวที่ศาล
พลฯ Temur กล่าวว่า จำเลยได้กล่าวกับนายตำรวจหญิงว่า “คุณไม่มีสิทธิ์ค้นตัวฉัน อีหมา…”
นาย Boland กล่าวว่า ลูกความของเขาไม่มีเจตนาทำร้ายตำรวจ เพียงแต่เธอยกแขนขึ้นเปะปะไปมา แล้วมือไปถูกจมูกนายตำรวจโดยไม่ตั้งใจ
นาย Scott Murphy นายตำรวจสอบสวนกลาง (AFP) ซึ่งเข้าร่วมปฏิบัติหน้าที่และอยู่ห่างจากที่เกิดเหตุไม่กี่เมตรกล่าวว่า เขาได้ยินจำเลยพูดกับนาง Gwyn ว่า “คุณแตะต้องตัวฉันไม่ได้ คุณก็เหมือนกับพวกแก๊งวายร้ายใช่ไหม? คุณอยู่ในเครื่องแบบคุณก็ต้องเหมือนพวกมัน (วายร้าย) มีคนเดียวที่มีสิทธิ (แตะตัวฉันได้) คือพระเจ้าของฉันเท่านั้น”
นาย Murphy กล่าวว่าหมายค้นดังกล่าวสามารถค้นใครก็ได้ในสถานที่ที่ระบุตามหมายค้น อีกทั้งตำรวจสามารถยึดโทรศัพท์มือถือของบุคคลได้หากสงสัยว่ามีหลักฐานอันเป็นประโยชน์ต่อรูปคดีถูกบันทึกไว้ อย่างไรก็ตามหลังจากเจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐานตรวจโทรศัพท์แล้ว ได้คืนให้จำเลยไป ในขณะที่การพิจารณาคดีนี้ผู้พิพากษา McGlynn สั่งเลื่อนไปในเดือนสิงหาคม
jingjonews@hotmail.com
Categories: ข่าวออสเตรเลีย
Leave a Reply